อีไอซีคาด Fed ลดดอกเบี้ยได้อีก

13 ก.ย. 2562 | 12:23 น.

อีไอซีมอง แม้ ECB ออกมาตรการผ่อนคลายชุดใหญ่พร้อมกลับมาทำ QE  แต่มีแนวโน้มผ่อนคลายเพิ่มเติม หากเศรษฐกิจไม่ฟื้น พร้อมปรับท่าทีมองเฟด ลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง

 

               นายกำพล อดิเรกสมบัติ ผู้อำนวยการอาวุโส Economic and Financial Market Research ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC)เปิดเผยว่า กรณีที่ธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ประกาศมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินชุดใหญ่ เพื่อป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วยูโรโซน แต่อีไอซีมองว่า หากเศรษฐกิจยูโรโซนยังไม่สามารถฟื้นตัวจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการผลิตในกลุ่มประเทศหลัก และความเสี่ยงข้างต้นส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจยูโรโซนอย่างมีนัยสำคัญ ECB ยังมีแนวโน้มสามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในระยะข้างหน้าผ่านการ 1) ลด Deposit Facility Rate ให้ต่ำลงกว่าเดิมอีก 10-20 bps 2) เพิ่มวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือนเพื่อกระตุ้นสภาพคล่องซึ่งอาจจะต้องมีการขยายข้อจำกัดของวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลแต่ละประเทศ (issuer limit) จากปัจจุบันที่ 33% ให้สูงขึ้นในระยะข้างหน้า

 อีไอซีคาด  Fed ลดดอกเบี้ยได้อีก

               ทั้งนี้ เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงเผชิญความเสี่ยงด้านต่ำ จากทั้งปัจจัยภายนอกและภายในภูมิภาคสูงต่อเนื่อง ทั้งจากผลกระทบสงครามการค้า ความไม่แน่นอนจากเรื่อง Brexit และเสถียรภาพการเมืองในอิตาลี และประมาณการล่าสุด ยังสะท้อนว่าระดับเงินเฟ้อคาดการณ์ยังไม่มีแนวโน้มเข้าสู่ระดับ 2% ภายในปี 2021 รวมถึงการเปลี่ยน forward guidance ของ ECB ที่มีลักษณะปลายเปิดมากขึ้น

อีไอซียังปรับมุมมองว่า ธนาคารกลางสหรัฐ( Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 2 ครั้ง (จากเดิม 1 ครั้ง) ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยการปรับลดครั้งต่อไปน่าจะเกิดขึ้นในการประชุมครั้งถัดไป (วันที่ 17-18 ก.ย.) โดยมีปัจจัยสำคัญจาก 1. เศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งเครื่องชี้ความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน 2. แนวโน้มการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่ผ่านมา กอปรกับแรงกดดันจากแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงของธนาคารกลางอื่น ๆ

               หากในระยะข้างหน้าเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยขึ้นจริง การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการผ่อนคลายนโยบายการเงินของทั้ง Fed และ ECB อาจมีข้อจำกัดมากขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีตนายกำพลกล่าว