BAMเตรียมขายIPO  ลุยโรดโชว์4ประเทศ

06 ต.ค. 2562 | 10:45 น.

BAM พร้อมแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจเป็นบจ. เตรียมเสนอขายไอพีโอ 1,765 ล้านหุ้น เข้าจดทะเบียนใน SET ลุยโรดโชว์ 4 ประเทศเริ่มสัปดาห์หน้า ชูจุดแข็ง บริหารสินทรัพย์รายใหญ่สุดของประเทศ สาขาครอบคลุม 26 แห่ง

นางทองอุไร ลิ้มปิติ ประธานกรรมการ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM) เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปรับเปลี่ยนจากรัฐวิสาหกิจสู่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (...) ส่วนหุ้นไอพีโอ ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุน 280 ล้านหุ้น, หุ้นสามัญเดิม 1,255 ล้านหุ้น และอาจจัดสรรหุ้นส่วนเกิน ไม่เกิน 230 ล้านหุ้น รวมทั้งสิ้น 1,765 ล้านหุ้น คิดเป็น 54.4% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท

BAMเตรียมขายIPO  ลุยโรดโชว์4ประเทศ

ทองอุไร  ลิ้มปิติ

สำหรับการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปขยายธุรกิจ ผ่านการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายในอนาคต ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยจุดแข็งของบริษัท คือ การบริหารสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศมีสาขาเครือข่ายทั่วประเทศ 26 แห่ง และเป็นธุรกิจบริหารสินทรัพย์มีโอกาสทุกภาวะเศรษฐกิจ ทั้งช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว สามารถเลือกซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพได้ในต้นทุนที่เหมาะสม และภาวะเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ลูกหนี้มีศักยภาพชำระหนี้ และมีกำลังซื้อทรัพย์สินรอการขายจากลูกค้า

นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้า BAM จะเริ่มเดินสายโรดโชว์พบนักลงทุนในต่างประเทศ โดยเริ่มตั้งแต่ สิงคโปร์ ฮ่องกง อังกฤษ และสหรัฐฯ

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผล ในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ของงบการเงินเฉพาะกิจของบริษัท และภายหลังการจัดสรรสำรองตามกฎหมาย แต่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้จ่ายปันผลอย่างสมํ่าเสมอ ส่วนใหญ่จ่ายปันผลมากกว่านโยบายกำหนดไว้ โดยปี 2559 จ่ายปันผล 80.79% ปี 2560 จ่ายปันผล 97.77% และปี 2561 จ่ายปันผล 60% ส่วนผลการดำเนินงานช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิต่อเนื่องปีละกว่า 4,500 ล้านบาท มีสินทรัพย์เติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปี และมีสินทรัพย์รวม 107,667 ล้านบาท

ทั้งนี้ปี 2561 ที่ผ่านมา BAM มีกำไรสุทธิรวม 5,202.02 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.58% จากปีก่อน โดย วันที่ 31 มีนาคม 2562 บริษัทได้ปิดบัญชีเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ (NPL) ซึ่งคำนวณจากมูลค่าต้นทุนการซื้อไปแล้ว 90,562.65 ล้านบาท สามารถเรียกเก็บเงินสดได้ 122,931.74 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเงินสดรับจากธุรกิจ NPL และ NPA รวม 16,569.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่อยู่ที่ 13,515.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.59% และ วันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา BAMมีเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้สุทธิ 74,482.33 ล้านบาท ซึ่งหลักประกันของลูกหนี้ดังกล่าวมีมูลค่าอิงตามราคาประเมิน 187,875.26 ล้านบาท และมีทรัพย์สินรอการขาย 21,731.04 ล้านบาท โดยมีมูลค่าอิงตามราคาประเมิน 50,287.17 ล้านบาท

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,511 วันที่ 6-9 ตุลาคม 2562           BAMเตรียมขายIPO  ลุยโรดโชว์4ประเทศ