จี้ผ่าตัดใหญ่ประเทศไทย ลดเสี่ยงสงครามการค้า

07 ต.ค. 2562 | 07:59 น.

วอร์รูมพาณิชย์ ภาครัฐ-เอกชน เห็นพ้อง ปรับพอร์ตประเทศไทยลดความเสี่ยงสงครามการค้า-เศรษฐกิจโลกถอดถอย สอท.ประเมิน หากสถานการณ์ยืดเยื้อคาดส่งผลส่งออกไทยปี63 ขยายตัวติดลบ3% ขณะที่ปีนี้คาดติดลบ 2-3%

สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ ภาคเอกชนประเมินว่าเป็นปัจจัยฉุดเศรษฐกิจทั่วโลกกระทบการส่งออกไทย จากคำสั่งซื้อลดลง บริษัทลดเวลาทำงานและลดคนเพิ่มขึ้นเพื่อลดต้นทุน พร้อมแนะรัฐบาลปรับโครงสร้างเน้นการบริโภคในประเทศลดการพึ่งพาการส่งออก ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะนำข้อสรุปเสนอคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์(กรอ.พาณิชย์)พิจารณาต่อไป

นายเกรียงไกร  เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) ระบุว่า ปัญหาสงครามการค้าขณะนี้ ส่งผลให้ให้การส่งออกไทยชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 8 เดือนแรกติดลบ 2.2%  ซึ่งภาคเอกชนประเมินว่าสถานการณ์ในช่วงที่เหลือของปีสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงเพราะแนวโน้มยังคงยืดเยื้อถึงปีหน้า อาจทำให้การส่งออกปีนี้ติดลบ 2-3 %และปีหน้าอาจจะติดลบ3%ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ ทั้งนี้จากการส่งออกที่ชะลอตัว ทำให้โรงงานหลายแห่งมีการปรับลดเวลาการจ้างงานและลดคนงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่ส่งไปจีน เช่น แผงวงจรไฟฟ้า ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวของโรงงานเมื่อคำสั่งซื้อลดลง

จี้ผ่าตัดใหญ่ประเทศไทย  ลดเสี่ยงสงครามการค้า

ดังนั้นเห็นว่าไทยควรปรับโครงสร้างลดการพึ่งพาการส่งออก จากปัจจุบันที่พึ่งพาการส่งออก 70%  และบริโภคในประเทศ 30%  ให้เป็น 60:40 และเพิ่มเป็น 50:50 ในอนาคต เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งปัญหาสงครามการค้า ,Brexit,การเมืองในฮ่องกง  ซึ่งรัฐควรสนับสนุนอุตสาหกรรม หรือสินค้าที่ผลิตในประเทศ  และรณรณงค์ให้ประชาชนใช้สินค้าและบริการในประเทศ เพิ่มขึ้นซึ่งจะช่วยสนับสนุนและทดแทนการส่งออกได้

จี้ผ่าตัดใหญ่ประเทศไทย  ลดเสี่ยงสงครามการค้า

สอดคล้องกับนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ระบุว่า ปัญหาสงครามการค้าและเงินบาทที่แข็งค่าส่งผลให้การส่งออกชะลอตัว และกระทบถึงโรงงานบางแห่งที่จะต้องลดต้นทุน เพราะคำสั่งซื้อลด จึงทำให้โรงงานบางแห่งมีการลดคนงาน  ซึ่งทางออกในการรับมือปัญหาสงครามการค้า ผู้ประกอบการต้องปรับตัว เช่น การนำเข้าวัตถุดิบมาเพื่อส่งออก การนำมาเทคโนโลยีมาช่วยควบคู่แรงงานฝีมือ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเวลานี้กระทบทั่วโลก แต่ไทยถูกซ้ำเติมจากเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้แข่งขันยาก โดยภาคเอกชนคาดว่าการส่งออกปีนี้คาดว่าจะติดลบ

จี้ผ่าตัดใหญ่ประเทศไทย  ลดเสี่ยงสงครามการค้า

ด้านนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร  ปลัดกระทรวงพาณิชย์  กล่าวภายหลังการประชุมคณะทำงานติดตามสถานการณ์ผลกระทบที่มีผลต่อค้าโลกและการส่งออกไทยจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน  ร่วมกับภาคเอกชน เช่น หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย เพื่อประเมินผลกระทบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นตรงกันว่า แนวทางแก้ปัญหาการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยขณะนี้ จะต้องมีปรับโครงสร้างประเทศไทย(ปรับพอร์ต)เน้นการบริโภคในประเทศมากขึ้น เพื่อเพิ่มจีดีพี การนำเข้าวัตถุดิบราคาถูกมาผลิตสินค้าสำเร็จเพื่อส่งออก ซึ่งจะต้องปรับกฎระเบียบที่เอื้ออำนวย รวมทั้งเพิ่มมูลค่าให้สินค้าที่ผลิตในประเทศไทย   ขณะเดียวกันยังต้องเร่งเจรจาข้อตกลงต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ทั้ง เช่น FTA ไทย-อียู การเจรจา  RCEP รวมทั้งการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ  นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังเรื่องสินค้าที่อาจไหลทะลักเข้าไทยหรือใช้เป็นทางผ่านไปประเทศที่สาม รวมทั้งปัญหาค่าเงินบาท โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าจะไม่เข้าไปแทรกแซง

จี้ผ่าตัดใหญ่ประเทศไทย  ลดเสี่ยงสงครามการค้า