Big Moveโมโนจัดทัพ ยิง3แนวรุกบุกทุกแพลตฟอร์ม

เปิดแนวรบ “โมโน 29”  ขยับตัวแรง ลุยคอนเทนต์เต็มรูปแบบ หวังยึดทุกหน้าจอแพลตฟอร์ม ล่าสุดร่วมโปรเจ็กต์ 3 Boardband ผลิต IPTV ต่อยอดธุรกิจโฮมช็อปปิ้งซื้อสินค้าผ่านรีโมตทีวี พร้อมเปิดตัวไตรมาส 2 ปี 2563 เผยปรับองค์กรครั้งใหญ่ปิดฉากธุรกิจไม่ทำเงินหลังผลประกอบการครึ่งปีแรกติดลบ

ด้วยจำนวนช่องทีวีที่เคยมีมากถึง 24 ช่อง แม้ปัจจุบันจะลดลงเหลือ 15 ช่อง แต่คอนเทนต์ที่มีก็ต้องยอมรับว่า “เฟ้อ” เพราะส่วนใหญ่ยังมุ่งไปที่ข่าวสาร โฆษณาขายสินค้า ทั้งในสื่อทีวี ออนไลน์ สื่อนอกบ้าน สื่อเคลื่อนที่ ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาโดยรวมยังคงอยู่ที่ช่องทีวีที่มีเรตติ้งสูง โดยเฉพาะใน 5 อันดับแรก ไม่ว่าจะเป็น ช่อง 7HD, 3HD, Workpoint, Mono 29 เป็นต้น การนำเสนอคอนเทนต์ที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตน และประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมาอย่าง ภาพยนตร์ฮอลลีวูด ของช่อง “Mono 29” ที่แม้กระชากเรตติ้งให้ติดอันดับ Top 5 มาจนถึงทุกวันนี้ได้ ก็อาจไม่เพียงพอ เมื่อแพลตฟอร์มอื่นๆ เริ่มเติบโต และมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น การขยับตัวเพื่อรองรับเทรนด์ที่กำลังมาแรงจึงเป็นสิ่งสำคัญ 

และวันนี้ Mono 29 เลือกที่จะ “Big Move” อีกครั้ง โดย “ฐานเศรษฐกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ ถึงเป้าหมายใหม่ ที่ใหญ่กว่าเดิม นั่นคือ “การยึดทุกหน้าจอ” ของ Mono29

“ปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เล่าให้ฟังว่า ส่วนตัวยอมรับว่ายุคนี้ กำลังก้าวเข้าสู่สภาวะที่เรียกว่า “คอนเทนต์เฟ้อ” และเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับผู้ประกอบการทั่วโลกที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการลดความเสี่ยงในยุคนี้คือการหาพาร์ตเนอร์ร่วมกัน หรือร่วมระดมทุนสร้างสรรค์งาน อีกทั้งควรต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน เช่น การผลิตซีรีส์ 1 เรื่อง งานประเภทนี้สามารถนำไปขายกับใครหรือประเทศใดบ้าง เพราะแต่ละประเทศ แต่ละแพลตฟอร์มมีหลักและกฎระเบียบการซื้อคอนเทนต์แตกต่างกัน ขณะที่เป้าหมายการดำเนินธุรกิจของบริษัทจากนี้คือการยึดทุกหน้าจอ

สำหรับการลงทุนคอนเทนต์ในปีก่อนต้องยอมรับว่าเพิ่มขึ้นเป็น 1,200 ล้านบาท หากเปรียบเทียบกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งใช้เงินราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งการเพิ่มงบดังกล่าวบริษัทจะนำมาผลิตคอนเทนต์เพื่อเติมในแพลตฟอร์มทีวี และออนไลน์ โดยแผนธุรกิจของบริษัทเพื่อจะนำไปสู่การยึดทุกหน้าจอ มี 3 แนวทางหลัก คือ 1.จับมือพาร์ตเนอร์ 3 Broadband ซึ่งมีฐานลูกค้าทั่วประเทศ 3 ล้านราย ร่วมสร้างแพลตฟอร์ม IPTV โดยแพลตฟอร์มนี้หวังให้ศูนย์รวมของคอนเทนต์ภาพยนตร์ ซีรีส์ฮอลลีวูดและเอเชีย รวมทั้งมีระบบอัตโนมัติสั่งซื้อสินค้าได้ทันทีผ่านรีโมตทีวีได้เลย ไม่ต้องโทร.สั่งเหมือนในปัจจุบัน ขณะที่แพลต ฟอร์มนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563

“ในช่วงที่ผ่านมาหลังจากที่โมโน 29 ได้ทดลองแบ่งเวลาการออกอากาศทำโฮมช็อปปิ้ง พบว่าตลาดนี้เป็นตลาดที่น่าสนใจและเติบโตอย่างมาก โดยในช่วงที่ทดลองพบว่ามีรายได้เข้ามาประมาณ 2-4 แสนบาทต่อวัน และเข้าใจพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้ชมในช่องนี้ ว่าสินค้าประเภทใดที่สามารถตอบโจทย์ผู้ชมที่ชอบคอนเทนต์บู๊ แอกชัน ดังนั้นการทำโปรเจ็กต์ IPTV ครั้งนี้ 3 Broardband จะเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์การรับชม ขณะที่บริษัทจะเป็นผู้เติมคอนเทนต์”

2.ซื้อคอนเทนต์ฮอลลีวูดและเอเชียเข้ามาเพิ่ม 3.ระดมทุนร่วมผลิตคอนเทนต์ระหว่างประเทศเพื่อผลิตภาพยนตร์ ซีรีส์ ออริจินัลของโมโนเอง โดยการผลิตคอนเทนต์ในช่วงที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 30 เรื่องต่อปี นอกจากนี้ยังจับมือร่วมกับสำนักพิมพ์แจ่มใส ซึ่งโด่งดังในเรื่องของนวนิยายวัยรุ่น และจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เพื่อผลิตคอนเทนต์ตอบโจทย์ผู้ชมที่รับชมซีรีส์ผ่านแอพพลิเคชัน Monomax

“ที่ผ่านมายังพบว่าพฤติกรรมการรับชมของผู้ชมทั่วประเทศที่เลือกชมโมโน 29 ให้ความสนใจกับภาพยนตร์ ซีรีส์ แอกชัน โดยมีสัดส่วนรายได้จากคอนเทนต์สากลโซนยุโรป อเมริกา 80% เอเชีย 15% และไทย 5% โดยกลุ่มผู้ชมช่องโมโน 29 เป็นกลุ่มอายุ 25 ปีขึ้นไป ขณะที่กลุ่มผู้ชม Monomax มีอายุตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่าหากธุรกิจเป็นไปตามแผนที่วางไว้ทั้งหมด จะส่งผลให้โมโนสามารถยึดทุกจอได้ตามเป้าที่ตั้งไว้แน่นอน”

ขณะเดียวกันบริษัทยังร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจบริษัท โซนี่ พิคเจอร์ส เทเลวิชั่นฯ รับสิทธิ์นำคอนเทนต์มาออกอากาศบนช่องในระยะเวลารวดเร็วหลังจากฉายทางโรงภาพยนตร์เสร็จสิ้น อาทิเรื่อง JUMANJI : WELCOME TO THE JUNGLE (จูแมนจี้ : เกมดูดโลก บุกป่ามหัศจรรย์), VENOM 2018, SPIDER-MAN : HOMECOMING (สไปเดอร์แมน: โฮมคัมมิ่ง), EQUALIZER 2 (มัจจุราชไร้เงา 2), BABY DRIVER (จี้ เบบี้ ปล้น), INSIDIOUS : THE LAST KEY (วิญญาณตามติด : กุญแจผีบอก), PETER RABBIT (ปีเตอร์ แรบบิท), ALPHA (ผจญนรกแดนทมิฬ 20,000 ปี)

“ด้วยคุณภาพของภาพยนตร์และซีรีส์ที่บริษัทมีอยู่ และในส่วนของการผลิตและสร้างสรรค์ขึ้นบริษัทเชื่อว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการทางด้านคอนเทนต์ในตลาดทีวีของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี”

สำหรับผลประกอบการของโมโน ในช่วง 6 เดือนแรก มีรายได้รวม 1,183 ล้านบาท เติบโตลดลงจากปีก่อนมีรายได้ราว 1,336 ล้านบาท ล่าสุดในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาบริษัทยังได้มีการปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในบางธุรกิจที่มีผลประกอบการติดลบ อาทิ ปิดธุรกิจ นิตยสาร และ เกม รวมทั้งหยุดการผลิตภาพยนตร์ในนาม T Moment พร้อมทั้งลดขนาดหน่วย Mobile Value Added Service (MVAS) ในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ธุรกิจมีความแข็งแรงมากขึ้น 

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3514 ระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาคม 2562