หลังตกเป็นข่าวช็อกโลก จากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ของเจ้าสัวคิงเพาเวอร์ ตกและเสียชีวิต ใกล้กับ คิงเพาเวอร์ส สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2561 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 5 คนหนึ่งในนั้นมี “จุ๋ม” หรือ ซาร่า- นุสรา สุขหน้าไม้ อดีตรองนางงามมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส และนักแสดง รวมอยู่ด้วย
เงียบหายไปพักใหญ่ล่าสุดกลับมากลายตกเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง เมื่อ (23 ก.ย.62 ) นายวิโรจน์ และ นางสำเริง สุขหน้าไม้ บิดา-มารดาของอดีตนางงาม ได้ยื่นฟ้องแพ่ง ต่อผู้จัดการมรดกของเจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา และบริษัทคิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ในฐานะเจ้าของสิทธิเครื่องบิน เป็นจำเลยที่1-2 ในความผิดเรื่องละเมิดจากการไม่ได้รับความช่วยเหลือเยียวยาตามกฏหมาย
ศาลนัดคู่กรณี 25 ก.ย.นี้
การฟ้องร้องครั้งนี้มีการเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 300 ล้านบาท เป็นค่าขาดไร้อุปการะของบิดามารดา ค่าความเสียหายด้านจิตใจและอนามัย พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ พ.5169/2562 และนัดให้คู่กรณีมาฟังคำสั่งในวันที่ 25 กันยายน 2562 เวลา 13 .00 น.
โดยครอบครัว “สุขหน้าไม้” อ้างว่าตั้งแต่อดีตนางงามเสียชีวิต ทางบริษัทได้ช่วยเหลือครอบครัว เพียงแค่ค่าใช้จ่ายในงานจัดงานศพ วันละ 15,000 บาท รวม 5 วัน 75,000 บาทและใส่ซองถวายพระ 5 คืนโดยไม่ทราบจำนวน ไม่มีการเยียวยาด้านอื่นแม้ได้มีการยื่นข้อเสนอมาตลอดแต่ทางบริษัทกลับเงียบเฉยและไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการทำประกันภัย เฮลิคอปเตอร์แบบส่วนตัว
ทั้งนี้นายพินิจ ลักษณวิศิษฏ์ ทนายความ ระบุว่า ค่าเสียหาย 300 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าปลงศพ ค่าอุปการะและค่าเสียหายต่อจิตใจ ของครอบครัว เนื่องจากบิดามารดา ผู้เสียชีวิต มีความเป็นอยู่ยากลำบากต้องเช่าที่นาใน จ.ปทุมธานี เพื่อหาเลี้ยงชีพ ที่ผ่านมาผู้ตายเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เมื่อเสียชีวิตทำให้ขาดเงินในส่วนนี้ไป
ทนายความยังระบุอีกว่า ก่อนหน้านั้นทางครอบครัวได้ยื่นขอรับเงินเยียวยาไปยังบริษัท แต่ก็ไม่มีความคืบหน้ามีเพียงการส่งจดหมายฉบับภาษาอังกฤษซึ่งมีใจความระบุให้รับเงินเยียวยาจากบริษัทเฮลิคอปเตอร์จำนวน 25,000 เหรียญ (750,000 บาท) และ อีกฉบับที่เสนอเงินเยียวยา 50,000 เหรียญ (1,500,000 บาท) พร้อมขอให้สละสิทธิการเรียกร้องขอชดใช้เงินเยียวยาอื่นๆ และให้ครอบครัวติดต่อกับผู้รับผิดชอบที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ จึงมองว่าไม่เป็นธรรมกับครอบครัว
รวมถึงเหตุผลที่อ้างว่าในวันเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตไปเที่ยวไม่ได้ไปทำงาน ก็เห็นว่าไม่เป็นความจริงเพราะผู้เสียชีวิตไปกับนายวิชัย ในฐานะเลขาส่วนตัว และเฮลิคอปเตอร์ที่โดยสารก็ติดสัญลักษณ์บริษัททำให้เข้าใจว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ของบริษัท ประกอบกับเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งกำลังจะหมดอายุความใน 1 ปี จึงตัดสินใจมาร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลแพ่งดังกล่าว ทนายความของครอบครัวอดีตนางงามให้ความเห็น
“คิงเพาเวอร์” โต้ ครอบครัว “สุขหน้าไม้”
พลันที่ตกข่าว วันนี้ (24 ก.ย.) บริษัท คิงเพาเวอร์ ได้ออกมาแถลงการณ์โต้ทันที โดยระบุว่า ได้จ่ายเงินช่วยเหลือตามที่กฎหมายกำหนด และเสนอให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย ที่จำเป็นแก่ครอบครัวของอดีตนางงามไปแล้ว รวมถึงความช่วยเหลือในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน จากบริษัทประกันภัย ซึ่งครอบครัวสุขหน้าไม้ได้ยอมรับเงินสวัสดิการ และเงินช่วยเหลือ ตามกฎหมายเท่านั้น
โดยปฏิเสธที่จะรับความช่วยเหลือทางกฎหมายอื่นที่บริษัทได้เสนอไป และในเดือนธันวาคมปี 2561 ทาง คิง เพาเวอร์ ยังได้เสนอความช่วยเหลือทางการเงิน แก่ครอบครัวอดีตนางงาม แต่ได้ปฏิเสธ รวมถึงยังปฏิเสธข้อเสนอของ บริษัทประกันภัย สำหรับการจ่ายเงินจ่ายล่วงหน้าค่าสินไหมทดแทน จำนวน 25,000 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 700,000 บาท) และยังไม่สามารถตกลงเรื่องค่าสินไหมทดแทนกับบริษัทประกันภัยได้ในระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมา
สำหรับประวัติ“จุ๋ม -นุสรา สุขหน้าไม้” อดีตนางงามมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ปี 2548 และเป็นนักแสดงจากช่อง 7 ซึ่งในช่วงเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตก มีการระบุว่าผู้ตายหนึ่งในสต๊าฟของทีมเลสเตอร์ซิตี้ โดยนุสราเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2528
แจ้งเกิดในวงการบันเทิง จากการเข้าร่วมประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2548 ได้รับตำแหน่งรองมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส และขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน จบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ เอกสาขาประชาสัมพันธ์ และปริญญาโท สาขาการโรงแรม มหาวิทยาลัยกรุงเทพเคยแสดงละครทางช่อง 7 หลายเรื่องอาทิ ละครเรื่อง ปิ่นมุก รับบทเป็น บุษบา เรื่อง ชุมแพ รับบทเป็น ดวงพร เรื่อง ทอง 9 รับบทเป็น มายด์ ละครเรื่อง เมียหลวง รับบทเป็น นงคราญ (รับเชิญ) เป็นต้น