It’s ‘Follower’ สิ่งที่ตามมาพร้อมกับยอดผู้ติดตาม
คอลัมน์ Thought Leadership โดย นะเพียร เพิ่มสมบัติ
ปัจจุบันโลก Digital และ Social Media เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรา และหนึ่งสิ่งที่จะวัดความสำเร็จในโลกนี้ได้คงหนีไม่พ้นจำนวนยอดผู้ติดตาม ไม่ว่าจะเป็นยอด Follower ใน Instagram, Facebook หรือยอด Subscribe ใน YouTube หลังจากการสอบถามผู้ที่มียอดผู้ติดตามเยอะๆ แล้ว ทำให้เราทราบว่า จำนวน Follower หรือ Subscribe นั้นมีประโยชน์อย่างมากจนคุณอาจจะคาดไม่ถึง
แลกเงินได้! ไม่ต้องตกใจไปครับ หนึ่งในอาชีพที่มาแรงตอนนี้คือ Influencer , Youtuber และ Blogger ซึ่งเจ้ายอดผู้ติดตามนี้แหละที่เป็นหนึ่งในเกณฑ์วัดเลยว่า แบรนด์สินค้าอยากเลือกใครมาทำงานด้วย ยิ่งใครมียอดผู้ติดตามมากก็มีอำนาจในการต่อรองที่มากขึ้นตามไปด้วย
แลกของได้! ไม่ใช่แค่รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาเท่านั้น หลากหลายแบรนด์ก็เลือกที่จะให้ผลิตภัณฑ์ของตัวเองแก่ผู้ที่มียอดติดตามสูงๆ เพื่อแลกกับการให้ Influencer ทั้งหลายได้ทดลองใช้และรีวิวสินค้า นี่เป็นอีกหนึ่งวิธีในการสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์ผ่านตัวบุคคลนั่นเอง นอกจากนี้ยังแลกสิทธิพิเศษในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ด้วย เนื่องจากยอดผู้ติดตามที่สูงมากๆ ทำให้คนเหล่านี้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นกระบอกเสียง ไม่ว่าจะกิจกรรมหรืออีเวนต์ใดที่จัดขึ้น เราก็อยากให้คนกลุ่มนี้เข้าร่วม และหวังให้พวกเขาสร้างคอนเทนต์ เพื่อนำไปโพสต์ต่อใน Social Media ซึ่งจะทำให้กิจกรรมนั้นเป็นที่พูดถึงต่อไป
จากเทรนด์การตลาดช่วง 3 ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าแบรนด์ต่างๆเริ่มใช้เงินกับการตลาดผ่านตัวบุคคลที่มีผู้ติดตามสูงๆ มากขึ้นทุกปี และในทรรศนะของผมก็ยังเห็นว่า เทรนด์การตลาดแบบนี้จะยังอยู่ไปได้เรื่อยๆ เหตุผลสำคัญเพราะตัวบุคคลที่มาพูดนั้นมีความน่าเชื่อถือมากกว่าให้แบรนด์เป็นผู้พูดเอง ผมจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ เช่น ถ้าผมบอกคุณผู้อ่านว่า ผมช่างเป็นนักเขียนที่เก่งเสียนี่กระไร ลองเอางานเขียนผมไปอ่านดูไหม คุณผู้อ่านจะรู้สึกยังไงครับ? แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นเพื่อนสนิทหรือเจ้านาย คุณผู้อ่านบอกว่างานเขียนนี้ดีนะ มีประโยชน์กับคนที่ทำธุรกิจมาก คุณลองเอาไปอ่านสิ คุณว่าแบบไหนจะทำให้คุณอยากอ่านมากกว่ากัน? นี่แหละครับเหตุผลที่แบรนด์อยากให้คนอื่นเป็นผู้พูดแทน ยิ่งถ้าคนพูดนั้นมีผู้ติดตามมากๆ หรือเป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้วก็ยิ่งสร้างโอกาสให้แบรนด์ได้มากครับ
เราพูดถึงประโยชน์ของการมียอดผู้ติดตามคร่าวๆ แล้ว คราวนี้เรามาดูกันบ้างดีกว่าว่าเจ้าสิ่งนี้จะทำให้เราเสียอะไรไปบ้าง
ความสัมพันธ์ที่จริงใจ ที่ผมพูดไม่ได้หมายความว่ายอดผู้ติดตามที่เพิ่มขึ้นจะแปรผันตรงกับความสัมพันธ์นะครับ อย่าเข้าใจผิด ผมแค่จะบอกว่าจำนวนผู้ติดตามมากๆ ที่หลายคนมองเป็นประโยชน์ก็ดึงดูดโทษเข้าหาตัวเราได้เช่นกัน ยิ่งคุณรู้ว่ามันมีประโยชน์ยังไง คนที่เข้าหาคุณเพื่อหวังผลประโยชน์ก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ไม่แปลกที่สมัยนี้ ใครๆ ก็อยากมีเพื่อนที่มี Follower เยอะๆ บางคนเลือกคบเพื่อนโดยดูจากยอดผู้ติดตามเลยก็มีนะครับ อีกสิ่งหนึ่งผมคิดว่า ยอดผู้ติดตามไม่สามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการวัดความมั่นคงในระยะยาวได้ เนื่องจากปัจจุบัน ใครๆ ก็สามารถเข้าถึง Internet ได้ง่าย ทำให้ Influencer หน้าใหม่ เกิดขึ้นทุกวัน ด้วยเหตุนี้การแข่งขันในตลาดนี้จึงสูงมาก รวมถึงระบบ Social Media ที่ทำให้โอกาสการเห็นโพสต์ของคนจำพวกนี้น้อยลง Influencer หน้าใหม่ที่ผลิต Content ถูกจริตกระแสสังคมก็จะเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันคน ที่มี Content เดิมๆ ก็จะถูกคลื่นลูกใหม่ซัดหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทำให้อาชีพดังกล่าว มีอายุการทำงานที่ค่อนข้างสั้น
เห็นไหมครับว่าเจ้ายอดผู้ติดตามนี้ก็นำมาซึ่งประโยชน์และโทษ อยู่ที่ว่าเราจะให้ความสำคัญกับเจ้าตัวเลขที่ว่านี้ขนาดไหน ผมว่าทางที่ดีที่สุดคือ เราไม่ควรยึดติดกับตัวเลขบน Social Media จนลืมโลกความจริงที่เราใช้ชีวิตอยู่ เพราะท้ายที่สุดแล้วเราอยู่ในยุคที่ถูกบังคับให้สร้างโลก 2 ใบ คือ โลกแห่งความเป็นจริง และโลก Social Media ซึ่งเราควรใช้ชีวิตอยู่ในโลกทั้ง 2 ใบในแบบที่เราชอบที่สุด โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น
หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3508 ระหว่างวันที่ 26 - 28 กันยายน 2562