ซีอีโอตบเท้า โต้คลื่นดิจิทัล ร่วมDTCรุ่น1
กระแสการตื่นตัวรับ มือคลื่นดิจิทัลขององค์กรชั้นนำในไทยมีมากขึ้น โดยเห็นได้จากโครงการอบรมหลักสูตร “Digital Transformation for CEO” หรือ DTC รุ่นแรก ดำเนินการร่วมกันระหว่าง หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ กรุงเทพธุรกิจ และบริษัทเอ็มเอฟอีซีจำกัด(มหาชน) ที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่มีซีอีโอยุคใหม่ หัวใจดิจิทัล ตบเท้าเข้าร่วมล้นหลาม 112 คน โดยหลักสูตรดังกล่าวได้รับเกียรติจากนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มาร่วมเปิดตัวหลักสูตรดังกล่าว
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ กำลังทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ โดยนำงบประมาณจากการดูงาน และสัมมนาทั้งในและต่างประเทศทั้งหมดมาลงทุนเรื่องดิจิทัล โดยทุกโรงเรียนจะต้องมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตครอบคลุมทั้งหมด 100% ต่อไปทุกห้องเรียน จะต้องสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ เบื้องต้นการติดตั้งอินเตอร์เน็ตให้ครอบคลุมโรงเรียนทั่วประเทศต้องใช้งบประมาณ 900 ล้านบาท แต่ขณะนี้มีงบอยู่ 700 ล้านบาท
“การศึกษาถือเป็นเรื่องสำคัญสุด ทุกองค์กรกำลังประสบปัญหาบุคลากรที่ไม่เพียงพอ และคุณภาพไม่ตอบสนองความต้องการ 2-3 ปีนี้เราจะต้องเร่งสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ กระทรวงศึกษาฯต้อง ปรับตัวครั้งใหญ่ เรามีครู 500,000 คนทั่วประเทศ ดูแลนักเรียน 10 ล้านคน โดยต้องปลุกใจให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงถ้าไม่ทำตอนนี้ก็ไม่มีโอกาสทำอีก”
ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังได้เชิญนักลงทุนจากหลายประเทศ เข้ามาลงทุนในไทย แต่สิ่งที่เห็นคือ บุคลากรที่จะตอบสนองยังไม่เพียงพอและตรงกับความต้องการ โดยเฉพาะบุคลากรที่มีคุณภาพด้านดิจิทัลยังไม่เพียงพอ
“ใน2-3 ปีข้างหน้า กระทรวงศึกษาธิการ ต้องสร้างคนที่มีคุณภาพ แต่คนที่มีคุณภาพไม่ใช่แค่ดิจิทัลอย่างเดียว แต่ต้องมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษด้วย ต้องให้เวลาครู 3 ปี ให้มีความรู้ด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นครูรุ่นใหม่ หรือใกล้เกษียณ เพราะตอนนี้ชีวิตไม่ได้หยุดอยู่แค่ 60 ปี นี่คือการผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลง”
ด้ายนายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่าไมโครซอฟท์ยังอยู่ในช่วงของการปรับเปลี่ยนธุรกิจ หรือ ทรานส์ฟอร์เมชัน จากซอฟต์แวร์คัมปะนี ที่มีมูลค่าตลาด พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปสู่โซลูชั่นคัมปะนี ที่มีมูลค่าตลาด 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯโดยเปลี่ยนจากวินโดวส์, ออฟฟิศ, พีซี คัมปะนี ไปสู่ ดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่น พาร์ตเนอร์ โซลูชัน ทั้งสถานที่ทำงานรูปแบบใหม่ แอพพลิเคชันธุรกิจ แอพพลิเคชัน และโครงสร้างพื้นฐาน ดาต้า และเอไอ รวมถึง เกมมิ่ง ไมโครซอฟท์ เปลี่ยนจาก ซอฟต์แวร์ไลเซน คัมปะนี ไปสู่ คลาวด์ คัมปะนี และเปลี่ยนจาก โปรดักต์ โฟกัส ไปสู่ คัสโตเมอร์ โฟกัส โดยเราไม่ได้รับฟังสิ่งที่ลูกค้าพูดอย่างเดียว แต่ต้องได้ยินในสิ่งที่ลูกค้าไม่ได้พูดด้วย
ทั้งนี้กลยุทธ์สำคัญของไมโครซอฟท์คือ ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง, ความง่าย โดยดิจิทัลในความหมายของเรา คือ เรียลไทม์ ถ้าอยู่ในโลกดิจิทัล ถ้าไม่มีสปีด ไม่มีอไจล์ ไม่สามารถอยู่รอดบนดิจิทัลได้ สุดท้ายคือ สร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เรียนรู้เทคโนโลยีอย่างเข้มข้น ทั้งกับตัวเอง พาร์ตเนอร์ และลูกค้า โดยไมโครซอฟท์ ลงทุน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อบรม เพิ่มทักษะ พนักงาน และลูกค้า โดยการจะให้ลูกค้าเปลี่ยนมาใช้สิ่งใหม่นั้นต้องให้ความรู้ สร้างให้เกิดทักษะ
วัฒนธรรมของไมโครซอฟท์ในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ คือ Growth mindset หรือ หลักการคิดแบบก้าวหน้าที่กล้าท้าทายปัญหาต่างๆ ซึ่งต้องมีไอเดียใหม่ และต้องลองทำ ต้องไม่กลัวความล้มเหลว
จากปรัชญา Growth Mindset ได้ทำให้วัฒนธรรมของไมโครซอฟท์ เปลี่ยนจาก know-it-alls หรือ “รู้ทุกสิ่ง” ไปสู่ learn-it-alls หรือ “เรียนรู้จากทุกอย่าง” โดยมีคุณสมบัติทั้งหมด 3 ประการ อันประกอบไปด้วย 1. Customer obsession การให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นที่ตั้ง 2. Diversity and inclusion การให้ความสำคัญต่อความแตกต่างและการเปิดกว้างทางความคิดที่ให้ความสำคัญกับพนักงานในทุกระดับชั้น และ 3. To be one company การทลายกำแพงระหว่างหน่วยงานเพื่อสร้างเป้าหมายร่วมกัน สุดท้ายองค์กรจะต้องสร้างความแตกต่าง Making a difference
“ตอนนี้เรากลับมาแบ็กทูเบสิกกลับมาโฟกัสเทคโนโลยี ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นในโมบาย แต่จะไม่เกิดขึ้นในเอไอ”
นายธนวัฒน์ กล่าวต่อไปอีกว่าไมโครซอฟท์กำลังเตรียมเซ็นเอ็มโอยู กับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านดิจิทัลในไทย โดยเบื้องต้นจะเข้าไปช่วยเซตอัพดิจิทัลโปรแกรม ให้กับมหาวิทยาลัย 25 แห่ง นอกจากนี้ยังได้เตรียมร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม จัดตั้ง “เอไอ แล็บ”ขึ้นมาในไทย
หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3511 วันที่ 6-9 ตุลาคม 2562
