เคาะTSR 1.40บาท  ควบTMB-ธนชาต

26 ก.ย. 2562 | 07:00 น.

ทีเอ็มบีเคาะราคา TSR 1.40 บาทสำหรับผู้ถือหุ้นเดิม เดินหน้าแผนระดมทุน 1.3 แสนล้านบาทควบรวมทีเอ็มบี-ธนชาตคลังยันแบงก์ใหม่ บีไอเอสแกร่ง ลดต้นทุนหนุนธุรกิจครบสูตร คาดรายได้ดีขึ้นตามลำดับ

แผนควบรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบี (TMB) และธนาคาร ธนชาต(Merged Bank) ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 ไปแล้วเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา โดยกระบวนการรวมกิจการระหว่าง 2 ธนาคารจากนี้ไป ฝั่งธนชาต จะดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจจนแล้วเสร็จ จากนั้นทีเอ็มบี จะทำการเสนอซื้อหุ้นสามัญของธนาคารธนชาต จากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 2 รายคือ บมจ.ทุนธนชาต หรือ TCAP และโนวาสโกเทียร์หรือ BNS โดยผู้ถือหุ้นทั้ง 2 รายตกลงจะขายหุ้นที่ถืออยู่ในสัดส่วน 50.9% และ 49% ตามลำดับ      

ขณะเดียวกัน ทีเอ็มบี จะเสนอซื้อหุ้นสามัญของธนาคารธนชาตที่เหลือ ไม่เกิน 2.42 ล้านหุ้นคิดเป็นสัดส่วน 0.04% จากผู้ถือหุ้นรายย่อยและรายอื่นทุกรายด้วย จากนั้นทาง TCAP และ BNS จะนำเงินที่รับชำระจากทีเอ็มบีกลับเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนของทีเอ็มบี ที่ีจะออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคาร ธนชาต ทุกราย โดยกระบวนการดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ หลังจากได้รับการอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารกลางแคนาดา ธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์ และตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ซึ่งคาดว่า จะสามารถดำเนินการโอนและควบรวมกิจการแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2564

ทั้งนี้โครงสร้าง ผู้ถือหุ้นภายหลังการเข้าซื้อหุ้นสามัญของธนาคาร ธนชาต ประกอบด้วย ING 21.3% TCAP 20.1% MOF 18.4% BNS 5.6% และรายย่อย 0.03-0.04%

เคาะTSR 1.40บาท  ควบTMB-ธนชาต

ส่วนแผนจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับการเข้าทำธุรกรรมซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของธนาคารธนชาต แบ่งเป็น การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR) ตามสัดส่วนการถือหุ้น จำนวน 42,500 ล้านบาทไม่เกิน 31,481 ล้านหุ้น ราคาใช้สิทธิ 1.40 บาท โดย 1.444533 หุ้นสามัญเดิมเท่ากับ TSR 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน 1 หุ้น สำหรับผู้ถือหุ้นเดิม

ส่วนที่ 2 อีก 64,000 ล้านบาทเป็นการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนกับนักลงทุนรายใหม่ ซึ่งรวมถึง TCAP และ BNS โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2.1 บาท โดยแบ่งเป็นการเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคารธนชาต 57,635 ล้านบาท และเสนอขายให้กับบุคคลในวงจำกัด(PP) 6,400 ล้านบาท ไม่เกิน 3,067 ล้านหุ้นเสนอ ขายไม่ตํ่ากว่า 1.1 เท่าของมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นของธนาคารภายหลังจากการจัดสรรหาเงินรวม 106,535 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังจะมีการออกตราสารทางการเงินรวม 24,600-31,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตราสารทางการเงิน เพื่อนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 วงเงินราว 9,600-16,000 ล้านบาทและออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิ สำหรับนักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่อายุ 10 ปี วงเงิน 15,000 ล้านบาท  ซึ่งในจำนวนวงเงินที่จะออกตราสารรวมนั้น มีเงินสดส่วนเกินจากการปรับโครงสร้างของธนาคารธนชาต 20,000-30,000 ล้านบาทและการออกตราสารหนี้และสภาพคล่องภายในกิจการอีก 20,000 ล้านบาท ในกรณีที่การจัดหาเงินทุนจากแหล่งอื่นๆ ไม่เพียงพอต่อการทำธุรกรรม

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ทีเอ็มบีกล่าวว่า หลังการควบรวมกิจการแล้วเสร็จคาดว่า อัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(BIS Ratio)จะเพิ่มเป็นประมาณ 18% ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายสินเชื่อธุรกิจของธนาคาร ประหยัดต้นทุน และให้บริการที่ครบถ้วน ส่วนหุ้น TSR คาดว่า TSR จะใส่เงินเข้ามาประมาณเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนหลังกำหนดวันซื้อขาย TSR ในเดือนตุลาคมแล้ว

เคาะTSR 1.40บาท  ควบTMB-ธนชาต

   ประสงค์ พูนธเนศ

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีระบุว่า มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นของธนาคาร(Book Value) หลังการจัดสรรหาเงินทุนผ่าน TSR คาดว่า จะอยู่ที่ประมาณ 2 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะขึ้นกับว่า TSR จะใส่เงินเข้ามาเต็มจำนวนหรือในสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ ส่วนกรณีที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ใส่เงินเข้ามาซื้อเลย ทีเอ็มบี ยังมีเงินเพียงพอจากกระทรวงการคลังและธนชาต เพื่อให้ดีลนี้ไปต่อได้ นอกจากนี้ได้ศึกษาผลกระทบจากดีลนี้ต่อผู้ถือหุ้นในประเด็นต่างๆ ทั้งการลดสิทธิออกเสียง การลดลงของส่วนแบ่งกำไรสุทธิต่อหุ้น และการลดลงของราคาหุ้นสามัญของธนาคาร

เคาะTSR 1.40บาท  ควบTMB-ธนชาต

ส่วนราคาใช้สิทธิ TSR สำหรับผู้ถือเดิมที่ 1.40 บาท คณะกรรมการเห็นว่า เป็นราคาที่ให้ประโยชน์สูงสุดกับผู้ถือหุ้นเดิม เพราะเป็นราคาที่มีส่วนลดจากราคาตลาดและตํ่ากว่าราคาที่กลุ่มนักลงทุนรายใหม่จะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ประมาณ 2.1 บาท ซึ่งก็เป็นราคาที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนรายใหม่เช่นกัน ส่วนของวันซื้อขาย TSR คาดว่า จะอยู่ในเดือนตุลาคมและคาดว่า วันใช้สิทธิ TSR เพื่อซื้อหุ้นเพิ่มทุน จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน

ด้านนายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการTCAP กล่าวว่า อนาคตหลังควบรวมกิจการ 2 ธนาคารนั้น คณะกรรมการมีความตั้งใจและคาดว่า จะดำเนินธุรกิจให้มีผลประกอบการที่ดีและจ่ายเงินปันผลได้ในระดับที่พอใจ

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,508 วันที่ 26-28 กันยายน 2562

                          เคาะTSR 1.40บาท  ควบTMB-ธนชาต