อสังหากัมพูชาบูม  ตลาดลิฟต์ระอุ  

14 ต.ค. 2562 | 23:35 น.

ฮิตาชิลุยตลาดลิฟต์กัมพูชารองรับการขยายตัวของอสังหาฯ มิกซ์ยูส กาสิโน ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาด 25%

การเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศกัมพูชาเติบโต 6-7% ติดต่อกันต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสิ่งก่อสร้างมีการลงทุนในธุรกิจต่างๆ รวมทั้งอาคารสำนักงาน อาคารสูง คอนโดฯ หรู ห้างสรรพสินค้า ซึ่งผู้ลงทุนรายใหญ่กว่าครึ่งคือจีน และส่วนใหญ่จะมาลงทุนในแบบคอนโดฯ ที่พักอาศัย ที่ขายเสร็จแล้วกลับทำให้ช่องว่างในกลุ่มห้างสรรพสินค้า กาสิโน มิกซ์ยูส อาคารอื่นๆ ยังมีโอกาส เราจึงเดินหน้าลุยตลาดลิฟต์ในกัมพูชามาตลอด 2 - 3 ปีที่ผ่านมา

นายศักดิ์ชาย วรสง่าศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์ (กัมพูชา) จำกัด เผยว่าความต้องการใช้ลิฟต์และบันไดเลื่อนในกัมพูชาเติบโตต่อเนื่องปีละ 10% จากดีมานด์ที่มีอยู่ 1,500 ยูนิต บริษัท ฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์ (กัมพูชา) จำกัด ดำเนินธุรกิจเป็นผู้จำหน่าย และให้บริการลิฟต์และบันไดเลื่อนภายในกรุงพนมเปญ โดยนำเอาลิฟต์ที่ผลิตในไทยเข้าไปจัดจำหน่าย และโครงการแรกที่เรารุกตลาดกัมพูชา คือ ห้าง AEON Mall กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งในปีแรกที่เข้าไปดำเนินธุรกิจคือปี 2560 บริษัททำยอดขายได้ 50 ยูนิต และขยายตัวขึ้นในปี 2561 เป็น 100 ยูนิต

อสังหากัมพูชาบูม  ตลาดลิฟต์ระอุ  

ศักดิ์ชาย  วรสง่าศิลป์

นายศักดิ์ชาย เผยอีกว่า กัมพูชาลิฟต์ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับผู้บริโภค เพราะชาวกัมพูชามีประสบการณ์ร่วมในการใช้ลิฟต์ยังน้อยหรือประมาณ 5-10 ปี หากเทียบกับไทยที่มีประสบการณ์รวมมาแล้วกว่า 40 ปี อีกหนึ่งช่องว่างที่ทำให้ตลาดลิฟต์ในกัมพูชารุกแบบต่อเนื่อง คือ เป็นตลาดเปิด ยังไม่มีกฎหมาย หรือข้อกำหนด มาตรฐาน ควบคุมการซื้อ ขายติดตั้ง ลิฟต์ และบันไดเลื่อน ดังนั้นการนำเข้าจากประเทศต่างๆ สามารถนำเข้ามาขายได้อย่างเสรี ลูกค้ามีสิทธิ์เลือกซื้อ ได้จากผู้แทนจำหน่ายที่มีจำนวนมากมายในประเทศ รวมถึงสามารถสั่งซื้อตรงได้จากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศ จีน และ เวียดนาม ซึ่งมีราคาถูกมาก

 

 

 

 

 

 

 

สำหรับกลุ่มลูกค้าของเรา ฮิตาชิ เน้นความปลอดภัยและคุณภาพของสินค้า ดังนั้นการทำธุรกิจในกัมพูชาต้องมีความจริงใจกับผู้บริโภค ขายสินค้าที่มีคุณภาพ การสร้างความพึงพอใจของบริการหลังการขาย และการใช้ช่องทางประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสม ซึ่งผมเลือกใช้การสร้างเครือข่ายกับกลุ่มผู้ประกอบการภาคก่อสร้าง นักลงทุน วิศวกร และสถาปนิกรุ่นใหม่เป็นหลัก ซึ่งสินค้า ฮิตาชิ แบรนด์ ญี่ปุ่น ที่ผลิตจากประเทศไทยเป็นจุดแข็งที่สร้างความมั่นใจ ให้แก่ลูกค้านายศักดิ์ชาย กล่าวเสริม

ด้านแผนพัฒนาการรุกธุรกิจต่อจากนี้ ในปี 2562 ตั้งเป้าไว้ที่ 150 ตัว สำหรับยอดขาย โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาสามารถจำหน่ายไปได้แล้วกว่าครึ่งหรือประมาณ 80 ตัว และภายในปี 2564 ฮิตาชิคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดลิฟต์ในกัมพูชา 25% และจะขยายอย่างต่อเนื่องด้วยการบริการที่ดีของเรา

 

 

อย่างไรก็ดี เมื่อสอบถามไปยังตลาดลิฟต์ในประเทศไทยเป็นอย่างไร ทางผู้บริหารให้ความเห็นกลับมาว่า น่าจะทรงตัว เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ไม่ลงทุนโครงการตึกสูง ทำให้ภาพรวมตลาดลิฟต์ทุกยี่ห้อ มีความต้องการ (ดีมานด์) ลดลง จากปัจจุบันมีดีมานด์ปีละ 7,000-8,000 ยูนิต โดยฮิตาชิ มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 ปีที่ผ่านมามียอดขาย 800 ยูนิต ด้านตลาดลิฟต์ในกลุ่มซีแอลเอ็มวี เป็นอย่างไร ทางผู้บริหารให้ความเห็นว่า มีโอกาสขยายตัวโดยเฉพาะที่กัมพูชามีโอกาสสูง

หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,513 วันที่ 13-16 ตุลาคม 2562

                        อสังหากัมพูชาบูม  ตลาดลิฟต์ระอุ