Bluekoff เบื้องหลังกาแฟอร่อย ความสำเร็จเกิดจากการเรียนรู้และฝึกฝน

13 ต.ค. 2562 | 03:30 น.

“กฎ 10,000 ชั่วโมง” ของ มัลคอล์ม แกลดเวลล์ผู้ซึ่งไม่เชื่อว่าการมีพรสวรรค์จะนำไปสู่ความสำเร็จ การฝึกฝนต่างหากที่จะนำพาไปสู่ความเป็นสุดยอด...และนี่คือความเชื่อของผู้บริหารรุ่นใหม่ “อ๋า -ศุภชัย ศรีวิตตาภรณ์” ผู้ก่อตั้ง และประธานกรรมการ “Bluekoff” แบรนด์กาแฟรายใหญ่ ที่คนดื่มกาแฟทั่วไปอาจไม่คุ้นหู แต่เขาคือ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของร้านกาแฟนับพันรายในไทย รวมไปถึงเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

“อ๋า” เล่าว่า เขาเริ่มต้นธุรกิจจากการวิ่งขายเมล็ดกาแฟตั้งแต่ปี 2000 เพราะไม่อยากกลับไปทำธุรกิจกินเงินกงสีปั๊มนํ้ามันและโรงสีที่บ้าน ด้วยความที่ชื่นชอบกาแฟอยู่แล้ว เมื่อเพื่อนชวน เขาจึงลงมือลุย กอปรกับได้มารู้จักกับเจ้าของเว็บไซต์ “ร้อยตะวัน” ที่มีชื่อเสียงอยู่ในพันทิปด้านกาแฟขณะนั้น เขาจึงจับมือกับเจ้าของเว็บร้อยตะวัน ตอบคำถาม เขียนคอนเทนต์ให้ความรู้ด้านกาแฟ พร้อมๆ กับการสร้างเว็บไซต์ของตัวเอง จนก้าวขึ้นเป็นเว็บไซต์เบอร์ 1 ด้านกาแฟ ด้วยเวลาเพียงไม่นาน

Bluekoff เบื้องหลังกาแฟอร่อย ความสำเร็จเกิดจากการเรียนรู้และฝึกฝน

ช่วงเริ่มต้นของการทำธุรกิจ “อ๋า” บอกว่า เขาก็ล้มลุกคลุกคลานมาพอสมควร จากปณิธานในการทำธุรกิจที่ซื่อตรง และให้ความสำคัญกับคุณภาพ เพราะฉะนั้น เมล็ดกาแฟที่นำมาขาย จึงต้องพิถีพิถัน เขาตระเวนวิ่งหาเมล็ดกาแฟคุณภาพทั้งเชียงใหม่ เชียงราย แต่ก็ถูกหลอก นำผลผลิตไม่ดีมาขาย จนในที่สุด จึงเริ่มสร้างโรงงานเองบนดอยช้าง จังหวัดเชียงราย พร้อมทำคอนแทร็กต์ฟาร์มมิ่งกับเกษตรกรกว่า 800 ครัวเรือน ให้ความรู้ ควบคุมการเพาะปลูก เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟที่ดีมีคุณภาพ โดยเปิดรับซื้อในราคาที่เกษตรกรพอใจ

จากจุดเริ่มต้นจนมาถึงวันนี้ กาแฟของ Bluekoff กลายเป็นที่รู้จักแพร่หลายและยอมรับในคุณภาพ โดย Bluekoff ทำธุรกิจในลักษณะของการรับจ้างผลิต หรือโออีเอ็ม ด้านเมล็ดกาแฟเป็นหลัก โดยกว่า 95% เป็นกลุ่มธุรกิจในไทย ส่วนต่างประเทศ ขณะนี้มีส่งออกไปยังญี่ปุ่นและที่เกาหลีใต้ นอกจากนี้ ยังเปิดช็อปแล้วกัมพูชา และเวียงจันทน์ ประเทศลาว  

“เราตั้งเป้าว่า เราคือหลังบ้านเป็นหลัก เพราะมองว่า การทำแฟรนไชส์จะทำเมื่อไรก็ได้ แต่นั่นคือ เรากำลังทุบลูกค้าตัวเอง ขณะเดียวกัน การทำแฟรนไชส์โอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนมีน้อย การที่เราทำหน้าที่เป็นหลังบ้าน มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริม สร้างให้เกิดเมล็ดกาแฟคุณภาพ ส่งเป็นสินค้าออกไปให้กับหลายๆ แบรนด์ แบบนั้นน่าจะดีกว่า”

