เครือข่ายราชบุรีโมเดลผนึกรัฐชูต้นแบบเกษตร GAP ใช้เคมีไร้สารตกค้าง

29 ก.ย. 2562 | 05:42 น.

เครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง และกลุ่มเกษตรกรราชบุรีผนึกหน่วยงานรัฐ  แจงความคืบหน้าโครงการราชบุรีประชารัฐ ชูต้นแบบเกษตรกรรมคุณภาพมาตรฐาน GAP ใช้สารเคมีอย่างปลอดภัย ไร้ผลตกค้าง ปลอดภัยต่อเกษตรกรและผู้บริโภค

นางสาวอัญชุลี  ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง ผู้แทนเกษตรกรในโครงการฯ เผยว่า สืบเนื่องจากที่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายกฤษฎา บุญราช ได้ริเริ่ม “โครงการราชบุรีประชารัฐ พืชผักและผลไม้ปลอดภัย นำไทยสู่ครัวโลก”  เพื่อใช้เป็นพื้นที่ต้นแบบของการผลิตผักและผลไม้ด้วยการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัย รวมทั้งให้มีการศึกษาผลกระทบจากการปฏิบัติจริง ภายหลังจากเกษตรกรได้รับคำแนะนำให้ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามมาตรการจำกัดการใช้สารเคมี  โดยเปรียบเทียบและตรวจสอบผลอย่างต่อเนื่อง ก่อน ระหว่าง และหลังดำเนินโครงการ ทั้งในด้านสุขภาพเกษตรกรและการตกค้างในผลผลิตและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง 

เครือข่ายราชบุรีโมเดลผนึกรัฐชูต้นแบบเกษตร GAP ใช้เคมีไร้สารตกค้าง

โดยนำผลที่ได้มาวิเคราะห์และสรุปผล  พร้อมพิสูจน์ข้อเท็จจริง ยืนยันว่าสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ได้แก่ สารพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพรีฟอส ไม่ได้ส่งผลกระทบด้านลบดังที่เป็นข่าว เนื่องจากกระแสข่าวเรื่องสารพิษตกค้างในผักและผลไม้ ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซ้ำเติมเกษตรกรเพิ่มจากปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง แถมด้วยต้นทุนพุ่งจากการกักตุนสารเคมี ทำให้ราคาเพิ่มขึ้น 3 เท่า กระทบไกลถึงเศรษฐกิจ ภาพลักษณ์ประเทศ และการส่งออกสินค้าเกษตรกรรมในระยะยาว

ปัจจุบัน  โครงการราชบุรีประชารัฐ ได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมอยู่ภายใต้การทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาตั้งแต่ปี 2561 โดยมีเป้าหมายเกษตรกรของเครือข่ายผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP  ทำงานภายใต้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เกษตรกร และภาคเอกชน มุ่งเน้นการผลิตอาหารปลอดภัยไร้สารตกค้างแม้จะใช้สารเคมีซึ่งเป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกก็มีใช้กันในทุกประเทศ

เครือข่ายราชบุรีโมเดลผนึกรัฐชูต้นแบบเกษตร GAP ใช้เคมีไร้สารตกค้าง

"อยากจะเน้นย้ำว่าการพัฒนาภาคการเกษตรกรรม  ต้องยึดหลักผสมผสานอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดความสมดุลของระบบ สอดคล้องกับความเป็นจริง การผลิตอาหารปลอดภัยมี 2 ระบบ คือการเกษตรอินทรีย์ คือไม่ใช้สารเคมีเลย และการเกษตรมาตรฐาน GAP ใช้สารเคมีอย่างปลอดภัย ไร้ผลตกค้าง มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ เกษตรปลอดภัย   แต่ด้วยวิธีการที่ต่างกัน สำหรับโครงการราชบุรีประชารัฐฯ มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการรุ่นแรกทั้งสิ้น 50 รายจากผู้ปลูกพืช ผัก และผลไม้ ในพื้นที่อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ปัจจุบันเกษตรกรปฏิบัติตนตามมาตรฐาน GAP เพาะปลูกและใช้สารเคมีอย่างถูกต้องเหมาะสม  รู้จักป้องกันตนเอง และใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เป็นกิจนิสัย โดยจะเสร็จสิ้นโครงการในเดือนธันวาคมนี้”

อีกทั้งเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา เกษตรกรมาตรฐาน GAP รุ่นแรกได้เข้ารับการอบรมและสอบผ่านตามมาตรการจำกัดการใช้สารพาราควอต  ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส และยืนยันได้ว่า เกษตรกรยังจำเป็นต้องใช้สารกำจัดวัชพืช รวมทั้ง มีการตรวจสอบน้ำ ดิน ผักและผลไม้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 ตลอดระยะเวลา 2 ปี ก็ไม่พบการตกค้างของสารพาราควอต

เครือข่ายราชบุรีโมเดลผนึกรัฐชูต้นแบบเกษตร GAP ใช้เคมีไร้สารตกค้าง

“โครงการฯ จะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมวิชาการเกษตร ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเขต 5 ราชบุรี กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ที่เป็นหน่วยงานที่เกษตรกรสามารถพึ่งพาได้อย่างแท้จริง สำหรับแผนการดำเนินงานต่อไป เตรียมขยายผลไปสู่เกษตรกรในเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น พร้อมส่งผลผลิตสู่ตลาดโลกและส่งต่อผลิตผลคุณภาพไปยังกลุ่มโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ  ท้ายที่สุด เกษตรมาตรฐาน GAP นี้ จะเป็นเครื่องยืนยันผลผลิตการเกษตรถึงคุณภาพ ความปลอดภัย และเหมาะสมต่อการบริโภค ด้วยการใช้สารเคมีอย่างถูกต้องและเหมาะสม ดีกว่าการแบนหรือยกเลิกใช้สารเคมี และปราศจากทางออกที่ยั่งยืน

ท้ายที่สุด เกษตรกรจะไม่ยอมให้ผู้ที่ไม่รู้  ผู้ที่ให้ข่าวร้ายมาทำลายเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่เกษตรกร และขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่มีบัญชาเร่งด่วนมาที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย  มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักในการรวบรวมข้อมูลทั้ง 4 ฝ่ายคือ รัฐ ผู้ผลิต เกษตรกร ประชาชน และยังเน้นย้ำว่า เกษตรกรต้องไม่เดือดร้อนกับวิธีการแก้ปัญหา” ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง กล่าวสรุป

เครือข่ายราชบุรีโมเดลผนึกรัฐชูต้นแบบเกษตร GAP ใช้เคมีไร้สารตกค้าง