ดัน AWC เรือธงเคลื่อนแลนด์แบงก์กลุ่ม

12 ต.ค. 2562 | 14:32 น.

“วัลลภา” ลั่นดัน AWC เรือธงขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาฯ เชื่อมฐานแลนด์แบงก์ทีซีซีกรุ๊ป ชูจุดแข็งธุรกิจโรงแรม เน็ทเวิร์ก-ฐานลูกค้าทั่วโลก รองรับจัดประชุมสัมมนา (ไมซ์) และศักยภาพออฟฟิศเกรดเอ ดีมานด์พุ่ง เป็นโอกาสปรับฐานค่าเช่า สร้างโอกาสโตจากกิจการเข้าซื้อเพิ่ม

นับตั้งแต่เจ้าสัวเจริญและคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ได้บุกเบิกธุุรกิจอสังหาฯกว่า 30 ปี และได้รวบรวมโครงการศักยภาพทั้ง ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและบริการและกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ มาอยู่ภายใต้บริษัทแอสเสท เวิรด์ คอร์ปฯ (AWC) เพื่อเป็นกลุ่มธุรกิจพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรในประเทศไทย ภายใต้ทีซีซี กรุ๊ป

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562 หุ้น AWC ได้เปิดซื้อขายเป็นวันแรก โดยมีเจ้าสัวเจริญ พร้อมภรรยา มาร่วมให้กำลังใจบุตรสาว นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AWC และเคาะระฆังซื้อขายหลักทรัพย์ธุรกิจตัวเองเป็นครั้งแรก

ดัน AWC เรือธงเคลื่อนแลนด์แบงก์กลุ่ม

หุ้น AWC เปิดซื้อขายเท่าราคาจอง 6.00 บาท และปิดที่ 6.05 บาท ปรับขึ้น 0.05 บาท หรือ + 0.83% ปรับสูงสุดที่ 6.10 บาท และตํ่าสุดที่ 6.00 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขายในวันแรกถึง 8,130.18 ล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 1 คิดเป็น 15.9% ของมูลค่าซื้อขายของตลาด

นางวัลลภา ไตรโสรัส กล่าวว่า ไม่ได้กังวลเรื่องราคาหุ้น เพราะการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็เพื่อต่อยอดสร้างธุรกิจสู่เป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมั่นใจว่าด้วยโครงการและมูลค่าการลงทุน AWC สามารถสร้างคุณค่าได้อีกมากและผลตอบแทนกลับคืนมาให้ผู้ลงทุน

การที่เราเอา AWC ขึ้นมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นตัวหนุนหลักประเภทอสังหาริมทรัพย์ในไทย เป็นการเตรียมพร้อมของกลุ่มให้สามารถส่งต่อได้อย่างมั่นคง ส่วนที่เราไม่เลือกทีซีซี กรุ๊ปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะกลุ่มธุรกิจของทีซีซีเป็นแลนด์แบงก์ขนาดใหญ่และยังไม่พร้อมที่จะสร้างกระแสเงินสดในขณะนี้ จึงเสมือนเป็นฐาน โดยที่ AWC จะเป็นเรือธง” (Flagship) ที่จะไดรฟNแลนด์แบงก์

ดัน AWC เรือธงเคลื่อนแลนด์แบงก์กลุ่ม

นางวัลลภา กล่าวต่อว่า 5 ปีที่ผ่านมาทางกลุ่มได้พัฒนามากกว่า 30 โครงการ ลงทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาท และวันนี้ที่ใส่อยู่ใน AWC จะลงทุนอีกกว่า 3 หมื่นล้านบาท บวกกับที่จะเข้าไปซื้อกิจการเพิ่มเติม 12 แห่ง เงินลงทุน 2.5 หมื่นล้านบาท รวมกันมีมูลค่าทรัพย์สิน 5.5 หมื่นล้านบาท จะสร้างผลตอบแทนตอบกลับมาให้กับผู้ลงทุนเพิ่มจากวันนี้ได้อีกมาก

ทั้งนี้เงินที่ได้จากการระดมทุนจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ AWC จะนำไปซื้อกิจการเพิ่มเติมรวม 12 แห่ง ประกอบด้วยโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้ว 4 แห่ง โรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 6 แห่ง และอสังหาริมทรัพย์มิกซ์ยูส (Mixed-use Properties) ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 2 แห่ง ที่เหลือไปชำระคืนเงินกู้ธนาคารและพัฒนาทรัพย์สินของบริษัท

วันนี้เรามองการเติบโตในเชิงออร์แกนิก AWC (โตด้วยตัวเอง) ยังสามารถสร้างคุณค่าได้อีกมาก และถ้ามีอินออร์แกนิก (เติบโตผ่านการซื้อหรือลงทุน) เข้ามาค่อยพิจารณเป็นกรณี ๆไป ซึ่งพร้อมจะเติบโตได้อย่างชัดเจน

วันนี้มองว่าตลาดท่องเที่ยวประเทศไทยเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง AWC ก็มีศักยภาพของพาร์ตเนอร์ระดับโลก โดยเฉพาะการทำโมเดลธุรกิจโรงแรมที่เป็นการดึงเน็ตเวิร์กจากทั่วโลกเข้ามาที่เมืองไทย พาร์ตเนอร์ของเรามีฐานลูกค้ากว่า 300 ล้านราย รายได้ยังมาจากพอร์ตธุรกิจโรงแรม จากการจัดประชุมสัมมนาและจัดนิทรรศการ (ไมซ์) เป็นหลักประมาณ 60% ของรายได้รวม (อ่านตารางประกอบ) ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัท

ขณะที่ธุรกิจสำนักงานออฟฟิศให้เช่า จากการสำรวจของบริษัทโจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ในไตรมาส 1/2562 อัตราพื้นที่ว่าง (Vacancy Rate) ในย่านศูนย์กลางธุรกิจชั้นใน สำหรับอาคารสำนักงานไพรม์เกรด อยู่ที่ 6.6% เป็นสถิติตํ่าสุดของตลาด ขณะที่ความต้องการยังสูงมากเมื่อเทียบกับซัพพลายในตลาด ทางกลุ่มมี อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ เป็นออฟฟิศเกรดเอ สร้างโอกาสให้บริษัทสามารถปรับอัตราการเช่าให้สูงเทียบเท่าตลาด เป็นฐานที่จะสร้างรายได้เพิ่มในระยะต่อไป

AWC มีทุนจดทะเบียน 32,000 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 24,000 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 8,000 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 6,957 ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นสามัญส่วนเกิน 1,043 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 6.00 บาท มีมูลค่าระดมทุนรวม 41,742 ล้านบาท (ไม่รวมหุ้นที่จัดสรรส่วนเกิน) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ราคา IPO 185,742 ล้านบาท

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,513 วันที่ 13-16 ตุลาคม 2562

                   ดัน AWC เรือธงเคลื่อนแลนด์แบงก์กลุ่ม