‘ลุงตู่’สู้เทรดวอร์ ที่บ้านเกิด‘ทรัมป์’

02 ต.ค. 2562 | 04:00 น.

 

ระหว่างวันที่ 21 - 27 กันยายน ที่ผ่านมา พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำทีมใหญ่ เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 74 สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

1 สัปดาห์เต็ม นอกเหนือจากงานประชุมยูเอ็นแล้ว นายกฯของไทยในฐานะประธานอาเซียนในปี 2562 ก็มีโอกาสพบปะกับคณะและคนสำคัญหลายเวที ทั้งหารือกับ นาย Tijjani Muhammad-Bande ประธานสมัชชาสหประชาชาติ นายอันโตนิอู กุแตเรช เลขาธิการสหประชาชาติ นายมอริส กรีนเบอร์ก ประธานและประธานกรรมการบริหาร Starr Insurance Companies ชีค อาซีนา นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลียฯ

 

‘ลุงตู่’สู้เทรดวอร์  ที่บ้านเกิด‘ทรัมป์’

 

และหนึ่งในวงใหญ่ คือ ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารคํ่าที่สภาธุรกิจสหรัฐฯและอาเซียน (US-ASEAN Business Council : USABC) และ หอการค้าสหรัฐฯ (US Chamber of Commerce : USCC) จัดขึ้นและเชิญปาฐกถาในหัวข้อFostering Partnership for Common Prosperity”

และคนที่มานั่งฟังในงานมีทั้งหอการค้าสหรัฐอเมริกา ประธานสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน ปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ภาคเอกชนสหรัฐฯจาก 7 สาขา ได้แก่ สาขาพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน สาขาการผลิต สาขาการท่องเที่ยว สาขาอาหารและเกษตร สาขาบริการทางการเงิน สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสาขาสุขภาพและชีววิทยาศาสตร์

 

 

ไล่ดูชื่อบริษัท ก็ร้องอู้วหูว ระดับบิ๊กทั้งนั้น อย่างเช่น Chevron, Ford, Marriott International, Pepsi, AIG, Oracle และ Johnson & Johnson

แน่นอน บิ๊กตู่เจอแมตช์นี้ แต่ละข้อความที่เลือกมาสื่อสารต้องไตร่ตรองมาแล้ว ว่าจะบอกอะไรผ่านไปถึงโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

พล..ประยุทธ์ใช้เวลาขึ้นเวทีปาฐกถาเป็นภาษาไทย นานประมาณ 20 นาที ประโยคเปิดเวทีบอกว่ามีความสุขและตั้งใจรอวันเวลามาพบพวกท่านหลายวันแล้ว ขอบคุณที่ให้การต้อนรับอย่างดี มีคนถามว่าสเต็กวันนี้อร่อยเหมือนเดิมไหม ผมก็ตอบว่า สเต็กอร่อยกว่าครั้งที่แล้วเพราะด้วยบรรยากาศความคุ้นเคยทำให้ทุกอย่างรู้สึกดีขึ้น ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจความซื่อสัตย์ความจริงใจของพวกเราไม่ได้อยู่ที่การเสแสร้งไม่ได้อยู่ที่คำพูดหวานๆ มันอยู่ที่ความจริงใจระหว่างไทยและสหรัฐฯ เพราะเราเป็นมิตรภาพที่ยาวนาน

และบอกด้วยว่า คนที่แสดงความยินดีคนแรกที่ชนะการเลือกตั้งได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย คือ โดนัลด์ ทรัมป์ ทำหนังสือเซ็นลงนามส่งหนังสือมายินดีที่ พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง

จากนั้นก็เล่าถึงความสัมพันธ์ของไทยกับสหรัฐฯยาวนาน 186 ปี และออนเซลล์สารพัดนโยบายต่างๆ ของประเทศไทยในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมกับฉายภาพให้เห็นการค้าระหว่างไทยกับอเมริกาว่า ปีที่แล้วสหรัฐฯเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทย จึงฝากว่าปีนี้ฝากไว้ด้วยอันดับ 2 หรือจะอันดับ 1 เพราะเราไม่ทอดทิ้งกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะเกิดสงครามการค้า เราต้องไม่ทิ้งกัน เพราะเราเป็นเพื่อนเก่าแก่กัน


 

 

ไม่ต้องวอร์รีประเทศนู้นประเทศนี้ ไม่ต้องวอร์รี เพราะประเทศไทยรู้บทบาทว่าต้องปฏิบัติอย่างไรเข้าใจไหม มูลค่าการค้าของไทยกับสหรัฐฯ 43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เกินกว่าครึ่งหนึ่งของการส่งออกจากไทยไปสหรัฐฯ อันนี้ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเสียเปรียบดุลการค้ากับไทย มันจิ๊บๆ แค่นั้นเอง เข้าใจไหม เพราะท่านสามารถเพิ่มมูลค่าได้เยอะแยะกลับมาขายแพงกว่าเดิมอีก ท่านอย่าไปวอร์รีตรงนั้น ฝากบอกท่านทรัมป์ไปด้วยนะว่าอย่าไปวอร์รีเรื่องการขาดดุล การค้ากับไทย เพราะเหล่านี้คือผลการลงทุนโดยตรงระหว่างสหรัฐฯในไทย และไทยในสหรัฐฯทั้งสิ้น

จากนั้นนายกฯลุงตู่ เล่าถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจของไทยที่ผ่านมาโตในอัตรา 4.1% ปีนี้คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 2.7-3.2% แล้วถามว่าเพราะอะไร เพราะความตึงเครียดทางการค้า ไม่รู้ใครทำเหมือนกัน จะทำยังไงให้ประชาชนอยู่ได้ เพราะมันเกิดขึ้นกับประเทศเล็กๆ ประเทศใหญ่คงไม่มีปัญหาอะไรมากหรอก เพราะตลาดการค้า การลงทุนมีปัญหาหมด ผมก็ฝากเพื่อนๆในห้องนี้ด้วยแล้วกัน ทำยังไงให้โลกใบนี้มีความสุข เพราะทราบดีว่าจะมีการพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ก็หวังว่าผลมันจะออกมาในทางที่ดี ไม่งั้นประเทศเล็กประเทศน้อยก็เดือดร้อนไปหมด ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใครเลย

ทั้งหลายทั้งปวงที่เขียนมานี้ ผมต้องไปหานั่งฟังคลิปย้อนหลังจากเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล จึงน่าเสียดาย 1 สัปดาห์บนเวทีสำคัญ ถูกกระหนํ่าด้วยเวิร์ดดิ้งสั้นๆ ตัดเป็นคลิปๆ กับประโยคที่พูดถึงกูเกิล” 

 

คอลัมน์ อินไซด์สนามข่าว โดย จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,510 วันที่ 3-5 ตุลาคม 2562

‘ลุงตู่’สู้เทรดวอร์  ที่บ้านเกิด‘ทรัมป์’