Usti nad Labem : ความงดงามที่ซ่อนอยู่ของสาธารณรัฐเช็ก

18 ก.ย. 2562 | 07:03 น.

Usti nad Labem : ความงดงามที่ซ่อนอยู่ของสาธารณรัฐเช็ก

บทความ​พิเศษ​โดย : สถานเอกอัครราชทูต​ ณ กรุงปราก

     ภูมิภาค Usti nad Labem เป็น 1 ใน 14 ภูมิภาคของสาธารณรัฐเช็ก ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ประกอบด้วยเมืองต่าง ๆ จำนวน 7 เมือง ได้แก่ Decin, Litomerice, Louny, Most, Teplice, Chomutov และ Usti nad labem ซึ่งเป็นเมืองหลวงและมีชื่อเดียวกับภูมิภาคด้วย Usti nad Labem เป็นภูมิภาคขนาดกลาง มีพื้นที่ประมาณ 5,339 ตารางกิโลเมตร คิดเป็น 6.8% ของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศ โดยแบ่งเป็นพื้นที่การเกษตรประมาณ 52% พื้นที่ป่าไม้ 31% และแม่น้ำ 2% มีประชากรประมาณ 820,000 คน

มีชายแดนติดกับตอนใต้ของเยอรมนี มีแม่น้ำ Labe (ในภาษาเช็กเรียกว่า Labe ในภาษาเยอรมันเรียกว่า Elbe) เป็นแม่น้ำสายหลักที่เคยเป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำที่สำคัญไปสู่เยอรมนีและยังล้อมรอบด้วยเทือกเขา Krusne Hory (Ore Mountains) ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ทำเหมืองแร่เงิน ดีบุก ทองแดง ตะกั่ว เหล็กและยูเรเนียมที่สำคัญนับตั้งแต่ยุคออสเตรีย-ฮังการีจนถึงปัจจุบัน

Usti nad Labem : ความงดงามที่ซ่อนอยู่ของสาธารณรัฐเช็ก

     GDP ของภูมิภาค Usti nad Labem คิดเป็นสัดส่วน 5.7% ของ GDP ของทั้งประเทศ อุตสาหกรรมหลักของภูมิภาคคือ อุตสาหกรรมพลังงาน การทำเหมืองถ่านหิน อุตสาหกรรมเครื่องจักรกล อุตสาหกรรมเคมี และอุตสาหกรรมเครื่องแก้ว และได้ขยายไปสู่อุตสาหกรรมการผลิตของเล่น และโรงงานไฟฟ้า และอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วคือ อุตสาหกรรมการผลิตส่วนประกอบและอะไหล่รถยนต์และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทยางรถยนต์ Nexen ของเกาหลีใต้ซึ่งเป็นผู้ลงทุนต่างชาติรายใหญ่ของภูมิภาคได้เปิดโรงงานผลิตยางรถยนต์ในภูมิภาคนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Usti nad Labem : ความงดงามที่ซ่อนอยู่ของสาธารณรัฐเช็ก

พื้นที่ทำเหมืองแร่เงินในเทือกเขา Krusne Hory ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

     หากพูดถึงศักยภาพด้านอุตสาหกรรมการเกษตรภูมิภาค Usti nad Labem นับเป็นภูมิภาคแห่งการเกษตรที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปลูกฮ็อบส์ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมเบียร์และไวน์ของสาธารณรัฐเช็ก เขต Zatec ในเมือง Louny เป็นพื้นที่ปลูกฮ็อบส์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยภายในเขต Zatec มีศูนย์กลางการเรียนรู้และพิพิธภัณฑ์ประวัติความเป็นมาของการปลูกฮ็อบส์ซึ่งย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของการปลูกฮ็อบส์ในช่วงศตวรรษที่ 13 และปัจจุบัน  Zatec ได้กลายเป็นแหล่งผลิตฮ็อบส์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคยุโรป ในขณะเดียวกัน Usti nad Labem ยังเป็นแหล่งปลูกผลไม้ที่สำคัญตามลุ่มแม่น้ำ Labe และแม่น้ำ Ohre จนได้รับการขนานนามว่า Garden of Bohemia ซึ่งผลไม้หลักที่มีการเพาะปลูก ได้แก่ แอปเปิ้ล

ลูกแพร์ เชอรี่ทั้งแบบเปรี้ยว (สำหรับทำแยม) และแบบหวาน และลูกพรุน และนอกจากชื่อเสียงในด้านผลไม้สดแล้ว ผลไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์จากผลไม้ เช่น แอปเปิ้ลและแพร์ตากแห้ง น้ำเชื่อมจากผลไม้ น้ำผลไม้สกัดเย็น แยมส้มผสมช็อกโกแลต และน้ำผึ้งก็เป็นสินค้าขึ้นชื่อของภูมิภาค ในขณะที่การทำไร่องุ่นในเมือง Litomerice เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ก็สร้างชื่อเสียงให้กับภูมิภาค Usti nad labem ได้ไม่แพ้กัน 

