ทรัมป์พูด"เจรจาจีน-สหรัฐฯดี" แต่ดูเหมือนไม่ใช่!!

11 ต.ค. 2562 | 02:31 น.
  • ทรัมป์แถลงข่าวกล่าวถึงการเจรจาระหว่างจีน-สหรัฐฯ ไปในทิศทางที่ดี
  • รมว.คลังสหรัฐเดินออกจากที่ประชุมก่อนเวลา หลังจากนั้นอีก 1 ชม.รองนายกฯจีนเดินทางออกจากที่ประชุมเช่นเดียวกัน
  • ตามกำหนดเดิมรองนายกฯจีนจะพบกับผู้นำสหรัฐฯในวันศุกร์ แต่มีรายงานว่าเมื่อเจรจาจบจะเดินทางกลับในพฤหัสบดีทันที

การเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีนเพื่อยุติสงครามการค้าเป็นไปได้ด้วยดี

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสรัฐฯกล่าวในการแถลงข่าวในช่วงเย็นที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ว่า “ผมคิดว่าการเจรจาเป็นไปได้ด้วยดี ผมคิดว่ามันดีมาก เรามีข้อเจรจาต่อรองที่เรียกได้ว่าดีมากๆกับจีน คณะเจรจาจะเปิดเผยรายละเอียดออกมาหลังจากนี้ แต่ตอนนี้คณะเจรจากำลังรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน และพรุ่งนี้จะกลับมาพบกันใหม่ที่นี่”

ปฎิกิริยาของตลาดทุน S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทันทีที่ทรัมป์ออกมาแสดงความเห็นเพียงครึ่งชั่วโมง  ขณะที่ตลาดฟิวเจอร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นในคืนที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทยเช่นเดียวกัน   

การเจราจาของทั้งสองฝั่งเริ่มขึ้นต้นขึ้นรอบล่าสุดในวอชิงตัน ของสหรัฐฯหลังจากเกิดความตึงเครียดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งสหรัฐฯและจีนมีความหวังที่จะขจัดกำแพงภาษีสินค้าที่ต่างฝ่ายต่างขึ้น และทำให้ทั้งสองฝั่งเกิดความเสียหายมากกว่าแสนล้านเหรียญฯ

การเจรจานี้มีขึ้นก่อนที่จะถึงเส้นตายที่ทางสหรัฐฯขีดเอาไว้วันที่ 15 ตุลาคมนี้ ที่เลื่อนการใช้มาตรการนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยเป็นการขยับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนจาก 25% เป็น 30%

ผู้นำการเจรจา

ทั้งสองฝั่งนำโดยรัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ สตีเวน มนูชิน และผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ โรเบิร์ต ไลธิเซอร์ ส่วนจีนนำโดยรองนายกรัฐมนตรี หลิว เฮ่อ

  

ก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงแนวโน้มการเจรจาจากนายมนูชิน ขณะเดินออกจากการประชุมก่อนเป็นคนแรก เขาได้แต่เพียงยิ้มให้กับสื่อเท่านั้น ขณะที่ หลิว เฮ่อ รองนายกฯของจีน เดินออกจากห้องหลังจากที่นายมนูชินเดินออกไปประมาณ1ชั่วโมงหลังจากนั้น

 

เป็นที่น่าสังเกตว่า ตามกำหนดประธานาธิบดีสหรัฐฯมีโปรแกรมที่จะพบกับรองนายกฯของจีนที่ทำเนียบขาวในวันศุกร์ (11ต.ค.62) ซึ่งทรัมป์ได้ทวีตแสดงความเห็นไปในทิศทางที่ดี แต่ก็มีรายงานว่าคณะเจรจาของจีนจะเดินทางกลับหลังจากการพูดคุยกันเสร็จในวันพฤหัสบดีทันที

ความตึงเครียดระหว่างมหาอำนาจทั้งสองเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ตามมาด้วยการเจรจาเพื่อหาข้อยุติ และเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯใช้มาตรการขึ้นบัญชีดำบริษัทของจีน 28 แห่ง ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับ "การละเมิดสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน" ของกลุ่มชาติพันธุ์อุยกูร์ ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โดยประกาศของสหรัฐฯเกิดขึ้นในวันจันทร์ (8ต.ค.) ที่ผ่าน

อย่างไรก็ตาม การขึ้นบัญชีดำของสหรัฐฯจะเกิดขึ้นก่อนการเจรจาระหว่างคณะเพียง 3 วัน แต่รองนายกฯของจีนก็ยังคงกำหนดการเดิมและเดินทางมาสหรัฐฯในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาโดยกล่าวกับสื่อจีนว่า “ที่จีนเดินทางมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจและตั้งใจจริงที่จะแก้ไขปัญหานี้ และพูดคุยเรื่องที่สหรัฐฯเป็นกังวลโดยเฉพาะดุลการค้า การเข้าถึงตลาดและการปกป้องนักลงทุน และพร้อมที่จะสนับสนุนการเจรจาให้เดินไปข้างหน้า”

ประธานาธิบดีสหรัฐฯกดดันจีนด้วยการกล่าวว่า จีนละเมิดการค้า รวมถึงการขโมยทรัพย์สินทางปัญหา ให้สหรัฐฯต้องถ่ายทอดความรู้ทางเทคโนโลยีหากมีการลงทุนในจีน รวมถึงต้องการให้จีนจ่ายเงินซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐฯให้มากขึ้นด้วย