จัดพอร์ตซื้อทอง  ‘ทิสโก้’ คาดปี63  พุ่ง2.4หมื่นบาท

06 ต.ค. 2562 | 22:59 น.

ทิสโก้ แนะจัดพอร์ตซื้อทองเก็บช่วงเดือน .. นี้ และขายปี 2563 คาดราคาทองมีโอกาสปรับตัวขึ้นบาทละ 23,200-24,000 บาท มองเม็ดเงินลงทุน LTF-RMF ไตรมาส 4 ปีนี้ชะลอเหตุกังวลเศรษฐกิจระยะยาว

นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ฯ กล่าวถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทยว่า ในเชิงเทคนิคคาดว่าจากนี้จนถึงสิ้นปี 2562 ดัชนีหุ้นไทยจะค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจนไปถึงเป้าหมายปลายปีที่ 1680 จุดได้ เนื่องจากความเสี่ยงขาลงของตลาดหุ้นเริ่มมีจำกัด หลังจากที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง 3 เดือนติดกัน ขณะที่ในไตรมาส 4/2562 จะเริ่มมีสภาพคล่องจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสำคัญๆ ไหลเข้าสู่ระบบ รวมถึงยังเป็นช่วงที่จะมีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) มากที่สุดด้วย

ไตรมาสที่ 4 เป็นไตรมาสที่มีข่าวดีรออยู่มาก โดยเฉพาะสภาพคล่องที่จะมีเพิ่มขึ้นในระบบ ทั้งจากการหยุดลดขนาดงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และนักลงทุนยังคาดว่าFEDจะลดดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้งในปีนี้ อีกทั้ง ธนาคารกลางยุโรป (ECB)ยังกลับมาทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เดือนละ 2 หมื่นล้านยูโรแบบยังไม่กำหนดวันสิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไปนายวิวัฒน์กล่าว

จัดพอร์ตซื้อทอง  ‘ทิสโก้’ คาดปี63  พุ่ง2.4หมื่นบาท

อย่างไรก็ตาม ปริมาณเงินที่จะเข้ามาลงทุนในกองทุน LTF และ RMF ในช่วงไตรมาส 4/2562 คาดจะปรับตัวลดลงจากปีก่อนๆ โดยประเมินว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาทลดลงจากไตรมาส 4/2561 ที่มีเม็ดเงินเข้ามาประมาณ 5.3 หมื่นล้านบาท และไตรมาส 4/2560 ที่มีเม็ดเงินเข้ามา 5.2 หมื่นล้านบาท เพราะนักลงทุนเป็นกังวลเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจในระยาว ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนระหว่างการลงทุนในช่วง 7 ปีปฏิทินของกองทุน LTF และการลงทุนในระยะยาวของ RMF ได้ จึงเป็นเหตุให้นักลงทุนอาจตัดสินใจแบ่งเงินเข้ามาลงทุนใน LTF และ RMF ในสัดส่วนที่น้อยลง และหันไปใช้วิธีอื่นในการช่วยลดหย่อนภาษีแทน

สำหรับหุ้นเด่นแนะนำไปจนถึงสิ้นปี 2562 แบ่งออกเป็น 3 ธีม ได้แก่ 1. หุ้นพื้นฐานดี แต่ในรอบ 2-4 ปีราคาปรับลงมาตํ่าสุด ได้แก่ BBL, KBANK, SCBและ SPALI  2. หุ้นรับมาตรการรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่AOT,  CPALL, BJC, AMATA, WHA และ ROJNA
3.หุ้นกำไรดีไตรมาส BEM, ERW, SEAFCO, TRUEและTU

นายวิวัฒน์ กล่าวอีกว่าจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง และมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2563 ดังนั้นส่วนตัวจึงแนะให้ทยอยเข้าซื้อทองคำ โดยรอจังหวะที่ราคาทองย่อตัว ซึ่งคาดว่าจะเกิดในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2562 เพราะเป็นช่วงที่สภาพคล่องทั่วโลกเพิ่มขึ้น มองราคาทองคำโลกย่อตัวลงที่ 1,440 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ และรอขายในปี 2563 ที่คาดว่าราคาทองคำจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 1,650-1,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ขณะที่การลงทุนในตลาดทองคำไทยแนะนำให้เข้าซื้อเมื่อราคาลงไปอยู่ที่บาทละ 21,400 บาท และคาดว่าปี 2563 ราคาทองคำในประเทศจะปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่บาทละ 23,200- 24,000 บาท โดยได้รับแรงหนุนจากเงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่า และราคาทองคำโลกปรับเพิ่มขึ้น

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,511 วันที่ 6-9 ตุลาคม 2562 

                   จัดพอร์ตซื้อทอง  ‘ทิสโก้’ คาดปี63  พุ่ง2.4หมื่นบาท