สภาฯ 376 เสียง อนุมัติ พ.ร.ก.โอนกำลังกองทัพฯ

17 ต.ค. 2562 | 07:30 น.

สภาฯ 376 เสียง อนุมัติ พ.ร.ก.โอนกำลังพลและงบประมาณบางส่วน เป็นส่วนราชการในพระองค์   ด้าน “ปิยบุตร” ท้วงก่อนใช้สิทธิไม่อนุมัติ ชี้ผิดเงื่อนไขรธน.มาตรา 172 หวังการไม่อนุมัติเพื่อยับยั้งการใช้อำนาจเด็ดขาดของครม.คล้าย ม.44 จำแลง  

ชวน หลีกภัย

     วันที่ 17 ตุลาคม 2562  รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม มีมติเสียงข้างมาก 376 เสียง ต่อไม่อนุมัติ 70 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง อนุมัติพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นหน่วยงานบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ.2562 ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ 

 

     ทั้งนี้ก่อนการลงมติดังกล่าว นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายทักท้วงและขอใช้สิทธิ์ลงมติไม่อนุมัติพ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว เนื่องจากขัดต่อเงื่อนไขการตรา พ.ร.ก. ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 วรรคสองกำหนดว่าเมื่อ ครม. เห็นว่าเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นเร่งด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ทั้งนี้การรักษาความปลอดภัยองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ รวมทั้งให้ปฏิบัติภารกิจตามพระราชอัธยาศัยและตามพระราชประเพณีเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามอำนาจและหน้าที่ของหน่วยงานกองทัพสามารถดำเนินการต่อประเด็นดังกล่าวได้ และถือเป็นภารกิจหลัก 

ปิยบุตร แสงกนกกุล

     “การตราพ.ร.ก.ฉบับนี้ ถือเป็นปัญหาการใช้อำนาจของ ครม. และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่คุ้นชินกับการมีและใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 ทั้งนี้การออกคำสั่งตามมาตรา 44 จำนวนมากมีข้อผิดพลาด และต้องออกคำสั่งแก้ไข ทั้งนี้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่ให้อำนาจยกเว้นการใช้อำนาจตราพ.ร.ก.ของครม. นั้น จำเป็นต้องใช้อำนาจดังกล่าวอย่างระวัง เพื่อไม่ให้การใช้อำนาจดังกล่าวเป็นเหมือนกับมาตรา 44 จำแลง 

 

     ดังนั้นผมขอใช้สิทธิ์ไม่อนุมัติพ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว เพราะถือว่าผิดเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วนหรือฉุกเฉิน และเพื่อเป็นการแสดงความไม่ยินยอมที่จะให้พล.อ.ประยุทธ์ใช้อำนาจที่ได้รับการยกเว้นจากรัฐธรรมนูญ จนกลายเป็นพฤติกรรมไม่แยแสต่อรัฐธรรมนูญ”นายปิยบุตร กล่าว 

 

      ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายด้วยว่าการพิจารณาว่า พ.ร.ก.ฉบับใดจำเป็น หรือ เร่งด่วน ฉุกเฉินเป็นดุลยพินิจของรัฐบาล ทั้งนี้การรักษาความมั่นคงถือเป็นเรื่องสำคัญของประเทศ ดังนั้นตนจึงขอใช้สิทธิอนุมัติ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว

 

      ขณะที่การชี้แจงของ พล.อ.ชัญชาญ ต่อการอภิปรายทักท้วง ยืนยันว่าการพิจารณาเสนอพ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวได้พิจารณาถึงปัจจัยตามรัฐธรรมนูญ และยืนยันว่าเป็นไปตามความจำเป็น

 

สภาฯ 376 เสียง อนุมัติ พ.ร.ก.โอนกำลังกองทัพฯ    

  ผู้สื่อข่าวรายงานถึงผลการลงมติ พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ.2562  ว่า ส.ส.ที่ไม่อนุมัติมาจากพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด ขณะที่งดออกเสียง 2 เสียง ได้แก่ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคอนาคตใหม่ 

 

      อย่างไรก็ตาม ส.ส.พรรคอนาคตใหม่บางส่วนได้ลงมติเห็นด้วย คือ นายกฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส.แพร่, นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี และ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี