วันพักผ่อนแสนวิเศษ จะดีแค่ไหนหากคุณกำลังผ่อนคลายอยู่ภายในที่พักริมหาดระดับ 5 ดาว สไตล์โมเดิร์น จัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพเขียวขจีสุดสายตา สมกับคำว่ารีสอร์ตอย่างแท้จริง
สัมผัสกลิ่นอายทะเลอบอุ่น ปะทะสายลมพลิ้วไหวเย็นสบาย แนบชิดหาดทรายขาวทอดยาวกว่า 450 เมตร หลบเร้นวิถีชีวิตอันวุ่นวายของสังคมเมือง สู่ธรรมชาติอันสุขสงบ
ฟีลลิ่งดีๆแบบนี้สัมผัสได้เมื่อเช็กอิน “ระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา” ว้าวมากๆกับความกว้างใหญ่ของรีสอร์ต ซึ่งกินพื้นที่มากถึง 50 ไร่ เมื่อเทียบกับห้องพัก 205 ห้อง
ทำให้ส่วนใหญ่ไม่ว่าเราจะอยู่บริเวณไหน มองไปเบื้องหน้าก็จะพบความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียว สูดหายใจรับโอโซนได้เต็มปอด
รีสอร์ตแห่งนี้ไม่เพียงโดนใจคนโสด อยากพักผ่อนชิลๆเท่านั้น มองไปรอบๆหากมาเป็นครอบครัวก็ตอบโจทย์สุดๆ เพราะที่นี่จัดเต็มกิจกรรมอินดอร์และเอาต์ดอร์เพียบ แค่เห็นที่กว้างๆเจ้าตัวน้อยคงอดใจไม่ไหวที่อยากจะวิ่งเล่น เตะฟุตบอล ตีกอล์ฟเล่นๆ นั่งแกว่งชิงช้า ทั้งยังสนุกสนานกับการป้อนอาหารกระต่ายน้อย หรือจะหลบร้อนไปเล่นต่อกันที่ “คิดส์คลับ” ซึ่งกินพื้นที่ถึง 2 ชั้น บอกเลยเป็นแรงดึงดูดให้เด็กน้อยแทบจะขลุกตัวอยู่ที่นี่
พ่อแม่นอนใจได้เลย เพราะเจ้าหน้าที่คิดส์คลับไม่เพียงคอยดูแล แต่ยังมีแอกติวิตีให้เด็กได้ร่วมกิจกรรมแทบทั้งวัน ส่วนผู้ใหญ่อย่างเราๆเลยได้โอกาสแวบไป “ฟิตเนส” ออกกำลังกาย-เซานา และทำทรีตเมนต์ภายในสปากันเพลินไปเลย
อีกไฮไลต์ของที่นี่ คือ ความกว้างใหญ่ของสระว่ายน้ำ ที่มีมากถึง 3 สระริมทะเล ให้ความรู้สึกแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น “Raindance Kids Pool” สระว่ายน้ำสำหรับเด็กน้อย “Island View Pool” สระว่ายน้ำริมชายหาดส่วนตัว และ “Lagoon Pool” สระว่ายน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโรงแรม มีสไลเดอร์ ให้ลื่นไถลอย่างเพลิดเพลิน และเด็ดสุดพลาดไม่ได้ กับการดำน้ำว่ายชมปลาฉลามตัวน้อย ซึ่งอยู่ภายใน “The Shark Tank” รู้สึกได้เลยว่าเรากำลังแหวกว่ายไปพร้อมกับฝูงปลาน้อย
ทั้งด้วยบรรยากาศของชายหาดที่ยาวถึง 450 เมตร ก็สร้างสีสันให้กับการผ่อนคลายที่แตกต่างกัน ใครชอบมุมถ่ายรูปทะเลเก๋ๆริมโขดหิน ต้องเลือกโซน “Rocky Beach” แต่ถ้าชอบหาดทรายขาว นอนเล่นริมหาด ไปพร้อมๆกับการเล่นน้ำทะเล แวะไปได้ที่โซน “Sandy Beach” เรียกได้ว่าหาดเดียวกันแต่ได้ 2 บรรยากาศกันเลยทีเดียว
