แนะตรวจสอบโครงสร้างอาคารหลังน้ำลด

05 ต.ค. 2562 | 03:29 น.

มูลนิธินายช่างไทยใจอาสาได้จัดตั้งโครงการวิศวกรอาสาร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ลงพื้นที่ตรวจสอบระบบโครงสร้างและระบบไฟฟ้า ให้แก่ประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานีที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่


 

ศ.ดร.อมร พิมานมาศ ในฐานะนายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างไทยในฐานะประธานมูลนิธินายช่างไทยใจอาสา เปิดเผยว่าน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่อาจเป็นน้ำที่ไหลหลากและมีความเร็วของกระแสน้ำ จึงอาจเกิดแรงปะทะกับโครงสร้างและทำให้โครงสร้างเกิดความเสียหายขึ้นโดยแรงปะทะจากน้ำที่ไหลแรง อาจทำให้โครงสร้างโย้ เอียง หรือเคลื่อนตัวหลุดจากฐาน ซึ่งจะทำให้เกิดการแตกร้าวตามมา

ทั้งนี้ความเสียหายของโครงสร้างอาคารอาจเป็นอันตรายต่อการรับน้ำหนัก ดังนั้นจึงแนะนำให้ประชาชนเจ้าของอาคารตรวจสอบอาคารของตนเองเป็นเบื้องต้น 1. ลักษณะรูปร่างภายนอกของอาคาร ให้ตรวจสอบด้วยสายตัวว่ามีการ ทรุด เอียง โย้หรือไม่2. กำแพงรั้ว หรือ ผนังบ้าน ให้ตรวจสอบว่ามีการทรุด เอียง ล้ม แตกร้าวที่รอยร้าวทำมุมเอียง 45 องศา3. พื้นบ้าน ให้ตรวจสอบว่ามีการแอ่นตัว แตกร้าว เนื้อคอนกรีตกะเทาะ ชำรุดเสียหาย4. ชิ้นส่วนโครงสร้างต่างๆ เช่น คาน เสา ให้ตรวจสอบรอยแตกร้าวที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะบริเวณปลายคาน และ โคนเสา หากพบรอยแตกร้าวที่ทำมุมเอียง 45 องศา จะเป็นรอยร้าวที่อันตราย5. ตอม่อ ให้ตรวจสอบว่าตอม่อมีการแตกร้าวในเสาตอม่อ หรือมีการกะเทาะของเนื้อคอนกรีตหลุดออกจนเห็นเหล็กเสริม ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อโครงสร้าง6. ฐานราก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเป็นฐานรากแผ่ที่ฐานวางอยู่บนพื้นดินโดยตรง ไม่มีเสาเข็มรองรับ ให้ตรวจสอบว่า ดินใต้ฐานรากถูกน้ำชะออกไปหรือไม่ ซึ่งจะเห็นฐานรากลอยจากพื้นเป็นอันตรายเพราะอาจทำให้ฐานรากทรุดตัวตามมา 7. ข้อต่อระหว่างส่วนต่างๆ ของโครงสร้าง เช่น ข้อต่อระหว่างคานกับเสา ให้ตรวจสอบว่ามีการแตกร้าว หลุดหรือแยกออกจากกันหรือไม่ หากพบการหลุดของข้อต่ออาจทำให้โครงสร้างพังถล่มตามมาได้

แนะตรวจสอบโครงสร้างอาคารหลังน้ำลด

หากตรวจพบโครงสร้างได้รับความเสียหายข้างต้น ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอาจเป็นอันตรายได้ ควรรีบปรึกษาวิศวกรเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป ในส่วนของสมาคมวิศวกรโครงสร้างไทยจะร่วมมือกับมูลนิธินายช่ายไทยใจอาสา เพื่อให้คำแนะนำพื้นฐานที่จำเป็นแก่ประชาชนต่อไป