กุมารทอง 0.4 น้ำลายท่วมหลังคนไทย

03 ต.ค. 2562 | 10:50 น.

คอลัมน์ล้วงตับ | โดย จิ้งจกตัวใหญ่

 

กุมารทอง 0.4 น้ำลายท่วมหลังคนไทย

 

          เข้าเดือนตุลาฯ แล้ว...คงอดไม่ได้ที่จิ้งจกตัวใหญ่จะไม่สอดรู้สอดเห็นหรือจิกกัดเรื่องการเมือง เพราะหากนับเวลาดูแล้วนี่ก็เข้าเดือนที่ 3 ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์2 ที่เข้าบริหารประเทศ หลายกระทรวงได้เดินหน้าทำงานตามนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อสภาไว้ ซึ่งผลงานต่าง ๆ ก็มีความเหมาะสมกับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรเอาไว้ แต่มีอยู่กระทรวงหนึ่งที่ ณ วันนี้ยังไม่เห็นผลงานใด ๆ อย่างเป็นชิ้นเป็นอันเลย
          นั่นก็คือ กระทรวงมเหสี (MHESI) หรือ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ภายใต้การนำโดยเจ้าสำนัก ที่ชื่อว่า ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษาฯ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 ยอดกุมารข้างกายท่านรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ว่า กระทรวงนี้มีบุคลากรระดับ ดร. มากที่สุด แต่เหตุไฉนผลงานที่จับต้องได้จึงไม่ปรากฏ ทั้ง ๆ ที่กระทรวงนี้เป็นความหวังของคนในชาติ

 

กุมารทอง 0.4 น้ำลายท่วมหลังคนไทย

 

          ที่บอกว่า กระทรวงมเหสี เป็นความหวังของคนในชาติ ก็เพราะว่า กระทรวงนี้เป็นกระทรวงที่ส่งเสริม สนับสนุน และกำกับการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ การวิจัย และการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อการพัฒนาประเทศให้เท่าทันกับการเปลื่ยนแปลง แต่วันนี้คนไทย เกษตรกรไทย ยังถูก Disrupt จากพายุดิจิทัลอยู่ ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้รับการช่วยเหลือใด ๆ เลย 
          ไม่แปลกใจ...ที่ทำไม? คนไทย เกษตรกรไทยยังล้าหลังอยู่ ก็ในเมื่อเจ้ากระทรวงชอบเดินสายบรรยายนู้นนี่นั่น ใช้ศัพท์ทางวิชาการชั้นสูง คุยฟุ้งหลายเวที เหมือนเล่นจำอวด อวดชาวบ้านให้หลงคล้อยตามถึงชีวิตและอนาคตของประเทศที่สวยหรูในยุคดิจิทัล อ่อ..จิ้งจกตัวใหญ่ลืมไปว่า..กุมารเจ้ากระทรวงตนนี้เปรียบเสมือนเป็นเพียงแค่สถาปนิก หาใช่วิศวกรไม่? ได้แค่คิดฟุ้งแบบ สร้างแบบเท่านั้น แต่ไม่สามารถที่จะทำและปฏิบัติได้จริง
          หากเทียบ 3 ยอดกุมารแบบปอนด์ต่อปอนด์จะเห็นได้ว่า ทั้ง  3 ท่านนั้นออกสตาร์ทเดินหน้าทำงานตามนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อสภาไว้ สร้างผลงานช่วยเหลือประชาชน เริ่มมีผลงานให้เห็นประปราย

