"อนุทิน" ฟิวส์ขาดกลุ่มซีพียื้อไฮสปีด

25 ก.ย. 2562 | 14:22 น.

          นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง วงเงิน 2.2 แสนล้านบาทว่า การเจรจาสัญญาโครงการฯ ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร หรือกลุมซีพี มีประเด็นเรื่องการรื้อถอนเสาตอหม้อโฮปเวลล์เพื่อเปิดพื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งต้องหาผู้รับผิดชอบว่า ใครต้องเป็นผู้ทุบเสาโฮปเวลล์ระหว่างการรถไฟฯ หรือกลุ่มซีพี

          อย่างไรก็ตามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ได้ให้ความเห็นต่อประเด็นนี้ว่า ยินดีจะออกทุนส่วนตัวจำนวน 200 ล้านบาทเพื่อใช้ในการทุบเสาโฮปเวลล์และแก้ปัญหาดังกล่าว ถ้าหากจะส่งผลดีให้โครงการฯ เดินหน้าต่อไปได้

          “เรื่องเงิน 200  ล้านบาท ท่านรองนายกบอกว่า ยินดีใช้เงินส่วนตัวจ่ายให้ ถ้าเป็นประเด็นที่จะทำให้โครงการรถไฟความเร็วสูงเดินหน้าต่อไปได้ เพื่อประโยชน์ของประเทศไทยและพี่น้องประชาชน” นายศักดิ์สยามกล่าว

          ทั้งนี้นายอนุทินได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ว่ามีทรัพย์สินจำนวน 4,248.82 ล้านบาท

          สำหรับการลงนามในสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบินระหว่างรฟท. ยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(กพอ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุน และคณะรัฐมนตรีก็มีมติรับทราบพลการประชุมของกพอ.ไปตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2562 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถลงนามร่วมกันได้ เนื่องจากคณะทำงานและกลุ่มซีพีได้มีการเจรจาต่อรองในรายละเอียดเอกสารแนบท้ายสัญญาในหลายประเด็น 

          ล่าสุดเมื่อวันที่่ 19กันยายน 2562 กลุ่มซีพีได้ส่งหนังสือแสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดในรายละเอียดของเอกสารแนบท้ายสัญญา พร้อมขอประชุมร่วมกับคณะกรรมการคัดเลือกโครงการฯเพื่อแก้ไขเอกสารแนบท้ายสัญญาทีร่วมลงทุนที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้อีกครั้ง

          อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบของ “ฐานเศรษฐกิจ” พบว่าเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 กลุ่มซีพีและคณะกรรมการคัดเลือกฯได้ประชุมร่วมกัน และมีมติเห็นชอบให้มีการปรับแก้ร่างเอกสารแนบท้ายของร่างสัญญาร่วมลงทุนฯในหลายประเด็นหนึ่งในนั้นคือ กรณีคณะกรรมการคัดเลือกฯยังได้สอบถามกลุ่มซีพีถึงข้อเสนอของกลุ่มซีพีเกี่ยวกับงบประมาณจำนวน 2,500 ล้านบาทที่ระบุไว้ในข้อเสนอของกลุ่มซีพี ซึ่งกลุ่มซีพีชี้แจงว่าเป็นค่าใช้จ่ายประมาณการสำหรับการดำเนินโครงการในส่วนงานปรับปรุงพื้นที่โครงการทั่วไปก่อนที่จะดำเนินการก่อสร้างและพัฒนาโครงการ พร้อมระบุว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวไม่ใช่ค่าใช้จ่ายสําหรับการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรวมถึงตอม่อและเสาโฮปเวลล์ที่มีอยู่ในพื้นที่ของโครงการ เนื่องจากกลุ่มซีพีไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะสามารถประเมินและระบุค่าใช้จ่ายสําหรับ งานดังกล่าวในข้อเสนอที่ได้ยื่นต่อคณะกรรมการคัดเลือกฯในเวลานั้นได้

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ซีพี’ขี่แพะไล่รัฐบาล ‘สัญญารถไฟฟ้า’แสลงใจดำ