กำไรKTC,MTC,SAWAD ไตรมาส 3แผ่ว

12 ต.ค. 2562 | 03:24 น.

บล.เคจีไอ คาดกำไรไตรมาส 3/2562 บริษัทในกลุ่มนอนแบงก์ คือ KTC , MTC และ  SAWAD จะแผ่ว สินเชื่อใหม่เสี่ยงชะลอลง ให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ต่ำกว่าตลาด

บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ ประมาณการกำไรในไตรมาส 3/ 2562 ของ 3 บริษัทในกลุ่มนอนแบงก์ คือ  KTC , MTC และ  SAWAD จะแผ่วลง ขณะที่การขยายสินเชื่อของกลุ่มนี้อ่อนไหวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการอัดฉีดเงินเข้าไปที่ประชากรระดับรากหญ้า เพราะยิ่งมีการอัดฉีดเงินเข้าไปมากเท่าไรก็จะทำให้มีการชำระคืนหนี้เพิ่มขึ้น และมีความเสี่ยงที่สินเชื่อใหม่จะชะลอตัวลง ทั้งนี้ตามกรอบเวลามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล จะมีการอัดฉีดเงินเข้ามาอีกในไตรมาสสุดท้ายเพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงต่อของการขยายสินเชื่อของ MTC และ SAWAD

คาด KTC จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 3/2562 ประมาณ1,400 ล้านบาท ( +11% QoQ ,+5% YoY ) และงวด 9 เดือน/2562จะมีกำไร  4,400 ล้านบาท หรือโตขึ้น 12% ผลประกอบการโดยรวมไม่น่าตื่นเต้น เนื่องจากรายได้จากการติดตามหนี้เสียชะลอตัวลงต่อเนืองจากไตรมาส 2/2562 ตามภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง และคาดว่าบริษัทน่าจะยังตั้งสำรองสูงเพื่อรักษาคุณภาพสินทรัพย์เอาไว้  ทั้งนี้คาดว่ากำไรสุทธิงวด 9 เดือน จะคิดเป็นประมาณ 73%ของประมาณการปีนี้ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าโมเมนตั้มของกำไรจะโตต่อเนืองในไตรมาส 4/2562

MTC กำไรสุทธิไตรมาส 3/2562 คาดอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท (+9%QoQ ,+15% YoY ) งวด 9 เดือน/2562  ที่ 3,100 ล้านบาท (+ 16% )คาดว่ากำไรของ MTC จะเติบโตในอัตราที่ชะลอลง เช่นเดียวกับไตรมาสก่อนหน้า โดย Yield ของสินเชื่อที่ลดลงเป็นตัวกดดันผลประกอบการของ MTC ในช่วงสองไตรมาสที่ผ่านมา แต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เร่งตัวขึ้น จะเป็นปัจจัยหลักที่กดดันผลประกอบการไตรมาส 3/2562  ขณะที่คาดว่า yield ของสินเชื่อจะทรงตัวอยู่ที่ +30%

ส่วน SAWAD กำไรสุทธิไตรมาส 3/2562 คาดอยู่ที่ 918 ล้านบาท ( +5%QoQ,+20%YoY ) และงวด 9 เดือน 2562 คาดกำไรอยู่ที่ 2,600 ล้านบาท (+ 36% ) จากอุปสงค์สินเชื่อที่โตตามฤดูกาล จึงคาดว่ากำไรสุทธิของ SAWAD จะโตมากกว่าหุ้นอื่นในกลุ่ม อย่างไรก็ตามคาดว่ารายได้อื่น ( ค่าธรรมเนียมจาก BFIT และกำไรจากการค้าหลักทรัพย์ )จะหนุนรายได้ในไตรมาสนี้ ทั้งนี้ SAWAD และ BFIT มีพอร์ตการลงทุนที่ใหญ่ถึงประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งมีการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ และทำกำไรให้บริษัทในไตรมาส 2/2562 คาดว่ากำไรจากการค้าหลักทรัพย์จะช่วยหนุนรายได้อื่นของบริษัทในไตรมาส 3/2562

ส่วนระยะต่อไป   ความเสี่ยงจะอยู่ที่สัดส่วน LLR/สินเชื่อ กรณีของ SAWAD และ MTC มีแนวโน้มจะลดลงต่ำกว่า 3% สวนทางกับสินเชือจัดขั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 20% ของสินเชื่อรวมของทั้ง MTC และ SAWAD สำหรับ KTC นั้นความเสี่ยงจะมาจากการที่รายได้ดอกเบี้ยไม่เป็นไปตามคาด (จากทั้งรายได้จากการติดตามหนี้เสีย และสินเชื่อ )

บล.เคจีไอ ให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มนี้ต่ำกว่าตลาด  โดยราคาหุ้นทั้ง 3 ตัวค่อนข้างแพง คิดเป็น Forward P/Eปี 2562/2563 ของ KTC ที่ 19 เท่าและ 16 เท่าตามลำดับ  ของ MTC ที่ 29 เท่าและ 23 เท่าตามลำดับ และของ SAWAD ที่ 23 เท่าและ 19 เท่าตามลำดับซึ่งเทียบเป็น PEGที่สูงกว่า 1.0 เท่า