งานเข้า! สภามะกันเตรียมการถอดถอนทรัมป์

25 ก.ย. 2562 | 04:13 น.

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ประกาศเริ่มกระบวนการไต่สวนอย่างเป็นทางการ เพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ซึ่งจะเป็นคู่แข่งคนสำคัญของทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยหน้า (การเลือกตั้งจะมีขึ้นในปี 2563)  โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ

แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา

นางเพโลซีกล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ยอมรับว่า เขาได้โทรศัพท์ไปยังประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับนายไบเดน ซึ่งการกระทำดังกล่าวของนายทรัมป์แสดงให้เห็นว่า เขาไม่ซื่อสัตย์ต่อคำปฏิญาณตนที่ให้ไว้ในขณะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง และถือเป็นการทรยศต่อประเทศชาติ และทรยศต่อหลักคุณธรรมแห่งการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกา

 

สื่อต่างประเทศรายงานว่า ทรัมป์ได้พยายามขอให้ผู้นำยูเครนทำการสอบว่าอดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน คู่แข่งคนสำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2563 นั้นใช้อำนาจโดยมิชอบในระหว่างที่เขายังดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ ข่าวระบุว่า ทรัมป์ได้พยายามกดดันผู้นำยูเครนให้ทำการสอบสวนนายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของนายโจ ไบเดน ซึ่งทำธุรกิจติดต่อกับยูเครน และเขาต้องการทราบว่า พฤติกรรมของนายฮันเตอร์มีผลกระทบต่อความพยายามทางการทูตของอดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯหรือไม่ การต่อสายคุยระหว่างนายทรัมป์และผู้นำยูเครนครั้งนี้ เกิดขึ้นในระหว่างที่ทางการยูเครนกำลังรอคอยความช่วยเหลือทางการทหารจากสหรัฐฯ ทำให้มองได้ว่า ทรัมป์กำลังพยายามกดดันผู้นำยูเครนโดยใช้ความช่วยเหลือทางการทหารในฐานะผลประโยชน์ต่างตอบแทน


 

ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุ ยินดีเปิดเผยข้อมูลการสนทนาทางโทรศัพท์

ด้านนายเควิน แมคคาร์ธี ผู้นำพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯเปิดเผยว่า เขาไม่สนับสนุนการผลักดันของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯในการเปิดไต่สวนอย่างเป็นทางการว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ควรจะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งหรือไม่ "นางแนนซี เพโลซี เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แต่เธอก็ไม่ได้พูดแทนชาวสหรัฐฯในประเด็นนี้ เธอไม่สามารถตัดสินแต่เพียงฝ่ายเดียวว่า เราควรทำการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์"

 

การเมืองภายในของสหรัฐฯที่ส่อเค้าความปั่นป่วนทำให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 142.22 จุด หรือ 0.53% เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา  เนื่องจากความกังวลหลังจากประธานสภาผู้แทนราษฎรฯออกมาแถลงว่าจะเปิดฉากการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง (impeachment) ฐานติดต่อกับรัฐบาลต่างชาติให้เข้าแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าการเจรจาการค้าอาจสะดุดลง หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวโจมตีจีนบนเวทีสหประชาชาติ (UN)เมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) ว่า ว่า จีนมีการดำเนินการทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และเขาจะไม่ยอมรับข้อตกลงการค้าที่ทำให้ชาวอเมริกันเสียเปรียบ

 

โจ ไบเดน

นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต ได้ออกมาเรียกร้องให้สภาคองเกรสทำการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หากเขาไม่ปฏิบัติตามการสอบสวนกรณีการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ โดยนายไบเดนกล่าวที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์พยายามปกปิดข้อมูลที่เกี่ยวกับการคุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดียูเครน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทางสภาคองเกรสร้องขอ

 

ทั้งนี้ เขาเชื่อว่า ทรัมป์ได้พยายามพูดคุยกับประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนตัวเขาเองและบุตรชาย "การปฏิเสธการให้ข้อมูลกับสภาคองเกรส และขัดขวางความพยายามในการสอบสวน ไม่ใช่การกระทำของประธานาธิบดีอเมริกัน แต่เป็นการใช้อำนาจในทางที่ผิด" นายไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าว และว่า ทรัมป์ต้องออกจากสภาคองเกรส ในมุมมองของเขานั้น ไม่เห็นว่าจะมีทางเลือกอื่นใดนอกจากการเริ่มต้นกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดี

 

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่า  ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกมาแก้ลำในเรื่องนี้แล้ว โดยเปิดเผยว่าเขาได้สั่งการให้มีการเปิดเผยบทสนทนาฉบับเต็มระหว่างเขากับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนเมื่อวันที่ 25 ก.ค. แล้วในวันนี้ (25 ก.ย.) ซึ่งเขากล่าวด้วยความมั่นใจว่า  เนื้อหาเป็นการสนทนาทางโทรศัพท์ที่เป็นมิตรและเหมาะสม