ผ่าแนวรุก‘อิตัลไทย’ ลุยเต็มสูบธุรกิจโรงแรม

07 ต.ค. 2562 | 05:10 น.

 

ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป จัดว่าเป็นกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมบริการและไลฟ์สไตล์ ในเครือของบริษัทอิตัลไทย ที่สร้างรายได้ราวกว่า 5 พันล้านบาทต่อปี คิดเป็นสัดส่วนกว่า 37% ของกลุ่มธุรกิจในเครืออิตัลไทย ซึ่งออนิกซ์ ยังคงขยายการรับบริหารอย่างต่อเนื่อง ภายใต้เป้าหมายการเพิ่มจำนวนโรงแรมเป็น 99 แห่ง ภายในปี 2567 อ่านได้จากสัมภาษณ์นายดักลาส มาร์เทล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป

มุ่งเป้าผู้นำบริหารรร.ในเอเชีย

นับจากออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2551 ปัจจุบันเรามีโรงแรม รีสอร์ต และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ภายใต้การรับบริหาร ที่เปิดให้บริการแล้วทั้งหมด 50 แห่ง จำนวน 8,000 ห้อง ใน 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว มาเลเซีย มัลดีฟส์ กลุ่มประเทศเกรทเทอร์ไชน่า บังกลาเทศ และศรีลังกา และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาอีกกว่า 20 แห่ง

ผ่าแนวรุก‘อิตัลไทย’  ลุยเต็มสูบธุรกิจโรงแรม

จากเดิมมีแค่แบรนด์อมารี เพียงแบรนด์เดียว แต่ตอนนี้มี 3 แบรนด์ คือ อมารี,ชามา (บริหารเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์) และโอโซ่ ซึ่งจากโรงแรมที่เราเปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบันถือว่าเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าจากเดิม

ทั้งเรายังตั้งเป้าขยายเครือข่ายการรับบริหารโรงแรมในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ภายใต้เป้าหมายที่จะขับเคลื่อนให้ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ เป็นบริษัทขนาดกลางที่เป็นผู้นำด้านการรับบริหารโรงแรมที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก

 

ผ่าแนวรุก‘อิตัลไทย’  ลุยเต็มสูบธุรกิจโรงแรม

 

เพิ่มรร.เป็น99แห่งในปี67

โดยออนิกซ์ ตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2567 จะมีโรงแรมภายใต้การบริหารทั้งหมด 99 แห่ง ดังนั้นวันนี้เรามีโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้ว 50 แห่ง ก็จะเห็นว่าในช่วง ปีข้างหน้าเราจะเพิ่มโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ภายใต้การบริหารให้ได้อีก 49 แห่ง เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเรามั่นใจว่าทำได้

เนื่องจากออนิกซ์มีพันธมิตรคู่ค้าที่เข้มแข็ง และดีลต่างๆ ที่เราได้รับบริหารก็เกิดจากพันธมิตรที่เคยให้เราบริหารโรงแรมที่เปิดให้บริการมาแล้ว ทำให้วันนี้เรามีโรงแรมที่เซ็นสัญญาและอยู่ระหว่างการพัฒนาแล้วกว่า 20 แห่งทั้งในไทยและต่างประเทศ

อย่างล่าสุดออนิกซ์ ได้เข้าไปรับบริหารโรงแรม อมารี นิเซโก๊ะ ซึ่งเป็นการลงทุนของบริษัทเมโทรโพลี โฮลดิ้งส์ จำกัด นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของฮ่องกง ที่เป็นการลงทุนในโครงการมิกซ์ยูส แต่เราเข้าไปบริหารในส่วนที่เป็นโรงแรม มีจำนวน126 ห้อง คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2567

นอกจากนี้ยังมองถึงการขยายแบรนด์โรงแรมใน จีน มาเลเซีย ศรีลังกา ลาว และไทย อย่างต่อเนื่อง


 

 

เปิดสนง.ในเซี่ยงไฮ้รุกตลาด

สำหรับในจีน ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีขนาดใหญ่ของโลก ออนิกซ์ ได้เข้าเปิดสำนักงานที่เซี่ยงไฮ้ และเพิ่งจะเปิดโรงแรมชามา จื่อจินกั่ง หางโจว เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ ตั้งอยู่ในบริเวณเขตตะวันตกของเมืองหางโจว ไม่ไกลจากสำนักงานใหญ่ อาลีบาบา และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ประกอบด้วยจำนวนห้องพักทั้งหมด 384 ห้อง

