ของแพงหลบไป! แสนสิริรุกคอนโดจับต้องได้

16 ต.ค. 2562 | 07:28 น.

 

บมจ. แสนสิริ เชื่อมั่นตลาดที่อยู่อาศัยกลุ่มเรียลดีมานด์ยังคงมีดีมานด์ในระดับสูง รุกหน้าแผนธุรกิจคอนโดฯ ราคาที่เข้าถึงได้ เป็นหัวหอกลุยตลาดปี 2562-2563 เปิดทำเล "เพชรบุรี-ทองหล่อ " ราคาที่ดินดันราคาขายเติบโตสูง 33% 

   ของแพงหลบไป! แสนสิริรุกคอนโดจับต้องได้

   ของแพงหลบไป! แสนสิริรุกคอนโดจับต้องได้

นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังเข้าสู่ยุคเรียลดีมานด์ ที่ลูกค้าซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยเป็นหลัก แสนสิริจึงพิถีพิถันในการพัฒนาคอนโดมิเนียมทุกโครงการเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ได้มากที่สุด และตรงกับอุปสงค์ของตลาดคอนโดมิเนียมในขณะนั้น ซึ่งปัจจุบันคอนโดมิเนียมในระดับราคาที่ไม่สูงมากอย่างคอนโดมิเนียมเซ็กเม้นต์ C และ D ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่เรามองเห็นศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนพื้นที่ชุมชนที่เป็นทำเลของผู้อยู่อาศัยจริง โดยกลุ่มลูกค้ายังคงเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ในการซื้อคอนโดเพื่อสะท้อนความสำเร็จในฐานะของบ้านหลังแรก ประกอบกับปีนี้กลยุทธ์ของบริษัทเน้นการโอนกรรมสิทธิ์เป็นหลักเนื่องจากมีโครงการที่จะเสร็จสิ้นพร้อมโอนกรรมสิทธิ์รวม 10 โครงการ โดยคาดว่าจะช่วยสร้างรายได้จากการโอนให้บริษัทกว่า 12,300 ล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้”

“ ปี 2563 แสนสิริจะยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยในเซ็กเม้นต์ C และ D โดยมุ่งเน้นขยายไปยังพื้นที่ที่เป็นทำเลชุมชนที่อยู่อาศัยจริงสะท้อนเรียลดีมานด์ " 


นายองอาจ ยังระบุถึงทำเลที่น่าสนใจในการพัฒนาโครงการคอนโดฯ เจาะกลุ่มดังกล่าว ว่า ย่านเพชรบุรี-ทองหล่อ เป็นหนึ่งทำเลที่น่าจับตามอง หลังจากประสบความสำเร็จจากการเปิดตัว “โครงการเดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ " มูลค่าโครงการ 2 พันล้านบาท อย่างไม่เป็นทางการ ด้วยยอดขาย 100% ของยูนิตพิเศษ รวมมูลค่า 550 ล้านบาท โดยทำเลนี้ มีความโดดเด่นทั้งแง่การอยู่อาศัยและการลงทุนขายต่อหรือปล่อยเช่า ขณะที่ อุปสงค์ของคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยในบริเวณถนนเพชรบุรี มีอัตราเพิ่มขึ้นสูงขึ้นโดยเฉลี่ยสูงถึงปีละ 4.5% อีกทั้งอุปทานของคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ๆในย่านนี้ที่ปัจจุบันมีเพียง 5,000 ยูนิต

นอกจากนี้ ราคาที่ดินเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องบนถนนเพชรบุรี โดยในปี 2556 ราคาที่ดินซื้อขายกันอยู่ที่ 300,000 บาท/ตารางวา และในปี 2562 เพิ่มขึ้นมาเป็น 600,000 บาท/ตารางวา หรือเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวในระยะเวลาเพียงหกปี โดยราคาที่ดินเฉลี่ยบริเวณถนนเพชรบุรีมีอัตราสูงเพิ่มขึ้นเฉลี่ย ปีละ 10% 

" ราคาเสนอขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในทำเลนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกันจากราคาเฉลี่ยประมาณ 90,000 บาท/ตารางเมตร ในปี 2558 เพิ่มมาอยู่ที่ 120,000 บาท/ตารางเมตร ในปี 2019 หรือเติบโตประมาณ 33% "

โดย Capital Gain ของย่านเพชรบุรีเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6% ต่อปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนที่ได้จากการปล่อยเช่าเฉลี่ยในบริเวณถนนเพชรบุรีหรือ Rental Yield อยู่ที่ 6% ต่อปี ทั้งยังแวดล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์และแหล่งออฟฟิศแหล่งใหญ่ของกรุงเทพฯ อย่างย่านอโศก และสถานศึกษาชั้นนำ จึงทำให้ย่านเพชรบุรี-ทองหล่อ มีอุปสงค์จากกลุ่มเป้าหมายเป็นจำนวนมาก