สตาร์ตอัพร้อง “จุรินทร์” ช่วยด่วน!

09 ต.ค. 2562 | 09:16 น.

กลุ่มสตาร์ตอัพร้อง “จุรินทร์" ช่วยแก้ ปัญหาธุรกิจอื้อ ทั้งกฎหมายไม่เอื้อ แบงก์ปล่อยกู้ช้า รัฐจัดซื้อจัดจ้างเอื้อรายเดียว แถมถูกสตาร์ตอัพต่างชาติใช้เงินทุ่มตลาด เตรียมนัดรายละเอียดอีกครั้ง

 

ผู้สื่อข่าวรายงาน(9 ต.ค.2562)นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้พบกับ กลุ่มผู้ประกอบการเปิดใหม่(สตาร์ตอัพ)ทางด้านเทคโนโลยี ประสานงานโดยนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ และนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย ประกอบด้วย ดร.พณชิต กิตติปัญญางาม นายกสมาคมสตาร์ทอัพประเทศไทย นายเรืองโรจน์ พูนผล อดีตนายกสมาคมฯ เป็นการเข้าพบหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขอุปสรรคปัญหาและแนวทางในการสนับสนุนเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืนของกลุ่มธุรกิจสตาร์ตอัพ

สตาร์ตอัพร้อง “จุรินทร์” ช่วยด่วน!

รายงานระบุว่า ผู้แทนจากกลุ่มสตาร์ทอัพที่เข้าพบนายจุรินทร์ในครั้งนี้ มาจากหลากหลายอุตสาหกรรม จัดเป็นกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพและมีรูปแบบในการดำเนินธุรกิจที่ตอบโจทย์เทรนด์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน อาทิ ธุรกิจพัฒนาทางด้านการลงทุนสำหรับคนวัยเกษียณ ธุรกิจที่ช่วยพัฒนาและต่อยอดการทำธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ ธุรกิจที่ทำทางด้านการพัฒนาท่องเที่ยวชุมชน ธุรกิจที่ทำทางด้าน Big Data ของภาคเกษตร กลุ่มธุรกิจที่ทำทางด้านลิขสิทธิ์ที่มาจากสมาคม Creative Licensing ธุรกิจที่ทำทางด้าน Sharing Economy ธุรกิจที่ทำทางด้านโซลูชั่นส์ของระบบบัญชีสำหรับเอสเอ็มอี เป็นต้น

 

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย เปิดเผยว่า ในการพูดคุยพบว่าปัญหาที่สำคัญของกลุ่มสตาร์ตอัพที่เป็นปัญหาร่วมกันในการดำเนินธุรกิจคือในการขยายธุรกิจให้เติบโต (Scaling Up) ยังมีอุปสรรคอยู่มากโดยเฉพาะประเด็นทางด้านกฏหมายที่ไม่เอื้อในการประกอบธุรกิจ รวมถึงการสนับสนุนทางด้านเงินทุนจากธนาคารหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีอุปสรรคเรื่องความล่าช้าในการได้รับเงินทุนในการดำเนินกิจการ ทั้งนี้การดำเนินธุรกิจของกลุ่มสตาร์ตอัพจะมีผู้เกี่ยวข้องที่สำคัญอยู่ 4 ภาคส่วนคือนักลงทุน ลูกค้า ภาครัฐ และกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ที่จะสนับสนุนกลุ่มสตาร์ตอัพ

สตาร์ตอัพร้อง “จุรินทร์” ช่วยด่วน!

 

โดยปัญหาที่ผ่านมาของภาครัฐคือเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างที่มักจะพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการขึ้นเองมาแข่งขันกับภาคเอกชนโดยจัดจ้างผู้ประกอบการเพียงรายใดรายหนึ่งและบังคับให้ทุกหน่วยงานใช้ซึ่งเป็นการปิดโอกาสทางการแข่งขันสำหรับผู้ประกอบการรายอื่น ผลที่จะตามมาคือทำให้ได้บริการที่ไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริง และส่งผลให้กลุ่มสตาร์ตอัพรายเล็กไม่สามารถแข่งขันได้และอยู่ไม่รอดในที่สุด

 

ส่วนทางด้านองค์กรขนาดใหญ่ที่จะสนับสนุนปัญหาที่พบคือองค์กรขนาดใหญ่ยังขาดความเชื่อมั่นในธุรกิจสตาร์ตอัพ เนื่องจากธุรกิจยังมีความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจจากสภาวการณ์แข่งขันในปัจจุบันโดยเฉพาะการมีคู่แข่งที่เป็นผู้ประกอบการจากต่างประเทศที่มีทั้งเงินทุนในการเข้ามาทุ่มตลาดและศักยภาพในการแข่งขันกับผู้ประกอบการในประเทศภายใต้ยุคโลกาภิวัฒน์ที่ใช้ออนไลน์เป็นช่องทางการตลาดที่สำคัญ

สตาร์ตอัพร้อง “จุรินทร์” ช่วยด่วน!

 

ทั้งนี้ปัญหาที่สำคัญที่กลุ่มสตาร์ตกำลังเผชิญคือเรื่องของการบังคับใช้กฏหมาย ที่มีความไม่เท่าเทียมกันระหว่างสตาร์ตอัพไทย กับสตาร์ตอัพจากต่างประเทศ การใช้เงินทุ่มตลาดจากผู้ประกอบการสตาร์ตอัพจากต่างประเทศ โดยข้อติดขัดทางด้านกฏหมายหลายข้อทางสมาคม ฯ เคยเสนอมานานแล้วแต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้นายจุรินทร์ มีความตั้งใจที่จะให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการสตาร์ตอัพ เพื่อช่วยให้อยู่รอด แข่งขันกับผู้ประกอบการจากต่างประเทศได้ โดยได้ให้ความสนใจในการรับฟังปัญหาและขอให้ตัวแทนกลุ่มสตาร์ตอัพไปสรุปประเด็นที่จะให้ภาครัฐช่วยดำเนินการแก้ไขมาในเบื้องต้น และจะให้มีการนัดหมายหารือกันอีกครั้งเพื่อพูดคุยกันในรายละเอียด