ทั้งยังจะขยายแบรนด์ชามาฮับ (ซับแบรนด์ชามา ที่เน้นแนวคิดสตูดิโอ ลิฟวิ่ง โมเดิร์น) อีก 2 แห่งในจีน คือ ชามา ฮับ นิว ซิตี้ ฉางชุน 209 ห้อง และชามา ฮับ  ไหโขว่ ไห่หนาน133 ห้อง ซึ่งในจีนเราเปิดให้บริการแล้ว 12 แห่ง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 4 แห่ง

ผ่าแนวรุก‘อิตัลไทย’  ลุยเต็มสูบธุรกิจโรงแรม

ส่วนในมาเลเซีย ออนิกซ์มีโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ภายใต้การบริหาร 6 แห่ง เปิดให้บริการแล้ว1แห่งที่ยะโฮบารู ที่เหลืออยู่ระหว่างก่อสร้างคาดว่าจะเปิดบริการได้ในอีก 2 ปี หรือปี 2563 คือโอโซ่ จอร์จทาวน์ ปีนัง  141 ห้อง โอโซ่ เมดินี อิสกันดาร์ 198 ห้อง ชามา เมดินี อิสกันดาร์  232 ห้อง อมารี ปีนัง 453 ห้อง และเราตั้งเป้าขยายในมาเลเซีย อย่างน้อย10แห่ง

สำหรับในศรีลังกา ก็จะเปิดโรงแรมอมารี โคลัมโบ ขนาด167ห้องในปีหน้า และอยู่ระหว่างพัฒนาโรงแรมโอโซ มัลดีฟส์ เน้นกลุ่มมิดสเกล ซึ่งอยู่ทางเหนือ ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งที่ 2 ภายใต้การบริหารของออนิกซ์ที่มัลดีฟส์

ส่วนที่ลาวปัจจุบันเปิดให้บริการอยู่ 2แห่ง ที่วังเวียง และจำปาศักดิ์ อยู่ระหว่างพัฒนาโรงแรมอมารี ที่เวียงจันทน์

รีโนเวต4รร.ค่า5พันล.

ขณะที่โรงแรมในไทย เราจะเน้นยกระดับคุณภาพโรงแรมเป็นสำคัญ โดยเริ่มจากโรงแรมที่เราเป็นเจ้าของ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเราลงทุนไปราว 5 พันล้านบาท ในการรีโนเวตโรงแรม 4 แห่ง ได้แก่ อมารีพัทยา อมารีสมุย อมารีภูเก็ต  อมารี วอเตอร์เกท (ประตูน้ำ) เพื่อสร้างสแตนดาร์ดและทำให้คู่ค้าได้เห็นบริการของออนิกซ์

อย่างอมารี พัทยา เราปรับปรุงใหม่หมดรับเทรนด์การท่องเที่ยวและการเติบโตจากการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) ที่เพิ่งเปิดบริการ เน้นกลุ่มครอบครัว และตลาดไมซ์ และเรายังอยู่ระหว่างพัฒนาโรงแรมโอโซ่ พัทยา 406 ห้องด้วย

สำหรับในภูเก็ตเราเพิ่งเปิดโอโซ่ ภูเก็ต เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้ บริเวณหาดกะตะ  255 ห้อง ทำให้ปัจจุบันเรามีโรงแรมภายใต้แบรนด์โอโซ่ที่เปิดให้บริการแล้ว 5 แห่ง

ทั้งในปีหน้ายังตั้งงบ1.4 พันล้านบาทในการปรับปรุงโรงแรมอมารี วอเตอร์เกท เพิ่มเติมด้วย สำหรับโรงแรมในไทยที่ออนิกซ์รับบริหาร เช่น อมารี โวค กระบี่ ก็อยู่ระหว่างรีโนเวต เพื่อรักษาคุณภาพของแบรนด์หลังจากโรงแรมเปิดให้บริการมากว่า10 ปี

