ส่องสถิติ Facebook Watch (Infographic)

เผยสถิติรับชมวิดีโอผ่าน Facebook Watch  ผู้คน 720 ล้านคน ดูวิดีโออย่างน้อย 1 นาทีต่อเดือน  เพจที่ใช้การคั่นด้วยโฆษณาประจำเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม   เพจที่ได้รับรายได้มากกว่า 1,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน เพิ่มขึ้น 8 เท่า เพจที่ได้รับรายได้มากกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐฯต่อเดือน มีจำเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า

นายพาเรช ราชวัต ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์วิดีโอ  เฟชบุ๊ก เปิดเผยว่าสถิติสำคัญเกี่ยวกับ Facebook Watch นั้นขณะนี้มีผู้คนจำนวนมากกว่า 720 ล้านคนทั่วโลก ใช้เวลาในการรับชมวิดีโอผ่าน Watch อย่างน้อย 1 นาที ในแต่ละเดือน    โดยเฉลี่ยแล้วผู้คนจำนวนกว่า 140 ล้านคน ใช้เวลารับชมวิดีโอผ่าน Watch มากกว่า 26 นาทีในแต่ละวัน  และผู้คนมีแนวโน้มที่จะแสดงความคิดเห็นผ่านคอมเม้นท์บนวิดีโอที่รับชมร่วมกับผู้อื่นในปาร์ตี้รับชม (Watch Party) มากกว่าการรับชมวิดีโอเพียงลำพังถึง 8 เท่า

แมทธิว เฮนนิก หัวหน้าฝ่ายการวางแผนกลยุทธ์ด้านคอนเทนต์ เฟชบุ๊ก กล่าวว่าฟีเจอร์ Facebook Watch ที่ให้บริการในประเทศไทยในปัจจุบัน ประกอบด้วย  พรีเมียร์ (Premiere) การแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้ใช้ รับชมวิดีโอและเพื่อสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับเนื้อหาวิดีโอ เครื่องมือนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถโพสต์วิดีโอในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟได้ ด้วยการกำหนดเวลาฉายวิดีโอ คล้ายกับการฉายภาพยนตร์

การเผยแพร่สด (LIVE): การเผยแพร่สด ซึ่งรวมถึงความสามารถในการเผยแพร่รอบซ้อม การตัดเนื้อหา การขยายช่วงเวลาที่เพิ่มขึ้น การแสดงรายการพร้อมกันผ่าน Live API ซึ่งมีให้บริการใน Facebook Lite ด้วย

ปาร์ตี้รับชม (Watch Party): ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อเพื่อนๆ และชุมชนเพื่อรับชมวิดีโอร่วมกันตามเวลาจริงภายในกลุ่มที่พวกเขาเข้าร่วม รวมถึงการเผยแพร่สด (โดยผู้สร้างสามารถแชร์ความคิดเห็นตามเวลาจริงได้) หรือวิดีโอที่ถูกบันทึกและแชร์จากเพจอื่นๆ ระหว่างการเผยแพร่ปาร์ตี้รับชม ผู้ใช้สามารถสร้างบทสนทนาผ่านคอมเม้นท์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน รวมถึงกำหนดเวลาและเล่นซ้ำได้ นอกจากนี้ ปาร์ตี้รับชมยังมีการอัพเดทเมตริกใหม่ (เช่น จำนวนนาทีที่รับชม และจำนวนผู้ชม 60 วินาทีโดยไม่นับซ้ำ) และการตั้งค่าปาร์ตี้รับชมให้เป็นเนื้อหาที่มีแบรนด์

โพลล์ (Poll): กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้โหวตเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งในเนื้อหาวิดีโอ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและสร้างการมีส่วนร่วมที่สนุกสนานแก่ผู้ติดตาม

สตูดิโอครีเอเตอร์ (Creator Studio): ผู้เผยแพร่ใช้เครื่องมือนี้เพื่อโพสต์ จัดการ สร้างรายได้ และวัดผลเนื้อหาของพวกเขา ทั้งบน Facebook และ Instagram โดยมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้แก่ ตารางผู้ชมที่กลับมาชมซ้ำ (Return Viewer Table) การตั้งคำบรรยายแบบอัตโนมัติ (Auto-captioning) และสถานะการเผยแพร่ (Distribution Status)

นอกจากนี้ผู้สร้างเนื้อหา ยังสามารถสร้างรายได้จากการคั่นด้วยโฆษณา (Ad break) ซึ่งโฆษณาแบบสั้นที่สามารถรวมไว้ในวิดีโอที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อสร้างรายได้   และยังสามารถจัดวางตำแหน่งการจัดวางวิดีโอการจัดวางโฆษณาให้อยู่ก่อน ระหว่าง และหลังเนื้อหาวิดีโอแบบในสตรีม (In-stream video placements)  นอกจากนี้ยังสามารถรับข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปดำเนินการต่อได้ เพื่อประเมินศักยภาพการทำงานในฐานะผู้สร้างเนื้อหา  และสามารถควบคุม  เลือกนักโฆษณาหรือประเภทของนักโฆษณาที่ต้องการ หรือไม่ต้องการ

ส่วนการสร้างรายได้ (Monetization) จากการคั่นด้วยโฆษณา  ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีให้บริการอยู่ใน 40 ประเทศทั่วโลกในปัจจุบัน     เพจที่ใช้การคั่นด้วยโฆษณาเป็นประจำมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม   โดยเพจที่ได้รับรายได้มากกว่า 1,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 8 เท่า และเพจที่ได้รับรายได้มากกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า