          กุมารรุ่นพี่ตนแรก ท่านสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เมื่อไม่นานมานี้ท่านได้ออกนโยบายผลักดันโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งโครงการนี้ประชาชนได้ประโยชน์เต็ม ไหนจะเรื่อง แก้ไขปัญหาปาล์มดิบที่ล้นตลาด โดยส่งเสริมให้รถยนต์ใช้น้ำมันดีเซล B10 และ B20 ซึ่งโครงการนี้ช่วยให้พี่น้องชาวสวนปาล์มฟื้นขึ้นและได้ประโยชน์เต็มเพราะสามารถดันราคาปาล์มให้สูงกว่าเดิม ตังค์ในกระเป๋าพี่น้องสวนปาล์มมีเพิ่มขึ้นเขาก็อยู่ดีกินดี
          ตามมาด้วยกุมารรุ่นพี่ตนที่ 2  ท่านอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ท่านนี้ต้องยอมรับเลยว่า จิ้งจกตัวใหญ่ขอชูรักแร้โชว์ว่าผลงานท่านเข้าถึงประชาชนจริง ๆ ได้ใช้จริง ถึงมือจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเติมเงินเข้าบัตรคนจน ช่วยเหลือค่าไฟ ค่าน้ำ คืนภาษี VAT แล้วไหนจะโครงการ "ชิมช้อปใช้" ที่เป็นหัวรถจักรในการดึงการบริโภคในประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ถึงแม้โครงการนี้คนด่าเยอะแต่คนก็ลงทะเบียนเยอะเช่นกัน นั่นหมายความว่าพวกเขาได้ประโยชน์จริง ๆ เข้าทำนองที่ว่า “ปากว่าตาขยิบ” 

          ส่วนกุมารน้อยตนสุดท้อง ท่านกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการและเลขานุการ คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ขึ้นแท่นเป็นหัวหน้าทีมติดตามเศรษฐกิจ มีอำนาจไล่จี้หน่วยงานเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ต้องขอชมเชยที่ทำหน้าที่ได้ดี เพราะกรรมการชุดนี้สามารถผลักดันจนคลอดแพ็กเกจ ไทยแลนด์พลัส 7 ด้านเพื่อกระตุ้นนักลงทุน ลดข้อจำกัดข้อกฎหมาย พร้อมลดหย่อนภาษี จูงใจต่างประเทศ ท่ามกลางสงครามการค้าโลก
          แล้วหันมองดูกุมารเจ้ากระทรวงมเหสีตนนี้ จิ้งจกตัวใหญ่ขอถามท่านว่า.... “ท่านคิดทำอะไรบ้างหรือยัง” ทั้ง ๆ น้ำแดงที่ท่านได้จัดสรรมีมากถึง 1.4 แสนล้านบาท โจทย์ใหญ่ของท่านคือ หยิบวิจัย นวัตกรรม ที่อยู่บนหิ้งลงมาปัดฝุ่นแล้วพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นจริงและนำไปช่วยเหลือพี่น้องคนไทยด้วยกันที่ด้อยโอกาสและยากที่จะเข้าถึงเทคโนโลยีเสียที เขาไม่รู้...รัฐก็เข้าไปหยิบยื่นโอกาสให้เขา 
          จิ้งจกตัวใหญ่ขอเตือนกุมารเจ้ากระทรวงมเหสีตนนี้ ขอหยุดพฤติกรรมฟุ้งทฤษฎีชั้นสูง ที่คุ้นชินตั้งแต่สมัยรัฐบาลยุคทักษิณ นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ท่านก็ยังวาดฝันประเทศไทยจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้แต่ไม่เป็นเรื่องสักอย่าง พอเถอะ...พอได้แล้วเพราะหลายคนทั้งในและนอกกระทรวงหมดเงินไปกับการหาซื้อบันไดเพื่อปีนขึ้นไปฟังท่านฝอย หากท่านไม่หยุดประชาชนจะหยุดท่านเอง เพราะโอกาสครั้งที่ 3 มันไม่ได้มีไว้ให้สำหรับทุกคน มันมีไว้ให้กับคนจริงเท่านั้น ฟุ้งอย่างเดียวโอกาสอำนาจก็จะถูกริบคืน

 

กุมารทอง 0.4 น้ำลายท่วมหลังคนไทย