เปิดแนวรบ “ตัน ภาสกรนที” Ep. 3 : ก้าวอย่างไร.. บนสมรภูมิแสนล้าน
เส้นทางธุรกิจของ “ตัน ภาสกรนที” หลังประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากการแจ้งเกิดตลาดชาเขียว “โออิชิ” และสร้างชื่อ “ตัน โออิชิ” ติดทำเนียบ CEO ระดับแนวหน้าของประเทศ และยังเป็นไอดอลให้กับนักธุรกิจหน้าใหม่ ด้วยวิธีคิดและการตลาดที่แปลกใหม่ กล้าได้ กล้าเสีย แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
จุดเปลี่ยนของ “ตัน โออิชิ” เกิดขึ้น เมื่อเขาตัดสินใจขายธุรกิจให้กับ “เจริญ สิริวัฒนภักดี” ผู้ที่ได้ชื่อว่า “ราชันย์น้ำเมา” ซึ่งในเวลานั้นต้องการขยายพอร์ตธุรกิจ ให้มีความหลากหลาย ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เท่านั้น โดยในช่วงแรก “ตัน” ยังนั่งเป็นหัวเรือใหญ่ บริหารต่อ ก่อนที่จะโบกมือลา
และเริ่มต้นนับ 1 ใหม่กับ “อิชิตัน” ตลอดระยะเวลา 8 ปีเศษ ตันยังคงเดินหน้าพัฒนาเครื่องดื่มใหม่ออกสู่ตลาด ด้วยเชื่อมั่นใน “แบรนด์” “นวัตกรรม” และ “การตลาด”
แต่เส้นทางธุรกิจของ “อิชิตัน” ก็ไม่ได้สดใส ซาบซ่าเท่าใดนัก ด้วยเพราะมีคู่แข่งทั้งทางตรงอย่าง “โอชิชิ” และทางอ้อมจากแบรนด์ต่างๆ ทำให้การขยับตัว การตอบรับอาจจะไม่โดดเด่นเหมือนในอดีต ทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาต้องเผชิญกับผลประกอบการที่ไม่ดีนัก พร้อมกับข่าวคราวที่เงียบหายไปของ “ตัน”
ล่าสุดการออกมาพบปะกับนักลงทุนในวัน Opp Day Q2/2019 ของบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI “ตัน” สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้ว่า เส้นทางต่อไปนับจากนี้ของ “อิชิตัน” จะแข็งแรง และแกร่งขึ้น
“ฐานเศรษฐกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ “ตัน” ซึ่งเขาบอกว่า อิชิตัน กรุ๊ป ไม่ได้มีแต่ธุรกิจเครื่องดื่ม แต่เส้นทางของบริษัท จะลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพและมีอนาคตทางการเติบโต และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ๆได้ทำงานนำเสนอมุมมองใหม่ๆ เพื่อพิชิตเป้าหมาย “รายได้ 1 หมื่นล้านบาท”
การยกเลิก ไบเล่ , T247 และไซซ์ที่ไม่จำเป็นออก ก็เพื่อบาลานซ์พอร์ต โดยคงเหลือไว้เพียงแบรนด์อิชิตัน,เย็น เย็น และชิซึโอกะ
จากเดิมที่เคยทุ่มเงินเป็นร้อยล้านเพื่อแจกรถ แจกทอง แจก... สารพัดแจก นับจากนี้จะหั่นงบลงเหลือเพียง 10-20 ล้านบาท แต่จะเน้นทำแคมเปญที่เข้าถึงเฉพาะกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม อย่างแท้จริง
ความถี่ในการแตกไลน์เครื่องดื่มใหม่ ไซส์ใหม่ ก็จะลดลง แต่จะเน้นขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปยังคนรุ่นใหม่ที่มีอายุ 12-18 ปีมากขึ้น พร้อมกับจับมือพาร์ทเนอร์ในการสร้างกิจกรรมการตลาด อย่าง “การีน่า ฟรีไฟร์” ขายในราคา 10 บาท เพื่อให้ซื้อง่าย ขายคล่อง
ตอบโจกย์ “กลยุทธ์ 3N” ทั้ง New Product , New Market และ New Business ที่วางไว้ก่อนหน้า
อีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตามอง และ “ตัน” เชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จ จากประสบการณ์ที่สั่งสมมานานกว่าค่อนชีวิต คือ “ธุรกิจเทรดดิ้ง” แม้จะเป็นธุรกิจใหม่ที่ยังไม่เคยทำ แต่ด้วยเครือข่ายและสายสัมพันธ์ที่มีเชื่อว่าจะสร้างให้เกิด และเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
“ในอินโดนีเซีย เรามีหน้าร้านกว่า 1.3 หมื่นร้านค้า ในกัมพูชา เวียดนาม เมียนมา และจีนในหลายมณฑลเราก็มีเครือข่ายร้านค้า การที่เราจะก้าวสู่สนามดิสทริบิวชั่น จึงไม่ใช่เรื่องยาก และมีโอกาสอีกมาก”
“ตัน” ยอมรับว่า ที่ผ่านมาอาจจะก้าวผิดพลาด เพราะยังไม่ตกผลึกในหลายๆ เรื่อง
“ในช่วงแรกเราเข้าในว่าคนในอาเซี่ยนจะมีลิ้นที่มีรสชาติเดียวกัน แต่พอเข้าไปทำตลาดจริงเราถึงรู้ว่าแต่ละประเทศก็มีการรับรู้รสชาติที่ชื่นชอบแตกต่างกันออกไป”
วันนี้อิชิตัน กรุ๊ป เริ่มแข็งแรง หลังจากที่เผชิญวิกฤตมาตลอด 2 ปีได้ “ตัน” บอกว่า มาจาก “พาร์ทเนอร์” ที่ดีเข้ากันได้และแข็งแกร่ง
เส้นทางของ “ตัน” ที่เคยคิดจะวางมือจากธุรกิจก่อนวัย 60 ไม่เป็นไปตามที่คิดหมายไว้ เมื่อธุรกิจต้องเผชิญกับวิกฤตรอบด้าน และ “ตัน” เลือกที่จะเดินหน้าต่อ โดยคอยเป็น “แบล็คอัพ” ให้กับคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมสานต่อ
เส้นทางธุรกิจของ “ตัน ภาสกรนที” ยังต้องเผชิญสิ่งต่างๆอีกมาก โดยเฉพาะการเลือกเดินบนสนามการค้าระดับเอเชีย มีเม็ดเงินนับแสนล้านเป็นตัวเดิมพัน ...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทิ้ง‘ไบเล่-T247’ ‘อิชิตัน’หันรุกเทรดดิ้ง5ปีปั้นรายได้หมื่นล.
เปิดแนวรบ “ตัน ภาสกรนที” Ep. 1 แตกแล้วไม่โต ก็ต้อง “ปิด”
เปิดแนวรบ “ตัน ภาสกรนที” EP.2 " T247" อำลาตลาดชูกำลังหมื่นล้าน