ผ่าแนวรุก‘อิตัลไทย’  ลุยเต็มสูบธุรกิจโรงแรม

นอกจากนี้ไม่นานมานี้ออนิกซ์ ได้เซ็นสัญญากับ บริษัท รัตนากร แอสเซทฯ ในการเข้าไปบริหารโรงแรม 3 แห่งของบริษัทรัตนากรฯรวมกว่า 773ห้อง ได้แก่ อมารี จอมเทียน พัทยา, ชามา วงศ์อมาตย์ และโอโซ่ พระตำหนัก พัทยา ที่จะเปิดในปี 2565 และ 2568 ซึ่งจะทำให้ออนิกซ์มีโรงแรมในพัทยากว่า11แห่ง

 

ดันสัดส่วนรายได้รับบริหาร70%

ทั้งนี้โรงแรมทั้งหมดของออนิกซ์ จะเป็นโรงแรมที่เราเป็นเจ้าของ 8 แห่ง คือ อมารี พัทยา, อมารี หัวหินอมารี ภูเก็ต,โอโซ่ ภูเก็ต, อมารี เกาะสมุยโอโซ่ เฉวง สมุย, อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ และโอโซ่ เวสลีย์ ฮ่องกง  การลงทุนโรงแรมเพิ่มเติมอาจจะมีในอนาคต แต่ทิศทางเราโฟกัสการรับบริหารโรงแรมมากกว่า

ดังนั้นในแง่การเติบโตของรายได้นั้นปัจจุบันสัดส่วนรายได้ จากโรงแรมในเครือที่บริษัท เป็นเจ้าของเอง (Equity property) กับโรงแรมในเครือที่บริหารจัดการภายใต้สัญญารับบริหาร (Managed) อยู่ที่ 50:50 และคาดว่าภายในปี2567 สัดส่วนรายได้โรงแรมจากที่เป็นเจ้าของเองจะอยู่ที่ 30% โรงแรมที่รับจ้างบริหารจัดการอยู่ที่ 70%

 

ผ่าแนวรุก‘อิตัลไทย’  ลุยเต็มสูบธุรกิจโรงแรม

ปีหน้ายังเป็นปีที่ท้าทาย

ในด้านภาพรวมของธุรกิจในปีนี้ ก็ถือว่าเป็นปีที่ท้าทาย เพราะมีปัจจัยหลายเรื่อง ทั้งเบร็กซิท ความขัดแย้งในฮ่องกง และสงครามการค้า ก็ส่งผลให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยในภาพรวมของโรงแรมในเครือออนิกซ์ช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม ปีนี้หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลง 4% ก็ไม่ได้ถือว่าแย่มาก และมองว่าคนไทยก็ยังเที่ยวในประเทศอยู่ ประกอบกับการเปิดให้บริการของอมารี พัทยา และชามา อโศก ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ก็จะทำให้เรามีรายได้จากห้องพักเพิ่มขึ้น12-15%

ส่วนในปีหน้า ก็มองว่ายังเป็นปีที่ท้าทายอยู่เช่นเคย แต่การที่เรามีโรงแรมใหม่ ธุรกิจเราก็ยังโตได้อีก จึงไม่น่าได้รับผลกระทบมาก และเราจะมุ่งขยายตลาดใหม่ เช่น นักท่องเที่ยวอินเดีย มาเลเซีย ตลาดไมซ์เกาหลีใต้ เป็นต้น

ผ่าแนวรุก‘อิตัลไทย’  ลุยเต็มสูบธุรกิจโรงแรม

อย่างไรก็ตามในช่วงเศรษฐกิจขาลง ก็เป็นโอกาสในการยกระดับการให้บริการของพนักงาน ปรับปรุงโรงแรมต่างๆ ขยายการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเติบโตในอนาคต ซึ่งการรับบริหารโรงแรมก็ยังมีโอกาสเติบโต เพราะนักลงทุนเข้าใจดีว่าโรงแรมเป็นการลงทุนระยะยาว และไทยยังเป็นจุดหมายด้านการท่องเที่ยว ทำให้นักลงทุนยังคงสนใจลงทุนโรงแรมในไทยอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

 

สัมภาษณ์ โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร 

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,511 วันที่ 6-9 ตุลาคม 2562

ผ่าแนวรุก‘อิตัลไทย’  ลุยเต็มสูบธุรกิจโรงแรม