เงาดำเหนือธุรกิจครอบครัว

22 ก.ย. 2562 | 05:38 น.

คอลัมน์ Business Backstage โดย ผศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล 

หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3507 ระหว่างวันที่ 22 - 25  กันยายน 2562

 

การถ่ายโอนธุรกิจครอบครัวเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนยาวนานและเกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งเรามักจะเห็นเพียงส่วนยอดของภูเขานํ้าแข็งเท่านั้น ขณะที่ความจริงมีปัญหาซ่อนอยู่มากมายทั้งในส่วนของผู้โอนกิจการที่มีปัญหาในการดำเนินการเชิงรุกและเลื่อนกำหนดเวลาออกไปให้นานที่สุด ส่วนคนรุ่นต่อไปที่สืบทอดภาระรับผิดชอบอย่างหนักและต้องทำให้มั่นใจในอนาคตของบริษัทในการเลือกระหว่างประเพณีดั้งเดิมและความทันสมัย และบริษัทที่รับช่วงต่อมาซึ่งส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยประสิทธิภาพทางการเงินและอาจประเมินปัจจัยด้านบุคคลตํ่าเกินไป

หนึ่งในข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นกับเจ้าของหรือผู้ก่อตั้ง คือเมื่อใกล้ถึงกำหนดเวลาเกษียณอาจเกิดความรู้สึกผสมปนกันระหว่างความตั้งใจและการปฏิเสธ โดยมีความตั้งใจที่จะส่งมอบกิจการ ก่อนเกษียณและปฏิเสธที่จะละทิ้งชีวิตการทำงานที่ทำมายาวนาน ความกำกวมนี้เกิดขึ้นจากความคิดเรื่องการสูญเสียสถานะในฐานะผู้นำ ซึ่งไม่เพียงแต่บริษัทเท่านั้นที่จะถูกถ่ายโอนไป แต่ยังรวมถึงตำแหน่งและอำนาจที่จะต้องส่งต่อไปยังคนรุ่นต่อไปด้วย ความท้าทายสำหรับเจ้าของคือการเริ่มต้นเดินในทิศทางใหม่ของตนเองให้ได้ ซึ่งหากลูกของเจ้าของพร้อมที่จะอดทนกับความสัมพันธ์ที่ขัดแย้ง กับพ่อแม่นั่นก็อาจเป็นเพราะความรัก

อย่างไรก็ตามในบางกรณีลูกต้องพยายามหาหนทางและเข้ามาแทนที่พ่อแม่ พวกเขามักจะทำด้วยความกลัวแต่ก็ตัดสินใจที่จะมุ่งสู่ความสำเร็จ แม้อาจไม่ดีเท่าพ่อแม่ อาจล้มเหลวหรือแย่จนถึงขั้นเป็นสาเหตุของการล้มละลายของครอบครัวก็ตาม และด้วยเพราะความภักดีของพวกเขาจึงอาจไม่จำเป็นต้องถามถึงความต้องการที่แท้จริงว่าจะยอมรับช่วงกิจการต่อหรือไม่ พวกเขาทุ่มเทให้กับความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า เช่น การเข้ามารับตำแหน่งผู้นำ สร้างความมั่นใจให้กับพนักงาน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและพัฒนาความสามารถเชิงกลยุทธ์และการบริหารจัดการที่แข็งแกร่งเพื่อนำพาบริษัทต่อไป

เงาดำเหนือธุรกิจครอบครัว

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าความยุ่งยากของการสืบทอดกิจการส่วนใหญ่เกิดจากการหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างการรักษาสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่และการบูรณาการสิ่งใหม่ๆ ระหว่างสิ่งที่จำเป็นต้องเก็บไว้และสิ่งที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ผู้นำคนใหม่อาจต้องเผชิญกับพนักงานที่คุ้นเคยกับสไตล์การทำงานของผู้นำคนก่อน และการที่พนักงานรู้สึกไม่มั่นคง ถูกเพิกเฉยหรือถูกดูหมิ่นระหว่างการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารอาจส่งผลกระทบต่อการสืบทอดกิจการได้ ซึ่งการต่อต้านอาจแสดงให้เห็นได้จากการสูญเสียคนเก่งซึ่งเป็นทรัพย์สินของบริษัทและธุรกิจหลักของบริษัท หรือที่แย่กว่านั้นคือคนที่เคยไว้ใจได้กลับหันมาต่อต้านการเปลี่ยนแปลงใดๆ

 

ดังนั้นการเปลี่ยนผู้นำจึงไม่ใช่เหตุการณ์ที่ง่ายดายนักและอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดเมื่อผู้มาใหม่มาจากสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้กระบวนการสืบทอดกิจการมีความเกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึกอย่างมากโดยอาจนำไปสู่การใช้อารมณ์ที่รุนแรงไม่มากก็น้อย ดังนั้นจึงควรมีการกำกับดูแลเพื่อหลีกเลี่ยงการขัดขวางกระบวนการสืบทอด และการถ่ายโอนธุรกิจครอบครัวเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องการคำแนะนำเชิงกลยุทธ์และโค้ชส่วนตัวในด้านกฎหมาย ภาษี การเงินและด้านอารมณ์ ซึ่งอย่างหลังสุดนี้จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพจากท่าทีเป็นกลางและห่วงใยโดยมีวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวคือช่วยผู้โอนกิจการให้ไตร่ตรองและนำวิธีแก้ปัญหาของตนเองไปใช้ในสถานการณ์ที่ต้องเจอ

อย่างไรก็ตามการวางแผนและการใช้โค้ชส่วนตัวให้กับผู้โอนกิจการและผู้สืบทอดรวมถึงทีมงานและครอบครัวอาจทำให้เกิดปัญหาด้านความสัมพันธ์ขึ้นได้ ซึ่งหากไม่ระมัดระวังหรือจัดการปัญหาให้ดีอาจเป็นอันตรายต่ออนาคตของบริษัทได้เช่นกัน 

 

ที่มา : Chatti, Celine. 2018. The Emotional Factor in a Family Business Succession. Available: https://www.etapetransition.ch/2018/03/23/the-emotional-factor-in-a-family-business-succession/