ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี สนาม 15 รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร โดยในรุ่นใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง โมโตจีพี ชิงชัยกันทั้งสิ้น 26 รอบสนาม
ตำแหน่งโพลในเรซนี้เป็นของ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสจาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ขนาบข้างด้วย มาเวริค บีญาเลส นักบิดสแปนิชจาก มอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี และ มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกชาวสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า ในกริดที่ 3 ซึ่งในเรซนี้ มาร์เกซ ต้องการเก็บคะแนนเหนือ อันเดรีย โดวิซิโอโซ นักบิดอิตาเลียนจาก มิสชั่น วินนาว ดูคาติ เพียง 2 คะแนน เขาก็จะขึ้นครองตำแหน่งแชมป์โลกพรีเมียร์คลาสสมัยที่ 6 ทันที
จังหวะออกสตาร์ทเป็น กวาร์ตาราโร ที่ทะยานขึ้นเป็นผู้นำได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ มาร์เกซ ขยับแซง บีญาเลส ขึ้นมารั้งอันดับ 2 ได้สำเร็จ ขณะที่ โดวิซิโอโซ นักบิดคนเดียวที่จะหยุดการฉลองแชมป์โลกของ มาร์เกซ ได้นั้น ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 4
อย่างไรก็ตาม จบการแข่งขัน 26 รอบสนาม ของ ศึก พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ แชมป์ตกเป็นของ มาร์เกซ ที่ไล่แซง กวาตาร์ราโร ได้ในรอบสุดท้าย เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 39 นาที 36.223 วินาที ผงาดคว้าแชมป์ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน เฉือน กวาร์ตาราโร เพียง 0.171 วินาที ขณะที่อันดับ 3 ตกเป็นของ บีญาเลส ตามหลังแชมป์ 1.380 วินาที
การคว้าแชมป์ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ส่งผลให้ มาร์เกซ ขึ้นเถลิงแชมป์โลกพรีเมียร์คลาสเป็นสมัยที่ 6 ของตนเอง และเป็นการคว้าแชมป์โลกรวมทุกคลาสเป็นสมัยที่ 8 อย่างยิ่งใหญ่
ขณะที่นักบิดไทยหนึ่งเดียวในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก อย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา เจ้าของหมายเลข 35 จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ก็สร้างผลงานกระหึ่มโฮมเรซด้วยการคว้าอันดับ 9 ในศึก โมโตทู หลังจากไล่แซงคู่แข่งได้กว่า 12 คัน จากเรซในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การแข่งขัน โมโตจีพี แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามถัดไป จะมีขึ้นในวันที่ 16-18 ตุลาคมนี้ ที่ ทวินริง โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น ในรายการ เจแปนีส กรังด์ปรีซ์