ชิงกดราคาข้าวถุงไม่โงหัว ลูกชาวนา-ห้างแย่งตลาด  

นายกสมาคมข้าวถุง ชี้ภาพรวมปี 62 ตลาด 2.9 หมื่นล้าน ปีนี้ลดแข่งเดือดด้านราคา จากคนไทยลดบริโภค บีบผู้ประกอบการไม่กล้าปรับขึ้น ขณะลูกชาวหาหันเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่-ห้างแข่งสร้างแบรนด์เอง แย่งส่วนแบ่งตลาด

นายระพีพัชญ์ ธนถาวรกิตติ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์ตลาดข้าวสารบรรจุถุงในประเทศในภาพรวมของปีนี้ว่า ในแง่ของราคายังคงทรงๆ ตัวไม่ได้มีการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงเหมือนในอดีต เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคข้าวของคนไทยลดลงมาก จากที่มีอาหารทางเลือกอื่น และจากความสะดวกสบายในการสั่งอาหารดีลิเวอรีที่แข่งขันกันอย่างรุนแรง สิ่งที่ผู้ประกอบการทำได้คือการปรับตัวให้ทันกับความต้องการของตลาด โดยหันไปผลิตอาหารแปรรูปที่ทำจากข้าวมากขึ้น เพื่อทดแทนตลาดข้าวที่หายไป ปัจจุบันราคาข้าวหอมมะลิบรรจุถุงเฉลี่ยที่ 200-260 บาทต่อ 5 กิโลกรัม(กก.) และข้าวขาว 80-120 บาทต่อ 5 กก.

“คงไม่ได้เห็นผู้ประกอบการมาแข่งขันด้านราคาข้าวถุงในประเทศเหมือนในอดีตแล้ว เพราะหนึ่งคนกินข้าวน้อยลง ดังนั้นการจะปรับราคาข้าวให้สูงขึ้นเป็นเรื่องยากเพราะความต้องการในตลาดไม่ได้เพิ่มขึ้น และการจะปรับราคาขึ้นหรือปรับราคาลงนั้น ผู้ประกอบการเองจะต้องพิจารณาในเรื่องของตลาดด้วย แต่ข้าวที่เป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือกลุ่มคนรักสุขภาพ เช่น ข้าวออร์แกนิก ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสี ซึ่งผู้บริโภคหันมากินข้าวเหล่านี้มากขึ้น ตามเทรนด์รักษาสุขภาพ ตัวอย่างราคาข้าวหอมนิลจำหน่ายในราคา 80-120 บาทต่อถุง 5 กิโลกรัม โดยราคาจะปรับไปตามขนาดของข้าวถุง เช่น ขนาด 1 กิโลกรัม 5 กิโลกรัม เป็นต้น น่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งของผู้ประกอบการที่จะเข้าไปเจาะตลาด”

อย่างไรก็ดีขณะนี้เริ่มมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่เข้ามาเจาะตลาดข้าวถุงมากขึ้น เช่น กลุ่มลูกหลานชาวนารุ่นใหม่ที่กลับไปทำธุรกิจที่บ้าน โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวออกมาจำหน่าย หรือแม้แต่ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าก็มีการสร้างแบรนด์ข้าวถุงขึ้นเพื่อมาแข่งขันในตลาด ทั้งนี้ตลาดข้าวสารบรรจุถุงมีมูลค่าเฉลี่ย 2.8-2.9 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งปีนี้จากช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน บางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) ประสบปัญหาภัยธรรมชาติ ดังนั้นคาดผลผลิตข้าวที่จะออกมาในปลายปีนี้น่าจะลดลง มองว่าน่าจะเป็นผลดีให้กับเกษตรกรที่จะขายข้าวได้ราคาดี

นายระพีพัชญ์ กล่าวอีกว่า สำหรับงานที่สมาคมอยากจะส่งเสริมมากที่สุดคือ การเพิ่มการบริโภคข้าวของคนไทย เพราะต้องยอมรับว่าการบริโภคข้าวของคนไทยเปลี่ยนไปอย่างมาก และมีแนวโน้มที่จะบริโภคข้าวลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกอย่างซึ่งคนไทยยังคงเข้าใจผิดว่าการบริโภคข้าวนั้นทำให้อ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการสำรวจที่พบว่าการบริโภคข้าวของคนไทยลดลงต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจจะทำให้ตลาดข้าวของไทยทรงตัว ซึ่งในปีหน้าสมาคมมีแผนจะจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้น และส่งเสริมการบริโภคข้าวของคนไทยให้มากขึ้น และจะช่วยให้ตลาดข้าวถุงในประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้ง

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,515 วันที่ 20-23 ตุลาคม 2562