Usti nad Labem : ความงดงามที่ซ่อนอยู่ของสาธารณรัฐเช็ก

ไร่องุ่นในเมือง Litomerice

     ศักยภาพที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ของภูมิภาคนี้ คือศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากมีชายแดนติดกับตอนใต้ของเยอรมนี และมีแม่น้ำ Labe ไหลผ่านอีกทั้งยังล้อมรอบด้วยเทือกเขา จึงมีภูมิประเทศที่สวยงามและมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมาก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้ง สถานที่สำคัญที่เป็นไฮไลท์ของนักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนภูมิภาคแถบนี้ คืออุทยานแห่งชาติ Bohemain Switzerland ซึ่งมี Pravcicka Gate (ซุ้มประตูหินโค้งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากหินทรายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป) เป็นเป้าหมายในการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ การเดินทางจากกรุงปรากไปยังอุทยานแห่งชาติ Bohemian Switzerland สามารถเดินทางได้ทั้งโดยรถยนต์ส่วนบุคคล รถไฟ และรถบัสที่ให้บริการะหว่างเมือง ซึ่งการเยี่ยมชม Pravcicka Gate สามารถทำได้โดยการเดินเท้าจากทางขึ้นที่เมือง Hrensko ซึ่งอยู่ห่างจากเมือง Usti nad Labem ประมาณ 45-50 นาที ไปยังจุดชุมวิวและการล่องเรือในแม่น้ำ Labe (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและปริมาณน้ำในแม่น้ำในแต่ละฤดูกาล)


  

   สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเมือง Teplice มีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปกลาง และล่าสุดเมื่อกลางปี ค.ศ. 2019 พื้นที่ทำเหมืองแร่เงินในเขต Krusne Hory (Ore Mountains) ซึ่งติดกับภูมิภาค Saxony ของเยอรมนีได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO โดยการขอขึ้นทะเบียนในครั้งนี้เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างภูมิภาค Usti nad Labem กับภูมิภาค Saxony ของเยอรมนีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 (โดยความสำคัญของพื้นที่ดังกล่าวคือ เป็นพื้นที่ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในพื้นที่และได้รับอิทธิพลจากการทำเหมืองแร่ย้อนกลับไปในยุคศตวรรษที่ 12 โดยพื้นที่ดังกล่าวแบ่งเป็นของเช็ก 5 เขต และของเยอรมนี 17 เขต (วิถีชีวิตของชาวเหมืองเยอรมนีนิยมอาศัยอยู่แบบแยกครัวเรือนกันเป็นกลุ่มย่อย ในขณะที่ชาวเหมืองเช็กนิยมอยู่ร่วมกันแบบหลายครัวเรือนในขนาดที่ใหญ่กว่า) สำหรับใครที่มองหาของฝากติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่เมืองไทย เมือง Dubi ก็ยังเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตเครื่องกระเบื้องเคลือบสีฟ้าขาวลายหัวหอม (blue onion design) ซึ่งเป็นลายเอกลักษณ์ของเช็ก และสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของที่ระลึกในเมือง

 

     ข้อได้เปรียบที่สำคัญอีกประการของภูมิภาค Usti nad Labem คือการตั้งอยู่ห่างจากกรุงปรากเพียงประมาณ 90 กิโลเมตรจึงใช้เวลาในการเดินทางจากกรุงปรากโดยรถยนต์ราว ๆ 1.20-1.30 ชั่วโมงและโดยรถไฟประมาณ 1.45 – 2 ชั่วโมง จึงทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่กรุงปรากสามารถเดินทางต่อไปยังภูมิภาค Usti nad Labem ได้โดยสะดวก

Usti nad Labem : ความงดงามที่ซ่อนอยู่ของสาธารณรัฐเช็ก

เครื่องกระเบื้องเคลือบสีฟ้าขาว เมือง Dubi

     ดังนั้น หากใครมีโอกาสแวะเวียนไปท่องเที่ยวในแถบยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก และพอมีเวลาเหลือจากการท่องเที่ยวตามเส้นทางหลักหรือกำลังมองหาทางเลือกในการท่องเที่ยวที่ไม่ซ้ำแบบใคร ภูมิภาค Usti Nad Labem ของสาธารณรัฐเช็กน่าจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์และเป็นอัญมณีเม็ดงามที่ยังคงรอให้นักท่องเที่ยวมาร่วมกันพิสูจน์ความงามของอัญมณีเม็ดนี้ด้วยกัน

Usti nad Labem : ความงดงามที่ซ่อนอยู่ของสาธารณรัฐเช็ก