รีสอร์ตแม้จะอยู่ต่างจังหวัด แต่ประสบการณ์ไดนิ่งก็ชั้นเลิศไม่ต่างจากโรงแรมหรูในกรุงเทพฯ การรันตีได้จากรางวัลเชฟกระทะเหล็ก ซึ่งล่าสุด “เชฟโซราฟ ซาเดว่า” หรือ “เชฟโซโร” เจ้าแห่งอาหารอินเดียร่วมสมัย ณ “ห้องอาหาร c salt” ซึ่งเป็นห้องอาหารแบบออลเดย์ไดนิ่งของโรงแรม ที่คึกคักตลอดทั้งวัน คว้ารางวัลนี้ไปครอง
ใครที่เคยทานอาหารอินเดียแล้วไม่ชอบ แนะนำให้มาชิมฝีมือ เชฟโซโร แล้วจะเปลี่ยนความคิดไปเลย เพราะการรังสรรค์เมนูอาหารของเชฟไม่เพียงหน้าตาดี ดูร่วมสมัย แต่ยังได้รสสัมผัสที่กลมกล่อม ไม่ฉุนเครื่องเทศเลย
ซิกเนเจอร์เมนู นี่เลย “Coconut Prawn Curry” แกงกะทิกุ้ง กุ้งตัวโตๆนำมาเคี่ยวกับเครื่องแกงอินเดียจนซึมเข้าเนื้อ รับประทานคู่กับแป้งนานชีสกระเทียมที่อบในโอ่งตามแบบวิถีดั้งเดิมของชาวอินเดีย ใครชอบทานไก่ต้องเป็นเมนู “Chicken Malai Tikka” หรือไก่ย่างหมักโยเกิร์ต มาเลยจ๊ะเนื้อไก่แน่นๆหมักกับโยเกิร์ตและคลุกเคล้าเครื่องเทศหอมอ่อนๆ ย่างมาแบบสุกกำลังดีรับประทานพร้อมกับแป้งนานกระเทียม ซึ่งพับหลายๆชั้นหอมกลิ่นกระเทียม กัดแล้วชุ่มฉ่ำเต็มคำ
หรือจะเป็น “The Champion Tacos” ไก่ผัดกับซอสสูตรลับเฉพาะตามแบบฉบับแชมเปี้ยนอาหารอินเดียร่วมสมัย ห่อด้วยทาโก้ถั่วเลนทิลพอดีคำ และอีกหลายเมนูที่คุณชอบทานอะไรบอกเชฟให้รังสรรค์เมนูให้ได้ บอกเลยว่าแม้แต่คนที่ไม่เคยทานอาหารอินเดีย มาลองต้องติดใจ
ส่วนคออาหารบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำ ในทุกวันเสาร์ ห้องอาหาร c salt มีบริการอินเตอร์เนชั่นแนล แอนด์ ซีฟู้ด บาร์บีคิว จัดเต็มไลน์บุฟเฟ่ต์ พลาดไม่ได้กับพิซซ่าร้อนๆอบแบบสดใหม่ มาทะเลทั้งทีอยากนั่งทานซีฟู้ดริมหาด “ห้องอาหาร ฟิชบาร์” ก็มีดีกรีรางวัล “Thai SELECT” Thai Cuisine จากกระทรวงพาณิชย์ การันตีถึงความพิถีพิถันในศิลปะอาหารไทยต้นตำรับ ทั้งอร่อย ถูกสุขอนามัยและบรรยากาศที่ดีอีกต่างหาก
มาพักที่นี่ผ่อนคลายครบทุกสัมผัส แถมยังได้พลังบวกดีๆกลับไปสู้งานต่อในวันถัดไปอีกด้วย
ปักหมุดเช็คอิน : ธนวรรณ วินัยเสถียร
หน้า 24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,509 วันที่ 29 กันยายน - 2 ตุลาคม พ.ศ. 2562