โต้ข่าวมั่ว! ‘ข้าวเหนียวเวียดนาม’ ทะลักเข้าไทย

25 ก.ย. 2562 | 05:00 น.

งานเข้า “นายกโรงสี” สยบข่าวข้าวเหนียวเวียดนามทะลักค้างสต็อกในประเทศกว่า 4 พันตัน ไล่เช็คข่าวพัลวันผวาข่าวทุบราคาข้าวดิ่งหนัก ยันหลังจากส่งสัญญานให้ภาครัฐแล้ว ควบคู่มาตรการเข้มงวดมากตามชายแดนที่แจ้งเบาะแสตามด่านต่างๆ  ทำให้แก๊งลักลอบ ชะลอนำเข้าขาย ชี้คุณภาพยังด้อยกว่าไทยหลายขุม ไม่น่าจะนำเข้าในรูปของข้าวเปลือก

 

โต้ข่าวมั่ว! ‘ข้าวเหนียวเวียดนาม’ ทะลักเข้าไทย

นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เรื่องสถานการณ์ข้าวเหนียวช่วงนี้เป็นช่วงต่อข้าวฤดูการใหม่ที่กำลังออกมา โดยขณะนี้มีผลผลิตออกมาบ้างแล้วในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) แต่ก็ยังมีปริมาณไม่มากนัก ราคาซื้อขายข้าวเปลือกเหนียวเกี่ยวสด (ความชื้น 30 กว่า%) ราคาประมาณ 13,000-13,500 บาท/ตัน เมื่อเทียบเป็นข้าวเปลือกแห้งความชื้นไม่เกิน 15% ราคาประมาณ 16,500-17,000 บาท/ตัน  ซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง

โต้ข่าวมั่ว! ‘ข้าวเหนียวเวียดนาม’ ทะลักเข้าไทย

ส่วนราคาซื้อขายข้าวสารอยู่ที่ประมาณ 37,000-38,000 บาท/ตัน และมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง  เนื่องจากที่ผ่านมาราคาได้ขึ้นไปสูงมาก เหตุเกิดจากการขลาดแคลนสินค้า แต่ ณ ปัจจุบัน ทิศทางตลาดกลับเป็นทิศทางที่ปรับตัวลดลง แต่จะลดลงมากน้อยแค่ไหนก็ต้องรอดูช่วงกลางเดือนตุลาคมว่าจะมีผลผลผลิตออกมามากน้อยเพียงใด แต่ขณะนี้ก็มีผู้ประกอบ เริ่มขายสินค้าออกมาบ้างส่งมอบในเดือนตุลาคม ราคาประมาณตันละ 34,000-35,000 บาท หรือ กิโลละ 34-35 บาท ทำให้ราคาอยู่ใกล้กลับข้าวเหนียวธงฟ้าราคาประหยัด

โต้ข่าวมั่ว! ‘ข้าวเหนียวเวียดนาม’ ทะลักเข้าไทย

อีกทั้งพันธุ์ข้าวหลายพันธุ์ที่เป็นข้าวไวแสงคุณภาพดีปีหนึ่งมีเพียงครั้งเดียว (นาปี) เช่น กข.6 กข.4 เคี้ยวงู เป็นข้าวพันธุ์ไวแสง และพันธุ์ข้าวไม่ไวแสงที่ปลูกได้ทั้งนาปีและนาปรัง เช่นสันป่าตอง กข.10 กข.22 เป็นต้น ของฤดูก่อนหน้านี้ สต็อกของผู้ประกอบการก็ไม่มีเหลือแล้วหรือเหลือน้อยมากเช่นกัน ซึ่งตรงกับที่ผ่านมาได้มีการตรวจสต๊อกของกรมการค้าภายในว่ามีสต็อกทั้งหมดเพียง 50,000 ตันเท่านั้นจากโรงสีทั่วประเทศ  โดยตัวเลข 50,000 ตัน จากทั่วประเทศนี้ในทางการค้านี้ถือว่าเป็นข้าวก้นยุ้ง หรือเทียบเท่ากับสต็อกเป็นศูนย์จึงทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นที่จะต้องซื้อเก็บเข้าสต็อกไว้ส่วนหนึ่งสำหรับใช้จำหน่ายทั้งปี

