เล่ห์กลพิลึก! U drink I drive ไกล่เกลี่ยแย่งชิง? บนซากปรักหักพัง

16 ต.ค. 2562 | 12:00 น.

          มหากาพย์ U drink I drive คงอีกยาว...เพื่อนรักเพื่อนแค้นหักเหลี่ยมโหดคงยากที่สมานแผลรอยร้าวมิตรภาพความเป็นเพื่อนให้แนบสนิทเฉกเช่นดังเดิมได้ ใครจะไปคิดว่า....ก่อนการไกล่เกลี่ยซึ่งหลายคนที่ติดตามมหากาพย์เรื่องนี้ก็คงต่างคิดว่าอาจจะมีบทสรุปหรือข้อตกลงอะไรบ้างเกิดขึ้นเพื่อ ยุติปมขึ้นแย้งเรื่องราวดร่าม่าที่เลยเถิดไปกันใหญ่ลงได้ สุดท้ายหวนกลับตาลปัตร 

          ก่อนถึงวันนัดไกล่เกลี่ย กลับกลายเป็นการเปิดศึกอีกรอบจากฟากฝั่งของ จิรายุ พิริยะเมธา และทีมผู้บริหารของ U drink I drive ด้วยการฟ้องกลับ สิรโสมย์ บริสุทธิ์สุวรรณ์ ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เมื่อวันที่ 18 ก.ย.62 ในข้อหา “เบิกความเท็จต่อศาล” ในการไต่สวนขอความคุ้มครองชั่วคราว โดยให้เหตุผลที่ว่า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.62 ไม่ได้มีการประชุมผู้ถือหุ้น” ถึงกับต้องอุทานว่า “อะไรกันเนี่ย? ”

          เมื่อเรื่องราวก่อนวันไกล่เกลี่ยเป็นเช่นนี้ คงคิดว่าคนนอกคงไม่มีวันได้รับรู้ได้เห็นเรื่องราวที่แท้จริง คงต้องบอกตรง ๆ ว่า พอดีวันนั้นจิ้งจกตัวใหญ่เกาะเพดานอยู่แถวนั้นจึงได้รู้เรื่องราวที่แท้จริงที่ว่า

          การที่ทีมผู้บริหาร U drink I drive อ้างเหตุการณ์วันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา กรณีที่ สิริโสมย์ ไปขอคุ้มครองฉุกเฉินจากมติที่ประชุมวันนั้น ว่าไม่มีมติใดๆ แต่ความจริงอยู่ที่ว่า สิริโสมย์ไม่ได้เข้าที่ประชุม เพราะจมเชิญประชุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย คือส่งมาน้อยกว่า 7 วัน ก่อนวันประชุม อีกอย่างที่ผ่านมา ทางสิริโสมย์เอง ก็ไม่เคยได้รับเอกสารรายงานการประชุมใดๆทั้งสิ้น รวมถึงการประชุมก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน ที่มีการโหวตเรื่องการจะขายสินทรัพย์ 7 พ.ค.ที่ผ่านมาด้วย นอกจากนี้ยังรวมถึง การอัพเดทถึงสถานะการขาย วันเซ็นสัญญาต่างๆ แม้กระทั่งผู้ซื้อ สิริโสมย์ก็ไม่เคยได้เจอหน้า หรือมีโอกาสได้เจรจากับผู้ซื้อเลย แม้แต่การร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกเอกสารก็ไม่เคยได้รับ นั่นหมายความว่า สิริโสมย์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้ง แต่ทีมผู้บริหารชุดนี้กลับเอาไปยื่นที่ศาลหลังที่ สิริโสมย์ได้รับคุ้มครองแล้ว เพื่อขอเพิกถอน โดยพลิกเรื่องเป็นว่า "วันนั้นไม่มีมติใดๆ ทั้งๆที่หนังสือเชิญประชุมมีวาระนั้นๆปรากฎอยู่”

          เรื่องดราม่าใหญ่โตนี้...ยังไม่จบ การไกล่เกลี่ยเมื่อวันที่ 25 ก.ย.62 ที่ผ่านมา กลับเกิดเล่ห์กลพิลึกเกิดขึ้น จิ้งจกตัวใหญ่ดันโผล่และแอบได้ยินมาว่า “จิรายุและทนายยื่นข้อเสนอมาให้สิริโสมย์ โดยบอกว่าตอนนี้ได้ไปฟ้องอาญาแล้วฐานเบิกความเท็จ  จึงเสนอให้สิริโสมย์ถอนฟ้องแพ่งออกให้หมด เพื่อแลกกับการถอนอาญาสิริโสมย์” ขุ่นพระเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำอีกแน่นอน? 

          ส่วนการเจรจาที่นอกจากการเจรจาขอให้ยอมความกันแล้วยังมีอีกหนึ่งข้อเสนอที่มาจากทางฟากฝั่งสิริโสมย์ ก็คือ เสนอให้ซื้อทรัพย์สินทั้งหมดคืนในข้อเสนอเดียวกับที่ อภินรา/จิรายุ ขายไป นั้นก็คือทรัพย์สินทั้งบริษัทในราคา 3 ล้านบาท ซึ่งในวันนั้นมีเพียงแต่จิรายุที่มาเจรจา โดยบอกว่าขายไปหมดแล้ว ให้ไปถามผู้ซื้อเอง ซึ่งฝากข้อเสนอผ่านทนายผู้ซื้อไป

          เรื่องราวเช่นนี้ที่เกิดขึ้นคงต้องขอบอกว่า “พุดโธ่โอ้แม่เจ้า” มหากาพย์เลห์กลพิลึก! U drink I drive เช่นนี้มีกลิ่นตุ ๆ แน่นอน หากมองกันลึก ๆ แล้วเรื่องนี้น่าจะมีหนทางที่ยุติลงได้ แต่ดันหาทางลงกันไม่ได้ คำว่าเพื่อนอาจจะสิ้นสุดลงเส้นทางธุรกิจความขัดแย้ง แล้วอะไรคือเหตุผลที่แท้จริง ทำไมการไกล่เกลี่ยแย้งชิง? ถึงดุเดือดเช่นนี้ ทั้ง ๆ วันนี้ U drink I drive เป็นเพียงซากปรักหักพัง ที่เกิดขึ้นด้วยน้ำมือมิตรภาพของ 3 เพื่อนรัก ที่พวกเขาเท่านั้นที่จะรู้คำตอบที่แท้จริง?

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

'U drink I drive' แตกคอ! บทสรุปความหายนะ Startup ไทย

'U drink I drive' เส้นทางธุรกิจเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

ผ่าอาณาจักร‘ศรีกาญจนา’ ทายาทชิงหุ้น‘U drink I drive’