ผู้บริหารการบินไทย เจอ“เขย่าเก้าอี้”

17 ต.ค. 2562 | 07:00 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,514 ระหว่างวันที่ 17-19 ต.ค.2562 โดย... พริกกะเหรี่ยง


ผู้บริหารการบินไทย เจอ“เขย่าเก้าอี้”

 

          .....การบินไทยช่วงนี้ไม่ต่างจากพระศุกร์เข้า-พระเสาร์แทรก ผู้บริหารเจอ “เขย่าเก้าอี้” ไม่เว้นแต่ละวันทั้งจากผู้โดยสารที่โพสต์อัดเรื่องเซอร์วิสว่า ไม่ต่างจาก “โลว์คอสต์แอร์ไลน์” ไหนจะรมต.เจ้ากระทรวง จ่อรื้อบอร์ด ส่วนรมช.ก็ไล่บี้ให้ประธาน “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” ให้ทำงานเกินมนุษย์วันละ 25 ชม. ฟังแล้ว “ปวดตับ” นักการเมืองเข้ามาก็อยากจะสร้างผลงาน แสดงอิทธิฤทธิ์แต่จะเสกให้การบินไทยจาก “ขาดทุน 2 หมื่นล้าน” กลับมามีกำไรชั่วข้ามคืน คงเป็นเพียงแค่ฝันกลางวันแสกๆ ในเมื่อสงครามน่านฟ้าสู้กันดุเดือด แถมบินไทยยังติดเชื้อร้ายที่รักษาไม่หาย ปาฏิหาริย์ก็ช่วยไม่ได้

          .....จึงเป็นที่มาของวันที่ 10 เดือน 10 ฤกษ์งามยามดีที่รมช.คมนาคม “ถาวร เสนเนียม” ซึ่งกำกับดูแลโดยตรง บุกถึงรังใหญ่การบินไทย นั่งหัวโต๊ะสั่งการบ้าน 6 ข้อ จี้ให้ฝ่ายบริหารและบอร์ดไปขบคิดกันต่อ ไม่ว่าจะเป็นการรื้อแผนการซื้อฝูงบิน 38 ลำ มูลค่า 1.5 แสนล้านใหม่ ที่ต้องเสร็จภายใน 6 เดือน และต้องรายงานทุกเดือน ซึ่งหมายรวมถึงการทำแผนฟื้นธุรกิจด้วยที่ต้องทำควบคู่กันไป ถามว่าใหม่ไหม? ตอบได้คำเดียวว่า “ไม่”

          .....เป็นเรื่องที่ค้างคากันมา 3 ดีดี แต่เหมือนอยู่กับที่ ซึ่งเป็นผลดีต่อการบินไทยถ้าขืนซื้อไปป่านนี้ อาจจะหนี้ท่วมจนล้มละลายแล้วก็ได้ ตั้งแต่สมัยดีดี “จรัมพร โชติกเสถียร” มาถึงยุค ดีดีแอกติ้ง “อุษณีย์ แสงสิงแก้ว” กระทั่ง “ดีดีถั่ว-สุเมธ ดำรงชัยธรรม” แผนฟื้นธุรกิจที่สานต่อกันมาเป็นทอดๆ และทำอย่างต่อเนื่องหลังจาก หยุดเลือดไหล ลดคอสต์ มาถึงการทำกำไร แต่ผลออกมายังขาดทุนซ้ำซาก “รมช.ถาวร” บอกว่าขาดทุน 2 หมื่นล้านเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ไม่ซีเรียส แต่ห่วงเรื่องแผนที่ต้องเดินไปข้างหน้ามากกว่า ประโยคหลังนี้รมช.ไม่ได้พูด

          .....ทำไม? ต้องรื้อแผนซื้อเครื่องบิน “เอกนิติ” ประธานบอร์ดให้ความกระจ่างว่า เพราะปัจจัยแวดล้อมเปลี่ยนไปตอนทำแผนไม่มีเรื่อง “เทรดวอร์” เข้ามาเกี่ยว แต่ขณะนี้เจอทั้งสงครามการค้า ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ส่งสัญญาณชะลอตัว และที่สำคัญการน่านฟ้าที่แข่งขันกันดุเดือด  สถานการณ์เปลี่ยน พฤติกรรมผู้โดยสารเปลี่ยน ต้องอัพเดตแผนใหม่

          .....แต่ที่สำคัญกว่าเป็นเรื่องฐานะการเงินขององค์กร ที่มีการเตือนออกมาดังๆ ทั้งจากคนในองค์กรและภายนอกห่วงใยถึงภาระการสร้าง หนี้สินก้อนใหญ่ ซึ่งต้องเพิ่มทุน ต้องกู้เงิน เมื่อธุรกิจไม่สดใส กู้ใครก็เจอดอกเบี้ยแพง เป็นต้นทุนทางการเงินทั้งสิ้น ในขณะที่ฐานะการเงินของบริษัทง่อนแง่น แถมยังต้องอุ้มสายการบินลูก ไทยสมายล์ นกแอร์ ที่พะงาบ พะงาบ จึงเป็นอีกประเด็นให้ต้องขบคิดกันหนักซึ่งฝ่ายการเมืองก็ไม่อยากเป็น “เป้า” ให้ออกมาขุดคุ้ยโจมตีในภายหลัง

