ผ่า5กลยุทธ์ไทยพาณิชย์ขึ้นแท่น TechCompany

09 ต.ค. 2562 | 06:35 น.

ไทยพาณิชย์ เผยคืบหน้า 5 กลยุทธ์ รับมือดิสรัปชัน เดินหน้าดึงลูกค้าขึ้นแพลตฟอร์ม 20 ล้านราย หวังลดต้นทุน ชี้ลูกค้าใช้บริการช่องทางดิจิทัล 96% เหลือ 4% ที่ใช้สาขา “อรพงศ์” แนะจัดทัพบุคลากร ยกชั้นเป็นบริษัท Technology Company

ธนาคาร ไทยพาณิชย์ใช้เงินลงทุนกว่า 4 หมื่นล้านบาทในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เพื่อนำร่องปรับเปลี่ยนองค์กรและวางโครงการพัฒนาระยะยาว มีการลงทุนในกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ทั้งบริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด(Digital Ventures), SCB ABACUS, SCB10X และ SCB Academy และเริ่มเห็นผลิตผลจากการลงทุนในรูปแบบการให้บริการใหม่ เช่น ต่อยอดเทคโนโลยีบล็อกเชน สร้างแพลตฟอร์มในการออกหนังสือคํ้าประกัน  (Letter of Guarantee : LG) จากไทยพาณิชย์ให้กับเครือข่ายซัพพลายเชนของกลุ่มเอสซีจี การนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้กับกระบวนการสั่งซื้อสินค้า ด้วยระบบ Procure-to-Pay โดยร่วมกับเอสซีจี ซึ่งช่วยลูกค้าประหยัดกว่า 50% หรือด้านสินเชื่อออนไลน์ (Digital Lending) โดยนำเทคโนโลยี AI วิเคราะห์ฐานข้อมูลของลูกค้า เพื่อเสนอบริการสินเชื่อด้วยต้นทุนที่ถูกลง รวมถึงการ ROBO-Advisor เพื่อใช้ Machine Learning บริหารการลงทุนต้นทุนตํ่า สำหรับลูกค้ากลุ่ม Wealth เหล่านี้ สะท้อนถึงความพยายามและพัฒนาสร้างนวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า

นายอรพงศ์ เทียนเงิน ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวในวันเปิดหลักสูตรสำหรับผู้บริหาร ผู้นำองค์กรและเจ้าของธุรกิจ หรือ Digital Transformation for CEO ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจและหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจว่า ธนาคารตื่นตัวเรื่อง Digital disruption มาก ซึ่งทุกธนาคารพยายามที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง และแม้ว่าหลายปีที่ผ่านมา ธนาคารลงทุนด้านเทคโนโลยีจำนวนมาก แต่เมื่อเทียบกับบริษัทภายนอกหรือ The best of the world แล้ว ยังเห็นช่องว่างที่ห่างกันมากขึ้น เสมือนใช้เงินลงทุนไปมากแค่ไหนก็ไล่ไม่ทันเทคโนโลยี

ผ่า5กลยุทธ์ไทยพาณิชย์ขึ้นแท่น TechCompany

อรพงศ์ เทียนเงิน

 

ดังนั้นปัจจุบันไทยพาณิชย์จึงไม่พยายามไล่ล่า แต่จะหันมาสร้างพันธมิตรกับผู้เชี่ยวชาญในแต่ละอุตสาหกรรมที่ดีที่สุด แทนที่จะไปมุ่งพัฒนา AI ให้ดีเท่ากับบริษัทในประเทศจีน แต่กระบวนการทำงานของไทยพาณิชย์ในระยะหลังจะพยายามดึงสตาร์ตอัพมาเป็นพันธมิตรในหลายมิติ เพราะทางรอดของธุรกิจ ทุกบริษัทต้องยกระดับตัวเองเป็น Technology Company เนื่องจากเทคโนโลยีจะเป็นองค์ประกอบใหญ่ของการทำธุรกิจในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินค้าหรือบริการ และความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของทุกๆบริษัทขึ้นกับบุคคลภายในองค์กรที่ต้องสามารถตามให้ทันเทคโนโลยีด้วย

