“ไพบูลย์”เตือนฝ่ายค้าน ซักฟอกปมถวายสัตย์ฯ เข้าข่ายผิดอาญา

18 ก.ย. 2562 | 07:08 น.

 “ส.ส.พปชร.” แย้งญัตติฝ่ายค้านไม่มีอำนาจตรวจสอบเขตพระราชอำนาจ ปรามให้หยุด ก่อนถูกยื่นสอบ  เข้าข่ายผิดอาญา ม. 157    ด้าน “ชวน” แจงส.ส.อภิปรายได้  ในญัตติที่เสนอ ย้ำต้องยึดข้อบังคับเคร่งครัด

“ไพบูลย์”เตือนฝ่ายค้าน ซักฟอกปมถวายสัตย์ฯ เข้าข่ายผิดอาญา


วันที่ 18 กันยายน 2562  นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายโต้แย้งถึงญัตติของส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ว่า ขอให้ตระหนักต่อความเห็นตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระมหากษัตริย์ ที่ระบุว่าเป็นการกระทำทางการเมืองระหว่างรัฐบาลฐานะฝ่ายบริหารกับพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเรื่องเขตพระราชอำนาจ และไม่มีฝ่ายใดก้าวล่วงได้ การถวายสัตย์ปฏิญาณ เป็นการแสดงความจงรักภักดี และกระทำต่อหน้าพระมหากษัตริย์คือเขตพระราชอำนาจอย่างชัดเจน ดังนั้นเมื่อถวายสัตย์ปฏิญาณไปแล้วไม่มีใครตรวจสอบได้  ทั้งนี้ตนยืนยันว่าพล.อ.ประยุทธ์มีความจงรักภักดีอย่างไม่มีใครเทียบได้

 

“ดังนั้นทุกฝ่ายต้องหยุด ไม่ก้าวล่วงเขตพระราชอำนาจ หรือพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งสภาผู้แทนราษฎร ไม่มีอำนาจที่จะตรวจสอบเรื่องนี้ตามกฎหมาย  ผมเป็นห่วงฝ่ายค้านที่จะถูกตรวจสอบ การกระทำที่ไม่มีอำนาจ เมื่อไม่มีอำนาจแต่ยังทำ อาจมีคนสงสัยยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งเข้าข่ายผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือมีกระบวนการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ คิดหรือว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยไปในทางอื่น เพราะท่านไม่รับคำร้อง ส่วนที่จะยื่นเรื่องผิดจริยธรรม ต่อศาลฏีกา ผมยิ่งเป็นห่วง” นายไพบูลย์ อภิปราย

ชวน หลีกภัย

ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร  ชี้แจงโดยย้ำกับที่ประชุมให้อภิปรายในประเด็นตามญัตติที่เสนอ คือ การซักถามข้อเท็จจริงและให้ข้อเสนอแนะ ซึ่งข้อบังคับการประชุมสภากำหนดรายละเอียดไว้ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าสภาฯ สามารถเดินหน้าพิจารณาญัตติดังกล่าว ตามมาตรา 152 ได้ เพราะคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญพร้อมคำอธิบายประกอบนั้นไม่มีผลผูกพันต่อองค์กรใดตามรัฐธรรมนูญ

 

 ส่วนกรณีที่ ส.ส. อภิปรายทำนองขับไล่ หรือ หรืออภิปรายเกินเลยขอให้ยึดตามประเด็นที่ญัตติเสนอตามมาตรา 152 และยึดตามข้อบังคับ รวมถึงไม่อภิปรายซ้ำประเด็นเพื่อประหยัดเวลา