โต้ข่าวมั่ว! ‘ข้าวเหนียวเวียดนาม’ ทะลักเข้าไทย

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ถึงแม้ว่าในช่วงฤดูนาปีจะมีข้าว กข.6 หรือเขี้ยวงู และกข.4ร่วมถึงข้าวนาปีอื่นๆที่มีคุณสมบัติดีกว่าข้าวพันธุ์ไม่ไวแสง ที่มีราคาดี แต่ทั้งนี้ก็ยังมีพันธุ์ข้าวไม่ไวแสง ปลูกได้ทั้งนาปีและนาปรัง เช่น สันป่าตอง กข.10 กข.22 เป็นต้นแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถในการเก็บสินค้าเข้าสต๊อก และปริมาณผลผลิตในช่วงนั้น ซึ่งผู้ประกอบโรงสีแต่ละรายเองเมื่อซื้อเข้ามาก็จะต้องทำการขายข้าวสารออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดซึ่งเป็นการทำการค้าปกติเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนและสอดคล้องไปตามกลไกของตลาด  แต่ก็จะมีบางรายที่เก็บสต๊อกส่วนหนึ่งให้มีใช้เพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้า เป็นการรักษาแบรนด์สินค้าของตัวเอง

โต้ข่าวมั่ว! ‘ข้าวเหนียวเวียดนาม’ ทะลักเข้าไทย

“ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าได้มีการนำเข้าข้าวเปลือกเหนียวจากประเทศเพื่อนบ้านมาสต็อกไว้นั้นจึงไม่น่าที่จะเป็นความจริง เพราะในวงการค้าทราบกันดีว่า ข้าวที่ลักลอบนำเข้ามาเป็นข้าวที่ผ่านขบวนการสีมาแล้วบรรจุถุง เพื่อสะดวกในการกระจายสินค้าไปตามแหล่งต่างๆได้สะดวกรวดเร็ว” 

โต้ข่าวมั่ว! ‘ข้าวเหนียวเวียดนาม’ ทะลักเข้าไทย

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า “ข้าวเหนียวจากประเทศเพื่อนบ้าน” ที่จะเข้ามาตามชายแดนจะเข้ามาในรูปของข้าวสารไม่ใช่ข้าวเปลือก  ซึ่งในประเทศเพื่อนบ้านในเขตที่ใกล้กับรอยต่อหรือด่านชายแดนที่ใกล้กับไทยนั้นก็จะมีโกดังใหญ่ๆ เพื่อเก็บข้าวสารที่สีแล้วเก็บไว้สำหรับส่งเข้ามาในไทยเตรียมไว้อยู่ 

โต้ข่าวมั่ว! ‘ข้าวเหนียวเวียดนาม’ ทะลักเข้าไทย

แต่ทั้งนี้เมื่อมีการตรวจสอบที่คุมเข้มมากขึ้น บวกกับราคาที่ชะลอตัวลดลงมาบ้างแล้วจึงทำให้การลักลอบนำเข้านั้นชะลอตัวลง ไม่สามารถนำข้าวสารลักลอบเข้ามากระจายขายได้อย่างสะดวกคล่องตัวเหมือนในช่วงที่ผ่านมา  แต่ก็รอดูทีท่าถ้าราคาข้าวเหนียวในประเทศสูงขึ้นเมื่อไหร่หรือมีความต่างของราคาที่มากพอ ก็อาจจะพร้อมที่จะลักลอบนำเข้ามาได้ตลอด  เมื่อโอกาสอำนวย ซึ่งในเรื่องของการลักลอบนำเข้านี้สมาคมโรงสีข้าวไทยก็เป็นห่วงมาโดยตลอด และได้คอยเตือนและส่งสัญญาณมาเป็นระยะว่าข้าวที่ลักลอบนำเข้ามานี้จะมีผลกดดันราคาข้าวเหนียวภายในประเทศ

โต้ข่าวมั่ว! ‘ข้าวเหนียวเวียดนาม’ ทะลักเข้าไทย

ดังนั้น ณ ขณะนี้จากสถานการณ์ราคาปรับลงที่เกิดจากการลักลอบนำเข้าข้าวสารเหนียวส่วนหนึ่งที่มีความต่างในด้านราคาอยู่มากแต่คุณด้อยกว่า ผู้ที่ได้รับซื้อไว้พยายามหาที่ขายเร่งระบายออกเพราะกลัวจะขาดทุนขายสินค้าไม่ออก และเกิดจากผลผลิตในประเทศที่จะออกมามากในเดือนตุลาคม และจิตวิทยาในด้านลบ

โต้ข่าวมั่ว! ‘ข้าวเหนียวเวียดนาม’ ทะลักเข้าไทย

ส่วนการจะตอบว่าราคาจะลงไปมากหรือน้อยเพียงใดนั้นก็เป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ลำบากเพราะขึ้นกับหลายปัจจัยที่กล่าวข้างต้น ทั้งปริมาณผลผลิต คุณภาพข้าวเปลือก แรงซื้อ ความต้องการใช้ในด้านการส่งออก สภาพคล่องของโรงสีในซื้อ เงินทุนหมุนเวียนที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการเก็บเพื่อใช้ขายตลอดทั้งปี ทุกปัจจัยต่างมีผลทั้งสิ้น จึงไม่สามารถคาดการณ์ได้แน่นอนว่าในที่สุดราคาจะไปในทิศทางใด