ยกตัวอย่าง ธนาคารในเซี่ยงไฮ้นำฐานข้อมูล(Data)ลูกค้า ซึ่ง 1 คนมีฐานข้อมูลตั้งแต่ 7,000-10,000 ดาต้า ทำให้ปล่อยกู้สินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์คํ้าประกัน คิดอัตราดอกเบี้ย 18% มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)เพียง 1% ซึ่งปัจจุบันบริษัทที่มีฐานข้อมูลจะรู้จักลูกค้าดีกว่าเจ้าตัวเอง จึงเป็นไปได้ยากที่ธนาคารจะชนะบริษัทเหล่านี้ หรือกรณีการปล่อยกู้ในจีน จะใช้วิธีประชุมทางไกลกับตัวแทน(Conference Call กับ Agent) ซึ่งระหว่างสอบถามเกี่ยวกับรายได้จะมีกล้องจับใบหน้าตลอดเวลา โดยใช้ AI วิเคราะห์จับโกหกจากคำตอบ หากพบว่า มีความเป็นไปได้ว่าโกหก ก็จะลดโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อหรือให้วงเงินลดลง หรือในอินเดีย เริ่มพัฒนากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ขณะนี้้เริ่มปล่อยสินเชื่อ โดยจับมือกับ 5 ธนาคาร เพราะต้องการข้อเสนออัตราดอกเบี้ยที่ตํ่าเพื่อนำเงินไปปล่อยกู้ต่อ

ผ่า5กลยุทธ์ไทยพาณิชย์ขึ้นแท่น TechCompany ผ่า5กลยุทธ์ไทยพาณิชย์ขึ้นแท่น TechCompany ผ่า5กลยุทธ์ไทยพาณิชย์ขึ้นแท่น TechCompany

“สิ่งที่เห็น “ดิจิทัล ดิสรัปต์” ไม่ว่ากลุ่มเทเลคอม กลุ่มมีเดีย หรือธุรกิจค้าปลีก ด้วยเทคโนโลยีพื้นฐานที่ครบชุด ซึ่งขณะนี้เทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถนำมาทำธุรกิจใน Open Network หรือบนโลกอินเตอร์เน็ตได้โดยปลอดภัย เหมือนการส่งอี-เมล์ ไม่ว่าจะทำการค้า ทำสัญญา หรือส่งเงิน โดยเฉพาะถ้าอนาคตเริ่มมีการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลใช้กันกว้างขวางและพัฒนารวดเร็ว ซึ่งตัวกลางอย่างแบงก์จะไม่มีบทบาทอีกเลย”

 

ดังนั้นไทยพาณิชย์ จึงวางเป้าหมายยกระดับใน 5 ด้าน 1.พยายามลดต้นทุนจาก 48% ให้เหลือระดับ 30% เพราะการแข่งขันกับองค์กรที่เติบโตจากโลกดิจิทัลจะไม่มีต้นทุนโครงสร้างพื้นฐาน ไม่มีต้นทุนด้านบุคลากร 2.ยกระดับลูกค้าให้อยู่บนแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งพอใจกับตัวเลขฐานลูกค้าที่หันมาใช้ช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านรายเป็น 10 ล้านรายในระยะเวลากว่า 3 ปีและยังคงเดินหน้าเพิ่มจำนวนลูกค้าสู่ระบบดิจิทัลให้ถึง 20 ล้านราย ซึ่งปัจจุบันลูกค้าหันมาบริการช่องทางดิจิทัล 96% เหลือเพียง 4% ที่ยังใช้บริการสาขา แต่เป้าหมายคือต้องเพิ่มฐานลูกค้าสู่ระบบดิจิทัลมากขึ้น เพราะต้นทุนลดลงมาก เห็นได้จากต้นทุนออกบัตรเครดิตต่อลูกค้า 1 บัตรนั้นเดิมสูงกว่า 1,000 บาท แต่ล่าสุดด้วยดิจิทัลทำให้ต้นทุนเหลือไม่ถึง 20 บาท

3.ต่อยอดบริการเพิ่มเติมจากข้อมูลหรือ Data ที่ได้จากการดึงลูกค้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัล โดยเฉพาะการเปลี่ยนหรือเพิ่มศักยภาพเทคโนโลยีในการพัฒนาบริการลูกค้าได้ภายใน 1 สัปดาห์ จากเดิมใช้เวลาราว 6 เดือนและ 4.เพิ่มบุคลากรด้านเทคโนโลยีที่เป็นดาต้าจาก 800 คนเป็น 3,000 คน รวมถึงบริหารจัดการองค์กรเป็น Technology Company ซึ่งจะนำมาสู่ 5.เอื้อต่อการอยู่รอดด้วยการหาธุรกิจใหม่หรือหาพื้นที่ใหม่ๆ ในการสร้างรายได้ให้กับธนาคาร 

 

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,511 วันที่ 6 - 9 ตุลาคม พ.ศ. 2562