อารามโคฯยัน ฟื้นกำลังผลิตน้ำมันได้ทั้งหมดภายในสิ้นเดือนนี้

22 ก.ย. 2562 | 06:03 น.

นายเอมิน นาสเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย ที่แหล่งผลิต 2 แห่งของบริษัทถูกโดรนโจมตีทางอากาศเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้บริษัทได้ฟื้นตัวจากการโจมตีดังกล่าวแล้ว และมีความแข็งแกร่งมากกว่าที่เคยเป็น บริษัทจะสามารถกลับมาผลิตน้ำมันอย่างเต็มที่อีกครั้งภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้
เอมิน นาสเซอร์
ทั้งนี้ การโจมตีโรงงานผลิตน้ำมันของอารามโคฯ ในเขตอับกาอิกและคูราอิสเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้การผลิตน้ำมันดิบของบริษัท ซาอุดี อารามโค ลดลง 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย

เจ้าหน้าที่ของอารามโคฯ เปิดเผยว่า พนักงานและผู้รับเหมาหลายพันคนได้ถูกดึงตัวจากโครงการอื่นๆ เพื่อทำงานกันตลอดทั้งวันในการฟื้นฟูการผลิตที่โรงงานที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตี โดยบริษัทอารามโคฯได้สั่งอุปกรณ์จากสหรัฐอเมริกาและยุโรป เพื่อมาซ่อมแซมโรงงานด้วย

อารามโคฯยัน ฟื้นกำลังผลิตน้ำมันได้ทั้งหมดภายในสิ้นเดือนนี้

ซีอีโอของอารามโคฯกล่าวว่า บริษัทฟื้นฟูการผลิตบางส่วนที่สูญหายไปกลับมาได้แล้ว และการผลิตจะกลับสู่ระดับก่อนการโจมตีได้ภายในสิ้นเดือนเดือนก.ย.  นอกจากนี้ บริษัทจะยังคงเดินหน้าแผนการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของซาอุดี อารามโค โดยบริษัทจะมีความพร้อมในช่วง 12 เดือนข้างหน้า  ขั้นแรกบริษัทจะนำหุ้น 1% เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในประเทศก่อนสิ้นปีนี้ และอีก 1% ในปีหน้า จากนั้นจะนำหุ้น 5% ของบริษัทออกเสนอขาย โดยคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้มากถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการทำ IPO ครั้งใหญ่ที่สุดของโลก


 

ด้านเจ้าชายอับดูลาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยในทิศทางเดียวกันก่อนหน้านี้ว่า การผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียจะฟื้นตัวโดยสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนกันยายน
“ขณะนี้อารามโคฯสามารถฟื้นการผลิตน้ำมันราว 50% จากที่ขาดหายไปหลังการโจมตี คาดว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตจะแตะระดับ 10 ล้านบาร์เรล/วันภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ และแตะ 12 ล้านบาร์เรล/วันภายในสิ้นเดือนพ.ย.” รัฐมนตรีพลังงานของซาอุฯกล่าว

แหล่งผลิตน้ำมันของอารามโคฯในวันที่ถูกโจมตี  

ในส่วนของการเก็บข้อมูลเพื้อหาหลักฐานเกี่ยวกับการใช้โดรนโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันใหญ่ของซาอุฯในครั้งนี้ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า UN ได้ส่งทีมค้นหาข้อเท็จจริงไปยังซาอุดิอาระเบียเพื่อหาสาเหตุการโจมตีแหล่งผลิตน้ำมัน 2 แห่งของบริษัท ซาอุดี อารามโค แล้ว

ทีมดังกล่าวถูกส่งภายใต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ซึ่งอนุมัติข้อตกลงปี 2558 เพื่อควบคุมการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่านเพื่อแลกกับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นต่อข้อกล่าวหาที่อิหร่านอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุดีอาระเบียนั้น นายกูเตอร์เรส ระบุว่า นี่คือช่วงเวลาที่จะคลายความตึงเครียดและไม่มีที่ใดสำคัญไปกว่าในอ่าวเปอร์เซีย

 

ทั้งนี้ สหรัฐฯและซาอุดิอาระเบียระบุว่า อิหร่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีโรงงานน้ำมัน 2 แห่ง ขณะที่อิหร่านยืนกรานปฎิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว