เลื่อนบังคับใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่ 1 ปี

14 ต.ค. 2562 | 05:20 น.

กรมธนารักษ์เลื่อนบังคับใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่ อีก 1 ปี  ระบุมีผล 1 มกราคม 64 เหตุต้องมีกฎหมายลูกตามมา  ยันจัดเก็บภาษีที่ดินและปลูกสร้างยังสามารถเดินหน้าได้ตามปกติ

นางสาววิลาวัลย์  วีระกุล  รองอธิบดี  กรมธนารักษ์  เปิดเผยว่า  กรมฯจะมีการเลื่อนการบังคับใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่ ซึ่งเดิมจะต้องมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 63 ออกไปอีก 1 ปี เป็น วันที่ 1 มกราคม  64 แทน เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ พ.ศ.2562 ที่เป็นกฎหมายฉบับใหม่ ซึ่งจะมีประกาศใช้ในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ 

เลื่อนบังคับใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่ 1 ปี

ทั้งนี้  เนื่องจากใน พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว จะมีผลโดยตรงต่อการประกาศใช้ราคาประเมินที่ดินและทรัพย์สินต่างๆ ของกรมธนารักษ์ ซึ่งเมื่อกฎหมายบังคับใช้จะต้องมีกระบวนการออกกฎหมายลูกตามมาอีกหลายส่วน ดังนั้นต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร จึงไม่น่าจะเสร็จทันวันที่ 1 มกราคม 63 แต่กฎหมายได้เปิดช่องให้ขยายเวลาการบังคับราคาประเมินดังกล่าวไปอีก 2 ปี 

"เดิมทีกรมได้มีการประเมินราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว  โดยภาพรวมทั้งประเทศ มีราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 7-8% แต่เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ ก็จะมีการใช้ราคาประเมินเดิมของปี 2558-2562 ไปพลางก่อนต่ออีก 1 ปี อย่างไรก็ดีกรมอาจจะมีการนำราคาที่ดินมาประเมินใหม่อีกรอบในปีหน้า เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพตลาดที่แท้จริง ก่อนบังคับใช้ในปี 64"

สำหรับเนื้อหาของ พ.ร.บ.การประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐนั้นจะมีการปรับโครงสร้างประเมินราคาทรัพย์สินครั้งใหญ่ โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างคณะกรรมการระดับชาติ จากเดิมปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน มาเป็นปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน ซึ่งจะมีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายด้านการประเมินราคา รวมถึงออกกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และจะมีการตั้งคณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐประจำจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ทำหน้าที่ประเมินราคาที่ดินในแต่ละจังหวัดของตัวเอง ซึ่งจะต้องมีการประกาศราคาประเมินใหม่ไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนบังคับใช้ 

เลื่อนบังคับใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่ 1 ปี
                อย่างไรก็ตาม  ยืนยันว่าการเลื่อนใช้ราคาประเมินใหม่ ไม่มีผลต่อการใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะเริ่มใช้ในปีหน้า  โดยการจัดเก็บภาษีที่ดินและปลูกสร้าง ยังสามารถเดินหน้าได้ตามปกติ แต่จะใช้ฐานราคาในการประเมินตามราคาเดิมไปก่อนเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและผู้ประกอบการให้สามารถปรับตัวต่อการเสียภาษีดังกล่าวไม่สูงมากเกินไป 

"การเลื่อนการใช้ราคาประเมินใหม่ เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เพราะถ้ามีผลบังคับใช้เลย จะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ 2 ส่วน ทั้งการเสียภาษีแบบใหม่ และราคาประเมินที่สูงขึ้น แต่เมื่อตอนนี้ใช้ราคาเดิมอยู่ ภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็ไม่เพิ่มขึ้น"