NOBLE ทุ่ม 2.37 พันล้าน จ่ายปันผล
NOBLE ทุ่มงบ 2,374 ล้านบาทจ่ายปันผลครึ่งแรกปี 62 หุ้นละ 5.20 บาท 2 ผู้ถือหุ้นใหญ่ “ธงชัย-กิตติ” รับรวมกันร่วมพันล้านบาท โบรกฯชี้ต้องนำกำไรสะสมและกู้เงินบางส่วนมาจ่าย แนะนำ “ถือ”
รายงานข่าวจากตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (NOBLE) แจ้งต่อตลท.ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก ปี 2562 และกำไรสะสม ในอัตราหุ้นละ 5.20 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 26 กันยายน และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 10 ตุลาคม 2562
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ NOBLE แจ้งจ่ายเงินปันผล ราคาหุ้น NOBLE ในช่วงเช้าวันที่ 13 กันยายน 2562 ปรับเพิ่มขึ้นทันที โดยทำราคาสูงสุดที่ 28.75 บาท เป็นจุดสูงสุดตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนปิดการซื้อขายในช่วงเช้าอยู่ที่ 28.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ 8.57% นอกจากนี้ยังมีการซื้อขายบิ๊กล็อตหุ้น NOBLE ในช่วงเช้าจำนวน 2 รายการ รวม 19.25 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 26.25 บาท รวมมูลค่า 505.31 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน NOBLE ได้ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นในช่วงปี 2561 - 2562 ล่าสุดมี nCrowne Pte. Ltd. บริษัทจากสิงคโปร์ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 108.18 ล้านหุ้น หรือ 23.70% นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ถือหุ้นจำนวน 106.45 ล้านหุ้น หรือ 23.32% รับปันผลราว 532 ล้านบาท, นายกิตติ ธนากิจอำนวย ถือหุ้น 86.07 ล้านหุ้น หรือ 18.86% รับปันผลราว 448 ล้านบาท และ BTS Group เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 9.9% ซึ่งหลังจากเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น NOBLE ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดปี 2561 ในอัตราหุ้นละ 6.90 บาท โดยกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) งวดปี 2561 อยู่ที่ 2.16 บาท
สำหรับผลประกอบการ NOBLE ปี 2661 มีกำไรสุทธิ 986 ล้านบาท ส่วนงวดครึ่งแรกปี 2562 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,473 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 640% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสแรกของปีนี้มีรายได้จากการขายที่ดินและโครงการอสังหาริมทรัพย์เข้ามามากกว่าปกติ ขณะที่ ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ คาดมีรายได้ 12,000 ล้านบาท ส่งผลให้สิ้นปีนี้จะมีกระแสเงินสดสะสมประมาณ 5,000 ล้านบาท
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ ระบุว่า การจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 5.20 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลสูงถึง 19.8% ก็จริง แต่หากพิจารณากำไรสุทธิต่อหุ้นในงวดครึ่งแรกปี 2562 ทำได้เพียงหุ้นละ 3.23 บาทเท่านั้น จึงต้องนำกำไรสะสมบางส่วนมาจ่าย โดยการปันผลครั้งนี้ต้องใช้เงิน 2,374 ล้านบาท ส่วนกำไรสะสมงบเดี่ยวสิ้นไตรมาส 2 ปี 2562 อยู่ที่ 5,665 ล้านบาท รวมถึงมีเงินสดและเงินลงทุนรวม 1,185 ล้านบาท ซึ่งต้องกู้เงินบางส่วนมาจ่ายปันผลด้วย ทำให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (ดีอี) เพิ่มเป็น 3.1 เท่า เทียบกับเดิมที่ 1.93 เท่า
นอกจากนี้หลังจากการปันผลงวดปี 2561 ที่สูงถึงหุ้นละ 6.90 บาท ทำให้ NOBLE ถูกทริสปรับลดแนวโน้มเครดิตเป็น “ลบ” ทันที จากเดิม “คงที่” แต่คงอันดับเครดิตองค์กรไว้ที่ “BBB” การที่บริษัทจ่ายปันผลสูงอีกครั้งในรอบครึ่งแรกปีนี้ อาจต้องจับตาว่าทริสจะปรับลดอันดับเครดิตองค์กรหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการเงินในการกู้ต่อไปในอนาคต ทั้งนี้แนะนำ “ถือ” ราคาพื้นฐานหุ้นละ 25.68 บาท
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,505 วันที่ 15-18 กันยายน 2562
