เซ็นสัญญา‘ไฮสปีด’ 24 ตุลาแค่ฉากแรก

22 ต.ค. 2562 | 04:00 น.

รายงานโดย : อนุวัฒน์ โพธิ์ทอง 

ระทึกเข้ามาทุกขณะ กับการลงนามในสัญญาโครงการรถไฟความ เร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) มูลค่า 2.24 แสนล้านบาท ระยะทาง 220 กิโลเมตร ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับกลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ถึงนั้นนายกรัฐมนตรี "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" เปิดทำเนียบรับวันประวัติศาสตร์ 

ทั้งนี้หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน การจดปลายปากกาของฝั่งซีพีคงลื่นปรื๊ด ในวันที่ 24 ตุลาคม 2562 นี้ และประเมินว่า การลงนามครั้งประวัติศาสตร์ กดปุ่มให้ “หัวจรวด” ทะยานไปข้างหน้า ในฐานะแกนหลักการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซีคงเริ่มต้นขึ้น แต่หลังจากนั้นจะมีปัญหาอะไรตามมาหรือไม่ ก็ต้องยอมรับว่าคงจะมีแน่นอน

เซ็นสัญญา‘ไฮสปีด’ 24 ตุลาแค่ฉากแรก

ทำให้นึกถึงประโยคของ เจ้าสัว “ธนินท์ เจียรวนนท์” ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่พูดไว้ในหนังสือเล่มล่าสุดอย่างความสำเร็จดีใจได้แค่วันเดียว ในวลีที่ว่า “สุดท้ายไม่มีอะไรที่ไม่เสี่ยง คนที่ไม่เสี่ยงคือคนที่ไม่ทำอะไร” แต่คนที่เสียวสันหลังวาบๆ น่าจะเป็น รฟท.จากเงื่อนตายรัดคอ หากส่งมอบพื้นที่-รื้อย้ายสาธารณูปโภคพลาดเป้า 

 

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ยํ้าว่า รฟท. จะส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนคู่สัญญา ตั้งแต่ส่งมอบได้ทันที ในวันที่เอกชนคู่สัญญาชำระค่าให้สิทธิร่วมลงทุนจนถึงไม่เกิน 4 ปี หรือภายในเดือนมกราคม 2565 และประเมินว่าการก่อสร้างไฮสปีด จะแล้วเสร็จ พร้อมๆ กับ เมืองการบินและอู่ตะเภา อย่างเร็วปลายปี 2566 อย่างช้า ต้นปี 2567

เอาเป็นว่า หากวันใด กลุ่มซีพี พบเจออุปสรรคกับการลงมือไฮสปีด ให้นึกถึงวลีที่ว่า “สุดท้ายไม่มีอะไรที่ไม่เสี่ยง คนที่ไม่เสี่ยงคือคนที่ไม่ทำอะไร” 

หน้า 12 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3515 ระหว่างวันที่ 20-23 ตุลาคม 2562