RML ตั้ง “กฤษณ์ ณรงค์เดช”ขึ้นแท่น ประธานกรรมการ

ไรมอน แลนด์เสริมแกร่งธุรกิจ ตั้ง“กฤษณ์ ณรงค์เดช” เป็นประธานกรรมการบริษัท อัพฐานลูกค้ารักษาเก้าอี้ผู้นำคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ของไทย

นายไลโอเนล ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด(มหาชน)หรือ RML เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 20 พฤศจิกายน อนุมัติให้นายกฤษณ์ ณรงค์เดช เป็นประธานคณะกรรมการบริษัท และนายกรณ์ ณรงค์เดชเป็นกรรมการบริษัท โดยหากได้รับอนุมัติแล้ว ทั้ง 2 ท่านจะเป็นกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร แต่จะเป็นผู้กำหนดนโยบายการดำเนินงานของบริษัท เพิ่มช่องทางในการขยายฐานลูกค้า พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทต่อกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเดิมของบริษัท เคพีเอ็น แลนด์ จำกัด (KPNL)  

ทั้งนี้คณะกรรมการเล็งเห็นว่า บุคคลดังกล่าวในครอบครัวณรงค์เดชเป็นผู้ที่มีความสามารถและประสบการณ์ของการทำธุรกิจในกลุ่ KPNL ที่หลากหลาย และมีความเชี่ยวชาญในด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมระดับบนเช่นเดียวกันพร้อมทั้งมีวิสัยทัศน์ในการวางกลยุทธ์และให้คำแนะนำด้านการพัฒนาธุรกิจเป็นอย่างดีซึ่งการเข้ามาเสริมศักยภาพทางธุรกิจในครั้งนี้ บริษัทมองว่าจะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทในอนาคต

กฤษณ์ ณรงค์เดช

“กรรมการที่เข้ามาจาก KPNL นั้น มีบทบาทเพื่อสนับสนุนการขยายฐานลูกค้าใหม่ ทั้งในแง่ของอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย และเพื่อเช่าทั้งนี้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ยังคงถือครองหุ้นในสัดส่วนเดิม  ทางกลุ่มไรมอน แลนด์ มั่นใจว่าการสนับสนุนจากครอบครัวณรงค์เดชจะช่วยให้ บริษัทรักษาฐานที่แข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับหนึ่งที่ 16% ในตลาดนี้”นายไลโอเนล ลี กล่าว

กรณ์ ณรงค์เดช

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกลุ่ม KPNL รวมกับหุ้นที่นายกฤษณ์ ณรงค์เดช ถือในนามส่วนตัว 892 ล้านหุ้น คิดเป็น 21.4% ซึ่งเมื่อมองโครงสร้างคณะกรรมการของ ไรมอน แลนด์ ในปัจจุบัน ที่มีตำแหน่งกรรมการรวมทั้งหมด 9 ท่าน การแต่งตั้งบุคคลครอบครัวณรงค์เดช เป็นตัวแทนของ KPNL ให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริษัทนั้น กำหนดให้สูงสุดไม่เกินจำนวน 2 ท่าน จาก 9 ท่านดังกล่าว จะเห็นว่าบุคคลในครอบครัวณรงค์เดชที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทจะไม่สามารถมีอิทธิพลหรือควบคุมการดำเนินการหรือการตัดสินใจในเรื่องใดๆ ของคณะกรรมการบริษัท แต่จะเข้ามาช่วยผลักดันในด้านการขยายฐานลูกค้า ซึ่งจะทำให้บริษัทรักษาความเป็นอันดับหนึ่งด้านมาร์เก็ตแชร์ในตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่อย่างแข็งแกร่งต่อไป