แม้ว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนจะทำให้เกิดกระแสต่อต้านสินค้าอเมริกันในประเทศจีน รวมทั้งกระแสชาตินิยมที่ทำให้โทรศัพท์มือถือหัวเว่ย มีแต้มต่อเหนือโทรศัพท์ไอโฟนของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์. อยู่หลายขุม (หัวเว่ยและไอโฟนครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในจีน 37% และ 6.7% ตามลำดับ) แต่การวางจำหน่าย ‘ไอโฟน11’ เป็นวันแรกในหลายประเทศทั่วโลกเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ก็ไม่ได้สร้างความผิดหวังให้กับแอปเปิ้ลแต่อย่างใด
สื่อต่างประเทศรายงานว่า แม้การต่อแถวเข้าคิวรอซื้อไอโฟน11 ในจีนจะไม่ได้ดูคึกคักหรือชุลมุนวุ่นวายเหมือนในหลายประเทศ แต่นั่นก็เป็นเพราะการสั่งซื้อพรีออร์เดอร์ทางออนไลน์เป็นช่องทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากกว่า และยอดพรีออร์เดอร์โทรศัพท์ไอโฟน11 ในจีนก็ถือว่ากระฉูดจนอาจจะทำให้ลูกค้าต้องรอส่งมอบถึง 3 สัปดาห์
เจดีดอตคอม-ทีมอลล์ ยันยอดขายพุ่งแรงจริง
แหล่งข่าววงในเครือข่ายซัพพลายเชนของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์. เปิดเผยผ่านเอกสารเวียนถึงลูกค้าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ยอดสั่งซื้อรอการส่งมอบ (พรีออร์เดอร์) ของโทรศัพท์ไอโฟน11 ซึ่งเพิ่งวางจำหน่ายทั่วโลกวันแรกเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมานั้น มีเข้ามามากดังคาด ส่วนการวางจำหน่ายหน้าร้านวันแรกพบว่า ไอโฟน 11 โปร เป็นรุ่นที่วางจำหน่ายปุ๊บก็ขายออกหมดเกลี้ยงแล้ว ขณะที่ไอโฟน11 บางสีก็จำหน่ายหมดอย่างรวดเร็วหลังวางขายไม่ถึง 3 วัน ทำให้เชื่อว่า ลูกค้าบางคนที่สั่งจองไว้อาจจะต้องใช้เวลารอคอยสินค้าส่งมอบถึงมือเป็นเวลาถึง 3 สัปดาห์
เว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของจีน JD.com เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (21 ก.ย.) ยอดสั่งซื้อผ่านเว็บ JD.com เฉพาะวันแรกที่วางจำหน่าย (20 ก.ย.) พุ่งทะยานถึง 480% เมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยไอโฟน11 รุ่นที่ทำยอดสั่งซื้อมากที่สุด 3 รุ่นแรก คือ ไอโฟน11 โปร สีเขียวเข้ม (Midnight Green) ไอโฟน11 สีดำ และไอโฟน11 สีม่วง
ขณะที่เว็บไซต์ทีมอลล์ของอาลีบาบา เปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายไอโฟน 11 ในวันแรกที่เปิดขาย พุ่งสูงกว่ายอดจำหน่ายไอโฟนเอ็กซ์อาร์ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ถึง 335%
นักวิเคราะห์จากบริษัทอินสติเน็ทในเครือธนาคารโนมูระ ให้ความเห็นว่า การคาดการณ์ยอดจำหน่ายจากข้อมูลในช่วงสัปดาห์แรกนั้นเป็นไปด้วยความระมัดระวัง แต่ก็เห็นได้ชัดว่ายอดจำหน่ายหลังการเปิดตัวไอโฟน11 นั้นพุ่งแรงกว่ายอดเมื่อครั้งเปิดตัวไอโฟนรุ่นของปีที่แล้ว “ถ้ายอดสั่งซื้อที่มีเข้ามาแปลงเป็นยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นจริง ก็เชื่อว่าแอปเปิ้ลจะสามารถทำรายได้ชดเชยส่วนที่ต้องเสียไปจากการปรับลดราคาจำหน่ายไอโฟนรุ่นใหม่นี้ลงมา”
คาดคว้ายอดขายปีนี้กว่า 70 ล้านเครื่อง
การเปิดรับพรีออร์เดอร์ไอโฟน11 นั้นมีระยะเวลาเพียงไม่กี่วันก่อนวันจำหน่ายจริง (เริ่มรับพรีออร์เดอร์วันที่ 13 ก.ย.) ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 699 ดอลลาร์สำหรับไอโฟน 11 ส่วนไอโฟน11 โปร และไอโฟน 11 โปร แม็กซ์ ราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์และ 1,099 ดอลลาร์ตามลำดับ การส่งมอบสินค้าเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนเป็นต้นมา ทำให้ลูกค้าบางคนไม่จำเป็นต้องไปเข้าคิวรอคอยหน้าร้านข้ามวันข้ามคืนในวันแรกอีกต่อไป เพราะสามารถแสดงหลักฐานการสั่งซื้อแล้วก็รับสินค้าได้ทันที
นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดหมายยอดจำหน่ายไอโฟน11 จะอยู่ระหว่าง 70-75 ล้านเครื่องในปีนี้ (2562) เป็นการปรับยอดประมาณการณ์เพิ่มจากเดิมที่เคยคิดว่ายอดจำหน่ายไอโฟนรุ่นใหม่นี้น่าจะอยู่ที่ 65-70 ล้านเครื่องเท่านั้น สอดคล้องกับความคิดเห็นของนักวิเคราะห์หลายรายที่ตอบคำถามการสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ยอดจำหน่ายไอโฟน11 ในช่วงเปิดตัวนั้นดีกว่าไอโฟนหลายรุ่นที่เคยเปิดตัวมาก่อนหน้านี้ ขณะที่ตัวเลขคาดการณ์ของวาณิชธนกิจ เจพี มอร์แกน สะท้อนความเชื่อมั่นมากกว่านั้น โดยคาดว่า ไอโฟน 11 จะเป็นสินค้าดาวเด่นที่ช่วยขับเคลื่อนยอดขายโดยรวมของโทรศัพท์ไอโฟนในปีนี้สู่ระดับ 184 ล้านเครื่อง และปีหน้า (2563) 195 ล้านเครื่อง
สำหรับจุดเด่นของไอโฟน 11 คือ ราคาที่ย่อมเยากว่าหลายรุ่นที่เปิดตัวไปในปีก่อนๆ ขณะที่สมรรถนะดีขึ้นในหลายๆด้าน เช่นกล้องถ่ายภาพ อายุการใช้งานแบตเตอรี่นานขึ้น หน้าจอมีความทนทานมากขึ้น และโปรเซสเซอร์เร็วขึ้น