“ศรีสุวรรณ” ร้อง ป.ป.ช.สอบ“ธนาธร-บิ๊กแดง”

15 ต.ค. 2562 | 07:27 น.

“ศรีสุวรรณ”  ร้อง ป.ป.ช. สอบพฤติกรรม “ธนาธร” ความสัมพันธ์ม็อบฮ่องกง ฝ่าฝืนจริยธรรม กระทบความสัมพันธ์และเกียรติภูมิประเทศ   พร้อมยื่นสอบ “พล.อ.อภิรัชต์” ไม่เป็นกลางทางการเมือง สร้างความขัดแย้ง แทรกแซงกระบวนการประชาธิปไตย  ผิดระเบียบและวินัยทหาร 

ศรีสุวรรณ จรรยา

     สำนักงาน ป.ป.ช.  วันนี้ (15 ต.ค.)  นายศรีสุวรรณ จรรยา  เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย  ยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ไต่สวนสอบสวนพฤติการณ์และการกระทำของนายธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่   ว่าเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้อยแรงหรือไม่  กรณีนายโจชัว หว่อง  หนึ่งในแกนนำผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง  โพสต์รูปถ่ายคู่กับนายธนาธร   การกระทำดังกล่าวเสี่ยงที่จะกลายเป็นปัญหาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขึ้นมาทันที  หลังเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย  ได้โพสต์ข้อความบางส่วน ระบุว่านักการเมืองประเทศไทยบางคนมีการติดต่อกับกลุ่มที่คิดจะแบ่งแยกฮ่องกงออกจากประเทศจีนโดยมีท่าทีเชิงสนับสนุน  ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดอย่างร้ายแรงและไร้ความรับผิดชอบ  ฝ่ายจีนหวังว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถรับรู้ข้อเท็จจริงของปัญหาฮ่องกง ใช้ความระมัดระวัง ทำในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อมิตรภาพจีน-ไทย ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดของนายธนาธรในเวทีการประชุมข้างต้นทำนองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในฮ่องกงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านเป็นแรงบันดาลใจให้ตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา 
         

ธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ
     นายศรีสุวรรณ  ยังกล่าวว่า  แม้นายธนาธรจะระบุ ว่าได้พบนายโจซัว หว่อง เพียง 5 นาทีก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่ได้ติดต่อกันในทางอื่นได้    ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นความละเอียดอ่อนในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่างไทย-จีน  ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อเกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ และความมั่นคงของรัฐได้ หากเป็นเช่นนั้นจริงย่อมอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

 

     นอกจากนี้นายศรีสุวรรณ   ยื่นให้ ป.ป.ช. ไต่สวน สอบสวน  ว่าคำพูดและการกระทำของพล.อ.อภิรัชต์  คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก จัดบรรยายพิเศษ ในหัวข้อเรื่อง “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา  จงใจที่จะฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯและกฎหมายหรือไม่   เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อนายทหาร และข้าราชการ ไม่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์   ไม่ฝักใฝ่ทางการเมือง และมีความเป็นกลาง  เพราะในการบรรยายดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงลักษณะความไม่เป็นกลางทางการเมือง  สะท้อนให้เห็นว่ามีทัศนคติทางการเมืองแบบเลือกข้าง   ซึ่งขัดต่อธรรมเนียมปฏิบัติและมารยาททางการเมือง หากประสงค์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์นักการเมือง ควรที่จะลาออกไปเป็นประชาชนเต็มขั้น 

พล.อ.อภิรัชต์  คงสมพงษ์
     ประกอบกับ  พล.อ.อภิรัชต์ เคยเป็นถึงอดีตเลขาธิการ คสช. ซึ่งพยายามสร้างความปรองดอง-สร้างการสมานฉันท์ขึ้นภายในประเทศ  และเป็นถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก   และเป็นถึงสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการเมือง หากมีข้อขัดข้องใด ๆ ควรนำประเด็นดังกล่าวไปหารือในกรรมาธิการหรือที่ประชุมของวุฒิสภา   การแสดงโวหารต่อสาธารณะของ พล.อ.อภิรัชต์ คงอาจลืมไปว่าการกระทำดังกล่าวอาจเป็นการฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยประมวลจริยธรรม 2551  และ พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยทหาร 2476  รวมทั้งฝ่าฝืนมาตราฐานทางจริยธรรม 2561 


     “หากคำพูดหรือการกระทำดังกล่าวของพล.อ.อภิรัชต์ ไม่เข้าข่ายความผิดใดๆ หรือฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม สมาคมและสังคมไทยอาจต้องถือว่าเป็นบรรทัดฐานของข้าราชการทั่วประเทศ  ที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์นักการเมือง หรือบุคคลอื่นในที่สาธารณะ หรือต่อหน้าสาธารณะชน สื่อมวลชน ได้โดยไม่มีความผิดใดใดอีกต่อไป”นายศรีสุวรรณ กล่าว