นายกฯสั่งทุกหน่วยหนุนพัฒนา “สามเหลี่ยมเศรษฐกิจ”

16 ตุลาคม 2562

นายกฯกำชับทุกหน่วยหนุนพัฒนาเขตเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย  เร่งดำเนินการเชื่อมโยงด่านศุลกากร พร้อมร่วมมือด้านเกษตร ท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์ฮาลาล

นายกฯสั่งทุกหน่วยหนุนพัฒนา “สามเหลี่ยมเศรษฐกิจ”


     วันนี้  (16 ต.ค. 62) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่25 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง กับแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย - มาเลเซีย - ไทย (Indonesia - Malaysia - Thai Growth Triangle: IMT-GT) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน ที่ผ่านมา ณ จ.กระบี่ 

นายกฯสั่งทุกหน่วยหนุนพัฒนา “สามเหลี่ยมเศรษฐกิจ”

     ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมดังกล่าวต่อไป และกลับมารายงานความก้าวหน้าเป็นระยะๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ IMT-GT ปี2579 ที่ให้ความสำคัญต่อการเชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการพัฒนานวัตกรรม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

 

     ผลการประชุมที่สำคัญมีอยู่หลายประเด็นด้วยกัน กล่าวคือ มีความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนโครงการเชื่อมโยงทางกายภาพ  โครงการที่แล้วเสร็จมี 9 โครงการ อาทิ การปรับปรุงด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา และด่านศุลกากรวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล อยู่ระหว่างดำเนินการมี 23 โครงการ อาทิ ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ท่าอากาศยานเบตงของไทย และมีการเร่งรัดจากฝ่ายไทย 1) การสร้างเส้นทางใหม่เชื่อมโยงด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่และด่านศุลกากรบูกิตกายูฮิตัม 2) การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลกแห่งใหม่ เชื่อมระหว่าง อ.ตากใบ - เมืองเปิงกาลันกุโบร์ และสะพานแห่งที่2 เชื่อมระหว่าง อ.สุไหงโกลก - เมืองรันเตาปันยัง เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาในระเบียงเศรษฐกิจที่6 เชื่อมโยงพื้นที่ ปัตตานี - ยะลา - นราธิวาส - เประ - กลันตัน - สุมาตราใต้

 

    นายกฯสั่งทุกหน่วยหนุนพัฒนา “สามเหลี่ยมเศรษฐกิจ”  

     นอกจากการขับเคลื่อนโครงการเชื่อมโยงทางกายภาพแล้ว ทั้งสามประเทศยังจะมีความร่วมมือต่อกันใน 3 ด้านหลัก คือ 1) การเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร ที่มุ่งเน้นการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม  การผลักดันความร่วมมือเรื่องเมืองยางพารา การพัฒนาเครือข่ายนักวิชาการปาล์มน้ำมัน 2) การท่องเที่ยว ที่จะมีการพัฒนากลยุทธ์การตลาดร่วมกัน อาทิ เส้นทางท่องเที่ยวอุทยานธรณีโลก ระหว่างสะตูล - ลังกาวี เส้นทางวัฒนธรรมเพอรานากัน (วัฒนธรรมแบบผสมผสานจีน-มลายู ในมะละกา หมู่เกาะชวา และภูเก็ต) เส้นทางเดินเรือเจิ้งเหอ และ 3) ผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาล ซึ่งได้ตกลงร่วมกันในการยอมรับมาตรฐานฮาลาลของแต่ละประเทศ การพัฒนาร่วมกันด้านต่างๆในอุตสาหกรรมฮาลาล 

 

     ความร่วมมือของอนุภูมิภาค IMT-GT นี้ ยังได้ครอบคลุมถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยจะมีการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการรักษาสุขอนามัยทางมหาสมุทร และการพัฒนาภาคมหาสมุทรที่ยั่งยืน (Healthy Ocean and Sustainable Blue Economies) ซึ่งสามารถดำเนินการโดยเริ่มจากการพัฒนาเมืองสีเขียวเพื่อลดขยะจากพลาสติก น้ำเสีย และของเสียลงสู่มหาสมุทร และมีกิจกรรมบริเวณท่าเรื่อและการท่องเที่ยวทางทะเลและการทำการประมงทะเลที่สะอาด