          .....สิ่งที่ฝ่ายการเมืองห่วงอีกเรื่องก็คือ การบริหารงานภายในองค์กรที่ยังมีอะไรซ่อนอยู่ “ใต้พรม” เพียบต้องใช้เวลาในการสะสาง ไม่ว่าจะเป็นการโละฝูงบินเก่า 19 ลำ ที่จอดทิ้งซากเป็นเศษเหล็ก การขายก็มีปัญหา เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ก็ถูกตั้งคณะกรรมการสอบ เป็นเรื่องที่กำลังหาทางออก แต่ที่ผ่านมาเหมือนตกอยู่ในเขาวงกต หาคนซื้อได้ ส่งมอบไม่ได้ ติดเงื่อนไข สรุปก็จอดทิ้งให้เสียค่าที่จอดไปวันๆ

          .....นอกจากนี้มีเมกะโปกเจ็กต์อยู่ MRO ระหว่างบินไทยกับแอร์บัส ศูนย์ซ่อมระดับโลกที่ “อู่ตะเภา” ที่รัฐบาล “บิ๊กตู่” หมายมั่นปั้นมือจะทำคลอด “อีอีซี” และจ่อจดปากกาเซ็นสัญญาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว แต่ก็ไม่คืบหน้าถึงไหน แม้ว่าระดับ “บิ๊กตู่” นายกรัฐมนตรี จะบินไปพบผู้นำฝรั่งเศส และหารือเรื่องนี้มาแล้ว แต่ก็ยังติดปมเรื่องรายละเอียดของหนังสือ “เชิญชวน” ที่ยังปลดล็อกไม่ได้ และ “บิ๊กถาวร” ถึงกับให้ทำรายงานส่งทุกๆ 15 วัน

          .....การบ้าน 6 ข้อที่ “รมช.ถาวร” บุกไปให้ถึงเฮดออฟฟิศ คงเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่จะกดดันให้ฝ่ายบริการและบอร์ดต้องทำงานหนักไม่ใช่เช้าชาม-เย็นชามอีกต่อไป เพราะคงเห็นแล้วว่าขืนไม่ลงแส้ องค์กรนี้คงอยู่รอดยาก และอีกสิ่งที่ถูกยกขึ้นมาพูดถึง คือการแต่งตั้งผู้บริหารแทนผู้ที่เกษียณอายุที่ยังค้างอยู่หลายตำแหน่ง จนต้องนั่งควบ

          .....ในทางปฏิบัติองค์กรขนาดใหญ่ และมีความเป็นมืออาชีพจะตั้งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนหรือเป็นปีเสียด้วยซ้ำไป แต่ใช้กับที่นี่ไม่ได้ ทำไม “ดีดี-สุเมธ” ต้องนั่งควบแอกติ้ง (DT) หรือรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายช่างอีกตำแหน่ง หลังจาก “สุรชัย เพียรเจริญศักดิ์” เกษียณ

 

          .....ทั้งยังมีอีก 3 เก้าอี้ที่ยังเป็นรักษาการในระดับอีวีพี คือ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายก.ม.(A1) และผู้ช่วยฝ่าย HR ที่ต้องให้ (DB) รองกรรมการฝ่ายบุคลากรนั่งแอกติ้ง อีกตำแหน่งคือ (D1) คุมบริการภาคพื้นดินในสนามบินทั้งหมด ก็ต้องใช้บริการของ (DN) รองกรรมการฝ่ายการพาณิชย์ ไปนั่งควบเช่นกันและยังไม่รวมเก้าอี้ (S9) วีพี ด้าน ดิจิทัลที่ว่างลง จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการแต่งตั้งคนใหม่

          .....มองในแง่ดีคงให้ทำงานที่หลากหลาย เป็น “มัลติฟังก์ชัน” แต่เอาเบอร์ 1 ไปดูฝ่ายช่างคงไม่ใช่และผิดอย่างแรง หรือเอาฝ่ายการตลาดไปคุมเซอร์วิสในสนามบินก็ไม่เหมาะ และแอกติ้งจะกล้าสั่งการไหม? สั่งแล้วใครจะเชื่อ! หรือว่าการแต่งตั้งฝ่ายบริหารที่ยังไม่ลงตัว เป็นเพราะส่วนหนึ่งต้องการคนของตัวเอง ขึ้นมารับลูกในการทำงาน พูดจาภาษาเดียวกัน ไม่ใช่สั่งงานแล้วทำ “มึน” การแต่งตั้งบิ๊กล็อตใหม่จึงเป็นอีกโจทย์ที่ “รมช.ถาวร” ฝากการบ้านไว้

          .....มาดูข่าวพีอาร์กันบ้าง เอาใจคนรักโยคะ “ปัทมา โยคะ” โดย ภัทร สาลีรัฐวิภาค เจ้าของสตูดิโอโยคะธีมธรรมชาติ ระดับไฮโซ ศูนย์การค้าเดอะ เพนนินซูล่า พลาซ่า จัดโปรฯ พิเศษ 4,990 บาท เล่นได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ภายใน 2 เดือน แต่ต้องซื้อภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้เท่านั้น