SMEs การค้าและบริการเชื่อมั่นขึ้นเล็กน้อยเดือน ส.ค.

04 ต.ค. 2562 | 09:20 น.

สสว.เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นเอสเอ็มอีภาคการค้าและบริการเดือนสิงหาคม  ชี้มีความเชื่อมั่นต่อกาทำธุรกิจดีขึ้นเพียงเล็กน้อย

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ (TSSI) ประจำเดือนสิงหาคม 2562 จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการของเอสเอ็มอี (SMEs) ทั่วประเทศ จำนวน 1,400 ตัวอย่าง  ว่า ดัชนี TSSI ประจำเดือนสิงหาคม 2562 อยู่ที่ระดับ 80.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนกรกฎาคม 2562 ที่อยู่ที่ระดับ 79.6 ซึ่งยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าฐานที่ 100 สะท้อนถึงผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจดีขึ้นเพียง เล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากในช่วงเทศกาลวันแม่ บางร้านค้ามีการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย อย่างไรก็ตามประชาชนยังคงขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ และระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น

SMEs การค้าและบริการเชื่อมั่นขึ้นเล็กน้อยเดือน ส.ค.

ทั้งนี้  ดัชนี TSSI เดือนสิงหาคม 2562 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากความเชื่อมั่นในองค์ประกอบด้านยอดจำหน่าย สินค้าและกำไรเป็นหลัก ผู้ประกอบการส่วนใหญ่รู้สึกว่าสถานการณ์ทางการค้าและบริการอยู่ในระดับที่ดีขึ้นเพียง เล็กน้อย อีกทั้งยังเป็นช่วงฤดูทำการเกษตร ทำให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดเยอะ แต่อย่างไรก็ตาม สภาวะเศรษฐกิจ ในช่วงนี้ยังคงชะลอตัว ส่งผลให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ มีการประหยัด และใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็น มากขึ้น นอกจากนี้ร้านค้ายังมีการแข่งขันสูงขึ้น ขายตัดราคากันเอง อีกทั้งยังเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวยังมาไม่มากเท่าที่ควร ผนวกกับในบางพื้นที่ยังมีปัญหาทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม

อย่างไรก็ดี  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการของ SME จำแนกตามสาขาธุรกิจ พบว่า สาขาธุรกิจ ส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางธุรกิจโดยรวมอยู่ในระดับเพิ่มขึ้น แต่ค่าดัชนีที่เพิ่มขึ้นยังคงน้อยกว่าค่าฐานที่ 100 ได้แก่ สาขาค้าส่งสินค้าเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค ค้าส่งวัสดุก่อสร้าง ค้าปลีกรถจักรยานยนต์/รถยนต์ ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ การท่องเที่ยว โรงแรม/เกสต์เฮาส์/บังกะโล สันทนาการ วัฒนธรรม การกีฬา ร้านอาหาร/ภัตตาคาร บริการด้านสุขภาพ/ความงาม และกิจกรรมอสังหาริมทรัพย์

สำหรับดัชนี TSSI คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ความเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 110.4 จากระดับ 100.6 ในเดือนก่อน ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์ทางการค้าและบริการจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีความเห็นว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงปลายปี นักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางเข้ามายังประเทศไทยมากขึ้น มีการจองที่พักล่วงหน้าสูงขึ้น รวมไปถึงร้านค้า ร้านอาหารคาดว่าจะคึกคักมากขึ้น สถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมคาดว่าจะดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการบางส่วนก็ยังคงกังวลในส่วนของความมีเสถียรภาพของรัฐบาล ทำให้ไม่กล้าลงทุนเพิ่ม

รายงานข่าวจาก สสว.ระบุอีกว่า  เมื่อแยกตามประเภทกิจการ พบว่า ผู้ประกอบการในทุกกิจการส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องกับ ในภาพรวม แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในภาคค้าส่งมองว่าความเชื่อมั่นรัฐบาลและสภาพอากาศเป็นอีกสาเหตุ ที่ทำให้ยอดขายลดลง   โดยเมื่อพิจารณาแยกตามภูมิภาค พบว่า ผู้ประกอบการในทุกภูมิภาคส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องกับ ในภาพรวม แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในกรุงเทพและปริมณฑลมองว่าความเชื่อมั่นรัฐบาล ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นและค่าครองชีพที่สูงขึ้นเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ยอดขายลดลง ภาคใต้มองว่าสภาพอากาศเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ยอดขายลดลง

SMEs การค้าและบริการเชื่อมั่นขึ้นเล็กน้อยเดือน ส.ค.

            แนวทางการแก้ไขปัญหายอดขายลดลง จากปัจจัยภายในด้านต่างๆ ดังนี้   1.การยังคงใช้การตลาดแบบเดิม แก้ไขปัญหาโดยการขยายช่องทางการขายสินค้า/บริการเพิ่มขึ้น เช่น ตลาดออนไลน์ เพื่อความสะดวกสบาย (43.90%)  ,2.การมีทุนไม่เพียงพอในการรับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป แก้ไขปัญหาโดยขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำระยะยาว ขอเพิ่มวงเงินในการกู้ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจหมุนเวียนได้ (73.33%) ,3.การไม่ได้ใช้เทคโนโลยีมาช่วยขาย แก้ไขปัญหาโดยการลงทุนนวัตกรรม เทคโนโลยีให้เข้ามาช่วย ( 47.62%)

                ด้านแนวทางการแก้ไขปัญหายอดขายลดลง จากปัจจัยภายนอกด้านต่างๆ ดังนี้  1.ภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยการที่รัฐบาลออกโครงการกระตุ้นการใช้จ่าย การกระจายรายได้ และส่งเสริมการท่องเที่ยว (75.62%) ,2.พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนแปลง แก้ไขปัญหาโดยการปรับเปลี่ยนตามพฤติกรรมการซื้อ/การใช้จ่าย/ การชำระค่าสินค้าหรือบริการของลูกค้า (52.18%)  และ3.คู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้น แก้ไขปัญหาโดยการเพิ่มช่องทางการรับลูกค้าให้มากขึ้น ปรับแผนการตลาด ปรับตัวให้ทันคู่แข่ง เพิ่มมาตรฐานของร้าน (34.87%)