โวยข้าวเหนียวธงฟ้าทุบราคาดิ่ง 4 พันบาท/ตัน

นบข.ติดเบรก ก.พาณิชย์ผลิตข้าวถุงเหนียวธงฟ้าเพิ่ม โวย 300 ตัน ทุบราคาข้าวเปลือกร่วง 4 พันบาท/ตัน ยันเข้าใจช่วยผู้บริโภค แต่ผลกระทบชาวนาตกเป็นแพะรับบาป อย่าอ้างมีประกันรายได้การันตี ไม่คุ้ม ราคาตกต่ำแล้วยากที่จะดันขึ้นมาใหม่ แนะเป็นไปตามกลไกตลาด ควบคู่แผนการผลิตข้าวครบวงจร เชื่อ วิน-วิน ทุกฝ่าย

จากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนและได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาข้าวเหนียวแพง จนทำให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในต้องระดมผู้ประกอบการข้าวถุง โรงสี และโมเดิร์นเทรด เพื่อหารือจนได้ข้อสรุป และมีการผลิตข้าวถุงเนียว ได้ปล่อยคาราวานกระจายข้าวเหนียวถุงลดค่าครองชีพทั่วไทย “โครงการลดภาระค่าครองชีพผู้บริโภคข้าวเหนียว” ขนาด 2 กิโลกรัม ราคาถุงละ 70 บาท และขนาด 5 กิโลกรัม ราคาถุงละ 160 บาท ล็อตแรก 2.6 แสนถุง (300 ตัน)  ส่งขาย 59 จังหวัด เป้าหมายการผลิต1,000 – 3,000 ตัน

นายสุเทพ คงมาก กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์ราคาข้าวเหนียวเป็นไปอย่างที่คาดการณ์ตั้งแต่แรกแล้วว่าราคาจะต้องปรับตัวลดลงมา ประเมินผลิตข้าวถุงแค่ 300 ตันราคายังร่วงลงมาขณะนี้

“วัตถุประสงค์ต้องการช่วยเหลือผู้บริโภค ไม่ใช่ต้องการให้ราคาข้าวเหนียวตก เพราะถ้าราคาข้าวสารถูกผลกระทบราคาข้าวเปลือกก็โดนปรับลดลงมา ซึ่งกรมการค้าภายใน อยู่ระหว่างกลาง ต้องการจะช่วยใคร ช่วยคนส่วนใหญ่ ช่วยคนบริโภค ช่วยชาวนา บางครั้งในการแก้ปัญหาไม่ใช่ ได้นิดเดียว แต่ผลเสียคุ้มไหม

นายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่เห็นด้วยแน่นอน แต่กระทรวงพาณิชย์ไม่อยากให้ผู้บริโภครับประทานแพงเกินไป แต่ในเมื่อกลไกตลาดเป็นแบบนี้ควรที่จะต้องปล่อยให้เป็นไป ตั้งแต่แรกก็เตือนไปแล้วไม่สมควรที่จะใช้นโยบายอย่างนี้ แต่เมื่อทำออกมาแล้วก็ต้องถามต่อไปว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร แต่ไม่ใช่มาบอกว่ารัฐบาลได้ตั้งราคาประกันรายได้ไว้แล้วข้าวเปลือกเหนียว 1.2 หมื่นตัน ซึ่งชาวนาไม่อยากได้ราคาประกัน อยากได้ราคาที่เป็นไปตามกลไกราคาตลาดมากกว่า เมื่อของน้อย ราคาย่อมแพง เป็นธรรมดา พอพูดไป ราคาตกต่ำ ก็จะอ้างว่ารัฐประกันราคาไว้ให้แล้ว

“ในอดีตมีการวางแผนข้าวครบวงจรมีการกำหนดอุปสงค์/อุปทาน ทำให้มีเสถียรภาพในด้านราคา เพราะความต้องการตลาดชาวนารับรู้ว่าเป็นอย่างไร “ตลาดนำการผลิต” มาถึงช่วงของน้อย ราคาดีต้องได้แพง ก็ต้องหาวิธีที่จะทำให้ราคาถูกลงเป็นห่วงโซ่ชิ่งกระทบมากที่สุดก็คือ “ชาวนา” เมื่อของถูก รัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์จะทำอย่างให้แพงขึ้นมา แต่เมื่อดึงราคาของให้ต่ำลงมาเท่ากับราคาประกัน ประโยชน์ตกอยู่ในกลุ่มไหน ไม่ใช่ชาวนาแน่นอน

นายสุเทพ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ข้าวเปลือกขายสดอยู่ที่ตันละ 1.8 หมื่นบาท  วันนี้ (วันที่ 17 ก.ย.62) ราคาข้าวเปลือกขายสด อยู่ที่ 1.4 หมื่นบาทต่อตัน ราคาที่ชาวนาควรจะได้หายวูบไป 4,000 บาท/ตัน จากผลกระทบเห็นภาพแล้วขอให้กรมการค้าภายในหยุดผลิตข้าวสารเหนียว เพราะวันนี้ที่เห็นผู้ส่งออกและโรงสีไม่ได้ออกมาโวยเพราะมีได้กับได้ ที่อนาคตจะได้ซื้อข้าวเปลือกในราคาถูกสบายใจซื้อได้มาก แล้วสมาคมโรงสีข้าวไทยเอง ก็ไปรับลูกนโยบายรัฐสนับสนุนช่วยผลิตข้าวสารเหนียวถุง

“ผมตั้งคำถามว่า วันนี้กระทรวงพาณิชย์ซื้อข้าวสารเหนียวถุงขายกิโลกรัมละ 35 บาท ขายให้กระทรวงพาณิชย์เท่าไร แล้วในเมื่อขายแค่ 35 บาทก็ให้โรงสีขายตรงกับคนบริโภคไปเลย ทำไมต้องไปขายให้กระทรวงพาณิชย์ ผมเป็นห่วงข้าวธงฟ้า แค่ผลิต 300 ตัน ก็ฉุดราคาร่วงแล้ว เพราะถ้าไม่ออกข้าวถุงผมเชื่อว่าราคาจะปรับลงโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่หัวทิ่มดิ่งอย่างนี้ ดังนั้นขอให้หยุดการผลิตเพียงแค่นี้”