เปิดหุ้นยั่งยืน 20บจ.ในDJSI ผลตอบแทน24% 

ตลท.เปิด 20 รายชื่อบจ.ไทยใน DJSI มีผลตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2562 เผย 15 ปี ให้ผลตอบแทน 370% หรือเฉลี่ย 24% ต่อปี สูงกว่าดัชนีหุ้นไทยที่ให้ผลตอบแทน 274% หรือ 18% ต่อปี

นางสาวปฐมาภรณ์ นิธิชัย ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ทำสถิติใหม่ หลังการประกาศรายชื่อบจ.ทั่วโลกที่เป็นองค์ประกอบใน Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2562 โดยมีจำนวน 7 บริษัทที่ได้คะแนนสูงสุดหรือเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนของกลุ่มอุตสาหกรรม จากการประเมินบจ.ทั่วโลกใน 60 อุตสาห กรรม ส่งผลให้ประเทศไทยมีจำนวน บจ.ที่เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนของโลกมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา นอก จากนี้ ยังมีบจ.ไทยอีก 13 บริษัท ได้รับคัดเลือกให้เป็นองค์ประกอบใน DJSI

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นของบจ.ทั้ง 20 บริษัทที่เป็นองค์ประกอบใน DJSI ในปี 2562 จะพบว่าในระยะยาวการลงทุนในหุ้นที่มีความโดดเด่นในด้าน ESG ให้ผลตอบแทนสูงกว่า SET Index อย่างชัดเจน ทั้งนี้ในช่วงประมาณ 15 ปี จากสิ้นปี 2547 ถึงวันที่ 20 กันยายน 2562 ประกอบด้วย 20 หลักทรัพย์ดังกล่าว คำนวณถ่วงนํ้าหนักมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ให้ผลตอบแทน 370% หรือเฉลี่ย 24% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าดัชนีหุ้นไทยที่ให้ผลตอบแทน 274% หรือ 18% ต่อปี

สำหรับบจ.ไทยที่เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนใน 7 อุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นจาก 5 อุตสาหกรรมในปีก่อน โดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (บมจ.) (CPALL) และบมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เป็นบจ.ไทยที่ขึ้นเป็นผู้นำของกลุ่มเป็นปีแรก ขณะที่ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ขึ้นเป็นผู้นำของกลุ่มแทนบมจ. ปตท. ( PTT) และ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ขึ้นเป็นผู้นำของกลุ่มแทนบมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) ในปีก่อน ส่วน บมจ.บ้านปู (BANPU), บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และบมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ยังคงเป็นผู้นำกลุ่มตามเดิม

ขณะที่ บจ.ไทยอีก 13 บริษัทที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นองค์ประกอบใน DJSI ได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC), บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT), บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS), บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF), บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPN), บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO), บมจ. ไออาร์พีซี (IRPC), บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL), บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK), บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT), บมจ. ปตท. (PTT), บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC)

ทั้งนี้ การได้รับคัดเลือกให้เป็นองค์ประกอบใน DJSI แสดงให้เห็นว่าบริษัทดำเนินกิจการโดยให้ความสำคัญและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social, Governance: ESG) ซึ่งต้องบ่มเพาะในช่วงระยะเวลาหนึ่งจึงจะเห็นผลดีโดยตรงต่อผลประกอบการ

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,510 วันที่ 3-5 ตุลาคม 2562