เตรียมเสนอ กองทุนหุ้นยั่งยืน ต.ค.นี้
สศค. เตรียมเสนอรมว.คลัง พิจารณากองทุนหุ้นยั่งยืน แทน LTF เดือนนี้ ปิดเงียบรายละเอียดอย่างไร ขณะที่เอเซียพลัส คาดมีเม็ดเงิน LTF โยกลงทุน 65% เบื้องต้นชอบ PTTEP-JWD
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า สศค.อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดกองทุนหุ้นยั่งยืน(SEF) ตามที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) เสนอ เพื่อทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) ซึ่งคาดว่า จะเสนอให้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาได้ภายในเดือนตุลาคมนี้
“เราจะนำข้อเสนอของ FETCO มาพิจารณาอย่างเหมาะสมมากที่สุด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดตอนนี้ได้ เพราะต้องรอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาก่อน ซึ่งสศค.จะเสนอให้พิจารณาเร็วที่สุดภายในเดือนตุลาคมนี้”นายลวรณ กล่าว
สำหรับกองทุน SEF ของ FETCO นั้นจะประกอบด้วย เพิ่มวงเงินการลงทุนที่จะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด จากเดิม 15% เป็น 30% ของรายได้พึงประเมิน แต่ยอดรวมไม่เกิน 250,000 บาท จากเดิม 500,000 บาท เพื่อลดความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้มีรายได้สูงกับผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้ต่ำ เพื่อให้คน 2 กลุ่มหลังได้รับประโยชน์มากขึ้น ขณะที่อายุการถือกองทุนนั้นจะให้ถือยาว 7 ปีปฏิทิน และมีการกำกำหนดสัดส่วนการลงทุน 65% ให้ลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ หรือกลุ่มหุ้นยั่งยืนที่ดำเนินธุรกิจ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และมีธรรมาภิบาลด้วย
ด้านนายปิ่นสาย สุรัสวดี ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษีกรมสรรพากรในฐานะโฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรอยู่ระหว่างหารือร่วมกับสศค. ถึงแนวทางการออกกองทุนใหม่ เพื่อทดแทนกองทุน LTF ที่จะหมดสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในช่วงสิ้นปีนี้ แต่หลักการ ยืนยันจะไม่มีกองทุน LTF อีกแน่นอน ซึ่งหลังจากเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว ก็จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาต่อไป
“เราพิจารณารอบด้านทั้งข้อเสนอของ FETCO รวมถึงแนวทางอื่นๆด้วย โดยเฉพาะในด้านของการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ประชาชนพึงได้ แต่รูปแบบจะเป็นแบบไหนอยู่ในขั้นของการพิจารณาร่วมกับสศค.”นายปิ่นสาย กล่าว
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส จำกัดระบุว่า กองทุน SEF มีความแตกต่างกับกองทุน LTF ใน 2 ส่วนหลักๆ คือ วงเงินลงทุนเพื่อใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี และนโยบายการลงทุนของกองทุน อย่างไรก็ตามแม้ 2 กองทุนจะมีความแตกต่างกัน แต่คาดว่าจะเห็นการโยกเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน LTF มาที่ SEF ประมาณ 65% ของเม็ดเงินลงทุนใน LTF ปัจจุบันแน่นอน