ตลาดอาหารทะเลโต 'NSC' ย้ายสนง.จากสิงค์โปร์สู่ไทย

18 ก.ย. 2562 | 12:22 น.

สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) สบโอกาสตลาดอาหารทะเลในประเทศไทยและอาเซียนโตเร็ว  ล่าสุดย้ายสำนักงานจากประเทศสิงคโปร์สู่ไทย

 

นายอัสบีเยิร์น วาร์วิค เรอร์ทเว็ท ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) เปิดเผยว่า ปัจจุบันนอร์เวย์ส่งออกอาหารทะเลคุณภาพสู่ตลาดโลก และประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่สูงในอนาคต เนื่องจากประเทศไทยนำเข้าอาหารทะเลสดจากนอร์เวย์จำนวนมาก โดยเฉพาะปลาแซลมอน ที่มีส่วนแบ่งการส่งออกอาหารทะเลในตลาดไทยมากถึง 98 % โดยมีมูลค่าการนำเข้าอาหารทะเลมากถึง 1 หมื่นตัน

 

ทั้งนี้จากแนวโน้มการเติบโตของปัจจัยข้างต้น NSC จึงได้นอร์เวย์ ได้ย้ายสำนักงานระดับภูมิภาคจากสิงคโปร์มายังกรุงเทพมหานคร เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยยอดการส่งออก 29,000 ตัน หรือมูลค่าประมาณ 4.5 พันล้านบาท

ตลาดอาหารทะเลโต 'NSC' ย้ายสนง.จากสิงค์โปร์สู่ไทย

สำหรับในช่วงไตรมาส 3 ประเทศนอร์เวย์ได้ส่งออกปลาฟยอร์ดเทราต์และปลาแซลมอนมายังประเทศไทยกว่า 1.1 หมื่นตัน โดยต่อจากนี้สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์มีความมุ่งมั่นที่จะบุกตลาดไทยทั้งในตลาดแบบ business-to-business (B2B) และแบบ business-to-customer (B2C) โดยในด้านตลาด B2B นั้น ทางสภาอุตสาหกรรมได้จับมือกับร้านอาหารชั้นนำในประเทศมากมาย เช่น Sushi Den, Zen, S&P และธรรมชาติซีฟู้ด Salmon Academy เป็นอีกหนึ่งกิจกรรม ที่เราได้จัดการอบรมให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับปลาแซลมอนนอร์เวย์ และปลาฟยอร์ดเทราต์

 

ขณะที่ตลาด B2C สภาอุตสาหกรรมนอร์เวย์มุ่งมั่นที่จะสร้างเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของปลาแซลมอนนอร์เวย์และปลาฟยอร์ดเทราต์ และแสดงจุดเด่นว่าเป็นปลาที่เหมาะสมสำหรับการบริโภคแบบดิบ โดยความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องนี้ถือเป็นภารกิจหลักของสภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์

 

“ประเทศไทย มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นเป็นอย่างมากในด้านอุตสากรรมอาหารทะเลจากนอร์เวย์ ดังนั้น สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์มุ่งมั่นตั้งใจที่จะส่งออกอาหารทะเลสดใหม่ คุณภาพสูงระดับโลกจากประเทศต้นกำเนิดอย่างนอร์เวย์สู่ประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”