Bluekoff เบื้องหลังกาแฟอร่อย ความสำเร็จเกิดจากการเรียนรู้และฝึกฝน

“อ๋า” บอกว่า ช่วงที่เขาเริ่มทำธุรกิจ ตลาดกาแฟกำลังเริ่มบูม และต่อมาก็บูมมากขึ้นเรื่อยๆ มีร้านกาแฟเกิดขึ้นเยอะแยะ คนไทยหันมาดื่มกาแฟมากขึ้น ทำให้ตลาดเริ่มเต็ม จนมีอดีตคู่ค้าบางราย ก็กลายมาเป็นคู่แข่งในปัจจุบัน เพราะฉะนั้น การทำธุรกิจของเขา จึงเริ่มขยายออกไปด้านข้าง ด้วยการขยายตลาดไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยยังคงคอนเซ็ปต์ การทำโออีเอ็มเป็นหลัก

นอกจากนี้ ยังพัฒนาตัวเองอย่างสมํ่าเสมอ ซึ่งล่าสุด ได้ออกกาแฟดริพ และการลุยตลาดช็อกโกแลต โดยยังยึดหลักการทำตลาดแบบโออีเอ็มอีกเช่นเคย ซึ่งขณะนี้ได้ลงทุนเครื่องจักรจากอิตาลีสำหรับการผลิตช็อกโกแลตคุณภาพออกสู่ตลาด และคาดว่าจะเริ่มลุยจริงจังประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากให้ความรู้และศึกษาตลาดให้แน่นอีกสักนิด เพราะหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจของผู้ชายคนนี้คือ “การสร้างหลังบ้านให้แน่น วางรากฐานให้แข็งแรง”

ความแข็งแกร่งของการทำธุรกิจ เราต้องมองข้างหลังให้แน่น แล้วค่อยผลักไปข้างหน้า ตอนนี้ผมค่อนข้างมั่นใจ สำหรับกาแฟ ไม่มีใครในเมืองไทยจะมาทำแบบนี้ ปริมาณเท่านี้ ปีละ 800 - 1,000 ตัน ก่อนจะเริ่มทำธุรกิจอะไรสักอย่าง ผู้ชายคนนี้ ไม่ได้มองแค่ว่า เห็นความเป็นไปได้แล้วลงมือทำ แต่เขาจะศึกษาอย่างลึกซึ้ง ทำให้เกิดความเชี่ยวชาญ ต้องคิดอย่างรอบคอบ ทำพื้นฐานให้แข็งแรงก่อน

“ผมเชื่อ กฎ 10,000 ชั่วโมง คนเราต้องเชี่ยวชาญเราอย่ามองแค่ว่า จะไปสร้างอะไรสักอัน แล้วอยู่ดีๆ จะทำได้เลย ทุกอาชีพมันมีรายละเอียดของมัน เราต้องลงไปเจาะ และเข้าไปศึกษา ที่สำคัญคือ ต้องไม่หยุดคิด อย่าบอกว่าเราดีแล้วอันนั้นคือจบ ตัวเราจะหยุดทันที แล้วคนข้างหลังก็จะไล่จี้เราขึ้นมา”

เพราะฉะนั้น แม้ตลาดกาแฟจะเต็ม แต่โอกาสทางการตลาดยังมี และยังมีโอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ หากเขาคิดจะเจาะลึกและลงไปพัฒนาอย่างจริงจัง นั่นจึงทำให้นักธุรกิจรุ่นใหม่คนนี้ ไม่หยุดนิ่ง จากทุนเริ่มต้นที่ใช้เพียงหลักแสน ปัจจุบันได้ขยายมูลค่าไปมหาศาล สามารถสร้างรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาทแล้ว แต่เขาก็พร้อมที่จะคิดค้นหาสิ่งใหม่ๆเติมเต็มให้กับธุรกิจของเขาตลอดเวลา

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,512 วันที่ 10 - 12 ตุลาคม พ.ศ. 2562

Bluekoff เบื้องหลังกาแฟอร่อย ความสำเร็จเกิดจากการเรียนรู้และฝึกฝน