ชี้แบน 3 สารต้องพิจารณารอบด้าน

11 ต.ค. 2562 | 11:19 น.

3 สมาคมผู้นำเข้า ชี้หากรัฐจะมีมติยกเลิก 3 สารเคมีเกษตร ควรพิจารณาผลกระทบต่อเกษตรกรและเศรษฐกิจภาคการเกษตรไทย ควบคู่ดูแลสุขภาพผู้บริโภคอย่างรอบด้าน หวั่นของปลอมและของผิดกฎหมายทะลัก

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาคเอกชนโดย 3 สมาคมภาคเกษตรได้แก่ สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร สมาคมอารักขาพืชไทย และสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย ได้แสดงจุดยืนต่อการยกเลิกการใช้ 3 สารเคมี (คลอร์ไพริฟอส พาราควอต และไกลโฟเซต)  และได้ส่งข้อคิดเห็นร่วมของ 3 สมาคมต่อคณะทำงานเพื่อพิจารณาความเห็นของส่วนรัฐ ผู้นำเข้า เกษตรกร และผู้บริโภค เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 โดยขอให้คำนึงถึงความจำเป็น ความอยู่รอดของเกษตรกร ผลกระทบที่จะมีต่ออุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และอาหารสัตว์ ไปจนถึงอุตสาหกรรมและผลกระทบที่จะเกิดโดยตรงกับการส่งออกพืชเศรษฐกิจ รวมถึงความมั่นคงทางอาหารของผู้บริโภคเป็นสำคัญ

 

นางวรณิกา นาควัชระ บีดิงเฮาส์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย  ในฐานะผู้แทนของ 3 สมาคมฯ กล่าวว่า เกษตรกรคือผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการตัดสินใจในเรื่องนี้ หากไม่มีการปรึกษาขอความเห็นจากเกษตรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก สมาคมฯ เห็นว่าการตัดสินใจในครั้งนี้หากออกมาจากการไม่พิจารณารอบด้านแล้ว จะเกิดความเสียหายมหาศาลกับเศรษฐกิจการเกษตร ตั้งแต่เรื่องผลผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน การผลิตที่ไม่เพียงพอต่อการบริโภคและต่ออุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และอาหารสัตว์ นอกจากนี้ยังจะเป็นช่องทางให้ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรปลอมและสินค้าผิดกฎหมายทะลักเข้ามาเช่นกัน เพราะเกษตรกรยังมีความจำเป็นต้องใช้ จึงขอให้คณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาผลกระทบดังกล่าวอย่างรอบคอบที่สุด

ชี้แบน 3 สารต้องพิจารณารอบด้าน

                                               วรณิกา นาควัชระ บีดิงเฮาส์

 

สำหรับสาระสำคัญของข้อคิดเห็นที่ทางสมาคมฯยื่นต่อที่ประชุมมีดังต่อไปนี้ 1.สมาคมฯมีจุดยืนในการจำกัดการใช้หรือยกเลิกการใช้สารเคมีดังกล่าว หากผ่านพิสูจน์และทดสอบตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง และมีกระบวนการพิจารณาทางกฎหมายที่โปร่งใส 2. ผู้นำเข้ายินดีจะปฏิบัติตามผลการพิจารณาของภาครัฐ โดยมีข้อกำหนดว่าสารที่จะนำมาใช้ทดแทนนั้นต้องไม่เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับเกษตรกร และให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกัน 3. สมาคมฯ สนับสนุนการใช้สารเคมีอย่างถูกต้องและปลอดภัยต่อทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค มีการพิจารณาผลกระทบของสารเคมีดังกล่าวโดยยึดหลักธรรมาภิบาลและมาตรฐานองค์กรสากล การยับยั้งการใช้สารเคมีดังกล่าวอาจสร้างความเสียหายต่อภาคการผลิตและส่งออกพืชผลทางการเกษตรโดยไม่จำเป็น

ชี้แบน 3 สารต้องพิจารณารอบด้าน

 

“ทั้งนี้สมาคมฯ ต้องการชี้แจงถึงข้อคิดเห็นและจุดยืนของภาคอุตสาหกรรมและผู้นำเข้าว่า เรายึดหลักธรรมาภิบาล และความถูกต้องตามตัวบทกฎหมาย ความเป็นจริงของสถานการณ์ทางภาคเกษตรกรรม ความจำเป็นของเกษตรกรที่มีความจำเป็นต้องใช้ปัจจัยการผลิตทางการเกษตร มิได้มีประโยชน์ทางการค้าแต่อย่างใด ทุกสมาคมดำเนินงานตามหลักการขององค์กรที่ไม่แสวงกำไร ดังนั้นวัตถุประสงค์ของทั้ง ๓ สมาคมจะมีระเบียบกฎเกณฑ์กำกับอยู่ชัดเจนแล้ว พวกเราทุกสมาคมทำงานเพื่อประโยชน์ของภาคเกษตรกรรม และเกษตรกรในประเทศเป็นสำคัญ”

 

 

อย่างไรก็ดีผลจากการตัดสินใจที่ได้กำหนดเป้าหมายไว้แล้วล่วงหน้านั้น มองเป็นความไม่ยุติธรรมต่อเกษตรกรเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการตัดสินใจเกี่ยวกับสารแต่ละชนิด ควรใช้การพิจารณาตามหลักสากล ว่าด้วยเหตุผลและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มากกว่าการคาดเดา หรือจากผลที่กำหนดไว้ล่วงหน้า  สมาคมฯ ยินดีรับฟังเหตุผล หลักฐานและข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน